บึ้มยะลา 3 จุดตาย-เจ็บระนาว ชงงบ 1.2 พันล้านจ่ายเหยื่อไฟใต้ โยน ศธ.เพิ่มเยียวยาครู
ยะลาป่วนหนัก วันเดียวระเบิด 3 จุดใน 3 อำเภอ ตูมสนั่นรถลำเลียงพลของทหารเจ็บ 5 ที่ อ.เมือง บึ้มรถกระบะขาดสองท่อนที่รามัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านสังเวย ส่วนที่บันนังสตาทหารเจ็บอีกหนึ่ง ด้านคณะกรรมการเยียวยาไฟใต้คลอดเกณฑ์ช่วยเหลือล็อต 2 "เหยื่อซ้อมทรมาน-อุ้มหาย" ได้รับการเหลียวแล เผยกรณี "สุไลมาน แนซา" เข้าข่ายได้ 7.5 ล้าน โยนกระทรวงศึกษาฯเพิ่มสวัสดิการช่วยเหลือ "ครู" ขณะที่ ศอ.บต.ของบ 1.2 พันล้านเยียวยาเหยื่อเหตุร้ายรายวัน 3,042 ราย
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงต้นสัปดาห์นี้ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 08.50 น.วันอังคารที่ 3 ก.ค.2555 คนร้ายลอบวางระเบิดโจมตีรถบรรทุกหกล้อลำเลียงพล แบบเอ็ม-35 บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 409 ท้องที่หมู่ 6 บ้านต้นพิกุล ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ห่างจาก สภ.ลำใหม่ เพียง 300 เมตร เหตุเกิดขณะลำเลียงกำลังพลจำนวน 6 นายสังกัดกองร้อยทหารราบที่ 5031 (ร้อย ร.5031) หน่วยเฉพาะกิจยะลา 11 ไปรับสิ่งของที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ลำใหม่ แรงระเบิดทำให้รถบรรทุกลำเลียงพลได้รับความเสียหายและเสียหลักตกลงไปข้างทาง มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 นาย
ทั้งนี้ หลังสิ้นเสียงระเบิด คนร้ายอีกชุดหนึ่งมีรถกระบะเป็นพาหนะ ได้ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มซ้ำ จนเกิดการยิงปะทะกันกับเจ้าหน้าที่ทหารครู่ใหญ่ ก่อนที่คนร้ายจะล่าถอยไป
รายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บ ประกอบด้วย จ.ส.อ.สุรศักดิ์ สุขเอียด อาการสาหัส จ.ส.อ.ประวิทย์ ฝันฤกษ์ พลทหารสุธน อิ่มใหญ่ พลทหารเอกพล กรดกางกั้น และ พลทหารคุณากร ทองหนูเอียด โดยทั้ง 4 นายบาดเจ็บเล็กน้อย
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบว่าระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 3-5 กิโลกรัม วางซุกไว้ในตะกร้ารถจักรยานยนต์ที่จอดทิ้งไว้ริมทาง โดยนำกล้วยมาวางทับไว้เพื่ออำพราง ก่อนจุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารหรือโทรศัพท์มือถือ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
บึ้มถังดับเพลิงปลิดชีพผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
ต่อมาเมื่อเวลา 12.15 น. เกิดระเบิดขึ้นบนถนนในหมู่บ้าน บ้านลือมุ หมู่ 5 ต.โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา ท้องที่รับผิดชอบ สภ.โกตาบารู แรงระเบิดทำให้รถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตราด้า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บฉ 8225 ยะลา พังยับเยิน ตัวถังขาดสองท่อน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายมะรอมือลี เจ๊ะยูโน อายุ 49 ปี เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.บือมัง อ.รามัน อยู่บ้านเลขที่ 42/1 หมู่ 2 ต.บือมัง
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบและสอบสวนจนทราบว่า ระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม ประกอบใส่ในถังดับเพลิง ฝังไว้ใต้ผิวถนน และจุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ โดยก่อนเกิดเหตุนายมะรอมือลีขับรถกลับจากการประชุม ณ ที่ว่าการอำเภอรามัน กำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน เมื่อถึงจุดเกิดเหตุคนร้ายได้กดจุดชนวนจนเกิดระเบิดอย่างรุนแรง รถขาดสองท่อน ทำให้นายมะรอมือลีเสียชีวิตคาที่
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ แต่ยังไม่สรุปว่าเป้าสังหารคือนายมะรอมือลี เพราะคนร้ายอาจตั้งใจลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารหรือตำรวจ แต่รถของนายมะรอมือลีเป็นรถกระบะคล้ายกับรถเจ้าหน้าที่ เมื่อคนร้ายเห็นจึงอาจกดระเบิดจนเกิดเหตุสลดทั้งๆ ที่ไม่ใช่เป้าหมาย
ย้อนอดีตแค่ 2 เดือนยิงกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านขณะกลับจากประชุม 3 ครั้ง
อนึ่ง สำหรับเหตุการณ์ดักสังหารผู้นำฝ่ายปกครองท้องที่อย่างกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยฉวยจังหวะช่วงเดินทางกลับจากประชุมที่อำเภอหรือจังหวัดนั้น เกิดขึ้นมาแล้วถึง 3 ครั้งในห้วงเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา
โดยเมื่อวันอังคารที่ 5 มิ.ย.คนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คนมีรถกระบะเป็นพาหนะ ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มรถของผู้ใหญ่บ้านบ้านกอแล ต.ลางา อ.มายอ จ.ปัตตานี ขณะนั่งรถกระบะพร้อมครอบครัวและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านรวม 4 คนกลับจากร่วมประชุมประจำเดือนที่โรงเรียนมายอสถิตย์ภูผา เหตุเกิดบริเวณสี่แยกถนนสายมายอ–ปาลัส ท้องที่บ้านคลองโต๊ะเนาะ หมู่ 3 ต.สะกา อ.มายอ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 4 ราย รวมทั้ง นายมะนาเซ ตาเห อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านกอแล ต.ลางา
วันเดียวกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนมีรถกระบะเป็นพาหนะ ใช้อาวุธสงครามยิงถล่ม นายยา แวนิ อายุ 57 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้ากอแลบิเละ ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี เสียชีวิตคาที่ขณะนายยาขับรถกระบะกลับจากประชุม ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองปัตตานี เหตุเกิดในท้องที่บ้านกือยา หมู่ 3 ต.ปะกาฮารัง
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 พ.ค.คนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คนมีรถกระบะเป็นพาหนะ ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มรถของ นายสังวรณ์ สุวรรณราช อายุ 57 ปี กำนัน ต.ทุ่งคล้า อ.สายบุรี ทำให้กำนันสังวรณ์ พร้อมสารวัตรกำนัน และผู้ช่วยกำนัน เสียชีวิตรวม 4 ศพ เหตุเกิดบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 (ปัตตานี-นราธิวาส) ท้องที่หมู่ 6 บ้านบาโงมูลง ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ขณะที่นายสังวรณ์ขับรถกลับจากการประชุมร่วมกับนายอำเภอ ณ ที่ว่าการอำเภอสายบุรี
ระเบิดรถหุ้มเกราะ-ทหารเจ็บอีก 1
เวลา 13.30 น.วันอังคารที่ 3 ก.ค.เช่นกัน เกิดระเบิดขึ้นอีกจุดหนึ่ง บนถนนสายปาลอปาตะ ทางเข้านิคมกือลอง ในท้องที่บ้านกือลอง หมู่ 2 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา แรงระเบิดทำให้รถหุ้มเกราะรีว่าของทหารสังกัดกองร้อยทหารราบที่ 7021 (ร้อย ร.7021) หน่วยเฉพาะกิจยะลา 15 ได้รับความเสียหาย มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ ส.อ.รณชัย สาพา อายุ 22 ปี เพื่อนทหารช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลบันนังสตา
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมชุดพิสูจน์หลักฐานได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบว่าระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ในถังแก๊ส จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร โดยคนร้ายจุดชนวนระเบิดเพื่อโจมตีทหารชุดลาดตระเวนกำลังพล 7 นาย ขณะเดินทางกลับจากปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยการประชุมในนิคมกือลอง เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบเช่นกัน
ยิงรายวัน 4 วัน 4 เหตุ ตาย 1 เจ็บ 3
เวลา 19.00 น.วันเดียวกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกขนาด 11 มม.ยิง นายเด๊ะแว แมเร๊าะ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/1 หมู่ 5 ต.เกะรอ อ.รามัน จ.ยะลา ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนทางหลวงหมายเลข 4060 ท้องที่บ้านตาเนาะปูโย๊ะ หมู่ 3 ต.เกะรอ ขณะที่นายเด๊ะแวขี่รถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้างกำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ก.ค.เวลา 15.10 น.คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง นายอ้วน วงศ์แดง อายุ 79 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 บ้านคล้า หมู่ 1 ต.ตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดขณะที่นายอ้วนกำลังนั่งพักผ่อนอยู่หน้าบ้านของตนเอง เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิงเช่นกัน
วันเสาร์ที่ 30 มิ.ย.เวลา 05.00 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนลูกซองลอบยิง นายมะยูโซ๊ะ ซีเด๊ะ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 375 บ้านบ่ออ่าง บ้านย่อยของบ้านคอกช้าง หมู่ 7 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดขณะที่นายมะยูโซ๊ะยืนอยู่หน้าบ้านของตนเอง เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
เวลา 15.45 น.วันเดียวกัน คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง นายคลิ้ง แก้วเกาะสะบ้า อายุ 71 ปี เจ้าของโรงงานทำอิฐบล็อก อยู่บ้านเลขที่ 211 หมู่ 3 ต.เกาะสะบ้า อ.เทพา จ.สงขลา ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่โรงงานทำอิฐบล็อกของนายคลิ้งเอง เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง แต่ให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งส่วนตัว
ครม.ไฟเขียวเพิ่มเงินพิเศษ จนท.เคหะ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคารที่ 3 ก.ค.ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการให้การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ปรับอัตราเงินตอบแทนพิเศษรายเดือนแก่พนักงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัยจังหวัดชายแดนภาคใต้ จากอัตรารายละ 2,500 บาทต่อเดือน เป็นรายละ 5,000 บาทต่อเดือน ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.2555 เป็นต้นไป
กรรมการเยียวยาฯโยน ศธ.เพิ่มเยียวยาครูใต้
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันจันทร์ที่ 2 ก.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุมคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน โดยมีวาระสำคัญเพื่อสรุปหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบกลุ่มต่างๆ
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการเยียวยาฯ เปิดเผยกับ "ทีมข่าวอิศรา" ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาหลายกรณีที่ยังไม่มีข้อสรุปและมีข้อเรียกร้องเข้ามาจากกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ เช่น กลุ่มครูที่ออกมาเรียกร้องการช่วยเหลือเยียวยาพิเศษเป็นเงิน 4 ล้านบาทสำหรับครูที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความรุนแรงนั้น ที่ประชุมได้เชิญ นายบุญสม ทองศรีพลาย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และครูผู้หญิงอีก 3 คนที่สูญเสียสามีจากเหตุการณ์ความไม่สงบมาให้ข้อมูล
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการว่า แต่ละกระทรวง ทบวง กรม ล้วนมีสวัสดิการและสิทธิประโยชน์เพื่อช่วยเหลือข้าราชการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่แล้ว แต่หลักเกณฑ์ของแต่ละหน่วยไม่เท่ากัน อยู่ในช่วง 1-3 ล้านบาท
ฉะนั้นจึงเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะต้นสังกัดของข้าราชการครู และหน่วยงานอื่นๆ ไปปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้เท่าเทียมกันเพื่อความเป็นธรรม โดยเฉพาะครูซึ่งถือเป็นเป้าหมายอ่อนแอ ป้องกันตัวเองไม่ได้ แม้จะมีการสั่งการให้กองกำลังไปช่วยรักษาความปลอดภัยแล้ว แต่ก็ยังเกิดเหตุร้าย ถือเป็นเรื่องที่รัฐต้องดูแล โดยมอบให้กระทรวงศึกษาธิการไปพิจารณา อาจจะให้การช่วยเหลือรายละ 4 ล้านบาทตามความต้องการของกลุ่มครู ซึ่งตลอด 8 ปีที่ผ่านมามีครูเสียชีวิต 118 ราย รวมบุคลากรทางการศึกษาอีกจำนวนหนึ่ง (ข้อมูลที่ ศอ.บต.รวบรวมมา) ก็น่าจะใช้งบประมาณไม่มากจนเกินไปนัก
กรือเซะยังนิ่ง-เหยื่อซ้อมทรมานได้เยียวยา
ส่วนกรณีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์วันที่ 28 เม.ย.2547 ที่มัสยิดกรือเซะ อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการเยียวยาฯ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2555 มีมติให้ช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 4 ล้านบาท จนสร้างความไม่พอใจให้กับครอบครัวผู้สูญเสีย เนื่องจากกรณีอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกัน คณะกรรมการเยียวยาฯ มีมติให้ความช่วยเหลือเป็นเงิน 7.5 ล้านบาทนั้น
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า กรณีกรือเซะยังไม่มีข้อมูลใหม่เข้ามาที่คณะกรรมการเยียวยาชุดใหญ่ จึงยังไม่มีมติอะไรเพิ่มเติม แต่ก่อนหน้านี้ช่วงที่มีปัญหา ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง โดยมี ว่าที่ ร.ต.เลิศเกียรติ วงศ์โพธิพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธาน เท่าที่ทราบคณะกรรมการชุดนี้ยังทำงานอยู่ โดยเน้นสร้างความเข้าใจ และยังไม่ได้รายงานข้อมูลกลับมาเพิ่มเติม
สำหรับกลุ่มอื่นๆ ที่ได้พูดคุยกันในคณะกรรมการฯ คือ กลุ่มบุคคลสูญหายและถูกซ้อมทรมาน ก็จะพิจารณาเป็นรายกรณีไป โดยมีอนุกรรมการรับผิดชอบ
มีรายงานว่า กรณีของ นายสุไลมาน แนซา ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงที่เสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัวในศูนย์เสริมสร้างความสมานฉันท์ ภายในค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ในสภาพมีผ้าแขวนคอผูกติดกับเหล็กดัดหน้าต่างห้องควบคุมตัว เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2553 ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่านายสุไลมานผูกคอตายเอง แต่ญาติไม่เชื่อ และสงสัยว่าอาจถูกทำร้ายจนตายนั้น คณะกรรมการเยียวยาชุดใหญ่ฯมีมติให้การช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวเป็นเงิน 7.5 ล้านบาท
พ.ต.อ.ทวี กล่าวเสริมด้วยว่า หลักการของการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบนั้น ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องถูกผิด แต่มองเรื่องมนุษยธรรม และลบบาดแผลในใจของเหยื่อความรุนแรง
"เราไม่ได้มองว่าใครผิดหรืออไม่ผิด แต่ตั้งใจจะให้การเยียวยาครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนผ่านสถานการณ์ความรุนแรงไปสู่สันติสุข" เลขาธิการ ศอ.บต.ระบุ
ชงงบ 1.2 พันล้านจ่ายเหยื่อไฟใต้ 3 พันราย
ประเด็นเรื่องหลักเกณฑ์เยียวยา ยังมีการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมาด้วย โดยที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบปรับปรุงหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนที่เสียชีวิตและทุพพลภาพจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่คณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ ครม.ได้มีมติไปก่อนหน้านั้น
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เยียวยาใหม่ ประกอบด้วย 1.กรณีประชาชนผู้เสียชีวิตสืบเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบ จากเดิมได้รับการช่วยเหลือเป็นเงินจำนวน 1 แสนบาท เพิ่มเป็น 5 แสนบาท 2.กรณีประชาชนผู้ทุพพลภาพสืบเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบ จากเดิมได้รับการช่วยเหลือเป็นเงิน 8 หมื่นบาท เพิ่มเป็น 5 แสนบาท
โดยที่ประชุม กพต.ได้เห็นชอบให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเยียวยาดังกล่าว พร้อมขออนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ในหมวดงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่เสียชีวิตและทุพพลภาพ โดยให้ย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2547 ถึงวันที่ 30 มิ.ย.2555 ประมาณการว่ามีผู้เข้าข่ายได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจำนวน 3,042 ราย วงเงินงบประมาณ 1,216 ล้านบาทเศษ โดยจะดำเนินการในปีงบประมาณ 2555-2558
อย่างไรก็ดี ได้มีมติ ครม.เมื่อวันที่ 24 เม.ย.2555 อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ในหมวดงบกลาง จำนวน 2,080 ล้านบาท โดยรวมการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาประชาชนกลุ่มที่จะได้รับการช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ใหม่ไว้ด้วยแล้ว จำนวน 500 ล้านบาท ที่ประชุม กพต.จึงมีมติให้นำงบส่วนนี้จ่ายให้กับผู้เสียชีวิตและทุพพลภาพ รายละ 1 แสนบาท รวมเป็นเงิน 304.200 ล้านบาท ที่เหลือเป็นการช่วยเหลือเรื่องคุณภาพชีวิต ดังนั้นจึงจะขออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมอีกปีละ 304.200 ล้านบาท ใน 3 ปีงบประมาณ คือปี 2556-2558 รวมเป็นเงิน 912.6 ล้านบาท
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : รถบรรทุกลำเลียงพลแบบ เอ็ม-35 เสียหลักพุ่งตกข้างทางหลังถูกคนร้ายลอบวางระเบิดในท้องที่ อ.เมือง จ.ยะลา ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 5 นาย (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)
