โบอิ้งลดการผลิตเครื่องบิน "737 แม็กซ์"
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ว่าบริษัทโบอิ้งออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ เรื่องการลดจำนวนการผลิตเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ จากเดือนละ 52 ลำเหลือเดือนละ 42 ลำ "เป็นการชั่วคราว" เริ่มตั้งแต่กลางเดือนนี้เป็นต้นไป เนื่องจากบริษัทต้องการเพิ่มการให้ความสำคัญกับซอฟต์แวร์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการทรงตัวของเครื่องบิน และผลการตรวจสอบเบื้องต้นของหลายฝ่ายเป็นไปในทางเดียวกันว่า ระบบดังกล่าวคือต้นเหตุการตกของเที่ยวบินเจที610 ของไลอ้อน แอร์ ในทะเลชวาของอินโดนีเซีย เมื่อเดือนต.ค. ปีที่แล้ว และเที่ยวบินอีที302 ของเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ส ในเขตชานกรุงแอดดิสอาบาบา เมื่อต้นเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตรวมกันมากถึง 346 คน และทั้งสองเที่ยวบินใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8
ขณะเดียวกัน โบอิ้งยังประกาศจัดตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อตรวจสอบการออกแบบและการพัฒนาเครื่องบินทุกรุ่นอย่างละเอียดด้วย ด้านนายเดนนิส มุยเลนเบิร์ก ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ( ซีอีโอ ) ของโบอิ้ง ยอมรับว่าการลดจำนวนการผลิตเครื่องบิน 737 แม็กซ์ สอดคล้องกับ "ภาวะวิกฤติ" หลายอย่างที่กำลังเกิดขึ้นกับเครื่องบินรุ่นดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกคำสั่งซื้อของสายการบินหลายแห่ง และการที่รัฐบาลทั่วโลกสั่งให้สายการบินระงับใช้เครื่องบินตระกูล 737 แม็กซ์ และห้ามเครื่องบินรุ่นนี้ผ่านน่านฟ้าของประเทศตัวเอง
ทั้งนี้ การประกาศลดการผลิตเครื่องบิน 737 แม็กซ์ ส่งผลให้ราคาหุ้นของโบอิ้งปิดตลาดที่ 391.93 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 12,501 บาท ) ลดลงมากกว่า 2% โดยเดิมทีโบอิ้งมีแผนเพิ่มการผลิตเครื่องบิน 737 แม็กซ์เป็นเดือนละ 57 ลำ เพื่อให้ทันดับรายการสั่งซื้อที่ยังคงค้างอีกเกือบ 5,000 ลำ แต่การที่การูด้า อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของอินโดนีเซีย เป็นสายการบินขนาดใหญ่แห่งแรกที่ประกาศยกเลิกรายการสั่งซื้อโบอิ้่ง 737 แม็กซ์ 8 ที่ยังเหลืออีก 49 ลำ หลังได้รับไปแล้วลำหนึ่ง โดยอาจเป็นการยกเลิกหรือเปลี่ยนคำสั่งซื้อบางส่วนเป็นเครื่องบินรุ่นอื่นของโบอิ้ง เพิ่มความเป็นไปได้ว่าจะมีสายการบินอื่นเดินตามรอย.
ที่มา: https://www.dailynews.co.th/foreign/702648

