“อุกฤษ” มองคำวินิจฉัย “ศุกร์ 13” ชี้เดินสายกลาง ปล่อยแก้ รธน.รายมาตรา
“อุกฤษ” มองคำวินิจฉัยศาล รธน. “ศุกร์ 13” มี 3 แนวทาง ชี้เดินสายกลาง แก้รายมาตรา บอกการตัดสินต้องยึดความยุติธรรม ห้ามมีใบสั่ง ยันไม่ใช่หมอดู แต่ฟันธง บ้านเมืองผ่านไปได้ มีพระสยามเทวาธิราชคุ้มครอง ไม่มีเหตุการณ์นองเลือด
วันที่ 11 กรกฎาคม ศ.อุกฤษ มงคลนาวิน ประธานกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (ศอ.นธ.) กล่าวถึงแนวทางคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญตาม มาตรา 291 เข้าข่ายล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 68 หรือไม่ ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ว่า อาจมีคำวินิจฉัยออกมาได้ใน 3 แนวทาง คือ
1. ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า คำร้องต่างๆ ไม่เข้าตามมาตรา 68 หรือถึงแม้จะเข้าข่ายตามมาตรา 68 ก็ควรเป็นไปตามช่องทางปกติ คือไปผ่านอัยการเสียก่อน ซึ่งในเรื่องนี้นักนิติศาสตร์เกือบ 100% ก็ออกมาให้ความเห็นว่า มาตรา 68 ไม่สามารถนำมาใช้บังคับในกรณีนี้ได้
2.ศาลอาจมีคำวินิจฉัยให้ร่างรัฐธรรมนูญที่จะแก้ไขเพื่อเติมดำเนินการต่อไปได้ แต่ให้แก้ไขได้เป็นรายมาตรา ไม่แก้ทั้งเฉพาะ เพราะอาจไปกระทบเทือนส่วนที่ถูกกล่าวหาว่าจะมีการล้มล้างการปกครอง ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่า แนวทางนี้เป็นทางสายกลางและดีที่สุด บ้านเมืองจะได้สงบลง สภาก็จะสามารถดำเนินการตามมาตรา 291 ต่อไป ซึ่งข้อดีคือไม่ต้องไปเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาอีกเป็นปี เสียงบประมาณเกือบ 2,000 ล้านบาท
และ 3.แนวทางสุดโต่ง ศาลวินิจฉัยออกมาว่าทั้งหมดเป็นการกระทำที่ไม่ชอบ จะล้มล้างการปกครอง ซึ่งถ้าออกมาในแนวทางนี้ก็ต้องตัวใครตัวมัน
เมื่อถามว่าหากคำตัดสินออกมาในทางสุดโต่ง จะเกิดวิกฤตหรือไม่ ศ.อุกฤษ กล่าวว่า องค์คณะศาลรัฐธรรมนูญก็เป็นคนที่รักชาติเหมือนกัน เมื่อมีหน้าที่ตัดสินเรื่องต่างๆ ของบ้านเมือง เรื่องกฎหมายก็ต้องคำนึงถึงความยุติธรรม ขณะเดียวกันวัตถุประสงค์ของกฎหมายก็มีขึ้นเพื่อให้เกิดความยุติธรรม เพื่อความสงบเรียบร้อย แม้ความคิดเห็นจะเป็นอีกอย่างหนึ่ง แต่อาจจะทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมืองอย่างที่มีการคาดคะเน ถ้ายังฝืนทำต่อไปคงต้องถือว่าเป็นที่ทรยศต่อวิชาชีพ ประเทศชาติ จึงอยากขอให้คิดให้ดี สิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่ 13 ก.ค.นี้จะปรากฏในประวัติศาสตร์ เรียนมาจากสำนักใด และมีผลงานใดบ้างเป็นที่ยอมรับนับถือของประชาชน
“การตัดสินต้องเป็นไปอย่างยุติธรรม ปราศจากอคติ รักโลภ โกรธ หลง ใบสั่งมีไม่ได้” ศ.อุกฤษ กล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม แม้ตนจะไม่ใช่หมอดู แต่เชื่อว่าสถานการณ์หลังจากมีคำวินิจฉัยในทางใดก็ตาม บ้านเมืองจะผ่านไปได้ เพราะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระสยามเทวาธิราช บุญบารมีพระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัว และความเป็นคนไทยด้วยกัน ไม่มีเหตุการณ์นองเลือดแน่นอน ฟันธง
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามในช่วงท้ายด้วยว่า สรุปการแก้รัฐธรรมนูญตามมาตรา 291 มีช่องกฎหมายให้แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้หรือไม่ ศ.อุกฤษ กล่าวว่า เรื่องนี้คงไม่มีการแก้ทั้งฉบับอยู่แล้ว หลายคนก็ออกมาบอกแล้วว่า หมวดที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์จะไม่แตะต้อง
“อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการแก้รัฐธรรมนูญนั้น ตนเห็นว่า ไม่ควรรังเกียจเดียดฉันท์ว่า เป็นรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 40 หรือปี 50 ควรนำเนื้อหาที่ดีของรัฐธรรมนูญทั้งสองฉบับมาใช้ หลายมาตราในรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 ที่ดีที่ยังใช้ได้ก็ควรคงไว้ ส่วนฉบับปี 40 ที่นำไปสู่เหตุการณ์วุ่นวายก็ตัดทิ้งไป” ศ.อุกฤษ กล่าว
