กลุ่มธุรกิจอียูฟ้อง ปัญหาบังคับ “ถ่ายโอนเทคโนโลยี” ในจีนมีเพิ่มมากขึ้น
รอยเตอร์ – กรณีบริษัทยุโรปถูกบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยีในจีนกำลังมีเพิ่มมากขึ้น ถึงแม้ว่าทางปักกิ่งจะกล่าวว่าปัญหาดังกล่าวไม่มีอยู่จริงก็ตาม กลุ่มล็อบบี้ธุรกิจยุโรป ระบุ และเสริมว่า ภาพอนาคตเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมการควบคุมของประเทศนี้ค่อนข้างสิ้นหวัง
หุ้นส่วนการค้าของจีนร้องเรียนมานานว่า บริษัทของพวกเขาถูกบังคับให้มอบเทคโนโลยีมูลค่าสูงเพื่อแลกกับสิทธิในการเข้าถึงระบบเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก
ข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ที่ให้จีนจัดการกับปัญหานี้เป็นจุดสำคัญของสงครามการค้าของสองประเทศนี้ ซึ่งได้เห็นทั้งสองฝ่ายใช้มาตรการเพิ่มภาษีกับสินค้ามูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ของอีกฝ่าย
วันนี้ (20) สภาการค้าสหภาพยุโรปในจีน (European Union Chamber of Commerce in China) ระบุว่า การสำรวจประจำปีเผยให้เห็นว่า 20% ของสมาชิกรายงานว่าถูกบังคับให้ถ่ายโอนเทคโนโลยีเพื่อแลกกับสิทธิการเข้าถึงตลาด เพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์จากสองปีที่แล้ว
เกือบ 1 ใน 4 ของผู้ร้องเรียน ระบุว่า พฤติกรรมดังกล่าวยังเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน ขณะที่อีก 39 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่า การถ่ายโอนเพิ่งเกิดขึ้นไม่ถึง 2 ปี
“น่าเศร้าที่สมาชิกของเรารายงานว่า การบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยีไม่ใช่แค่ยังคงอยู่เท่านั้น แต่ว่า มันเกิดมากขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อเทียบกับตัวเลขเมื่อสองปีที่แล้ว” ชาร์ลอตต์ รูเล รองประธานสภายุโรป กล่าวในการแถลงข่าวเรื่องผลสำรวจ
“มันอาจเกิดขึ้นจากหลายๆ เหตุผล แต่มันก็ไม่อาจยอมรับได้ที่การปฏิบัติเช่นนี้ยังคงเกิดขึ้นในตลาดที่ใหญ่และก้าวหน้าอย่างจีน” รูเล กล่าว
ในภาคอุตสาหกรรมล้ำสมัยบางส่วน กรณีการบังคับถ่ายโอนมีสูงยิ่งกว่า เช่น 30 เปอร์เซ็นต์ในกลุ่มเคมีและปิโตรเลียม , 20 เปอร์เซ็นต์ในกลุ่มอุปกรณ์การแพทย์ , 27 เปอร์เซ็นต์ในกลุ่มเภสัชภัณฑ์ เธอกล่าวเสริม
เมื่อวันเสาร์ (18) หนังสือพิมพ์ พีเพิล เดลีย์ ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระบุว่า ข้อร้องเรียนของวอชิงตันในประเด็นนี้เป็น “การปั้นน้ำเป็นตัว”
ท่ามกลางสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนที่รุนแรงขึ้น ปักกิ่งได้กดดันอียูให้ร่วมมือกับพวกเขาต่อต้านนโยบายการค้าของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ถึงแม้ว่ากลุ่มการค้าใหญ่ที่สุดของโลกนี้จะปฏิเสธความพยายามดังกล่าวเป็นส่วนใหญ่ก็ตาม