ที่แรก! “เสี่ยตัน อิชิตัน” เผยเคล็ดแทคแคร์สื่อ-เหตุ ความซี้ “สรยุทธ์”?

EXCLUSIVE! “เสี่ยตัน อิชิตัน” เผยเคล็ดลับเทคแคร์สื่อ-จนสนิทกับนักเล่าข่าวคนดัง และจับตา! เจ้าตัวจะยอมเฉลยหรือไม่? ว่าเคยถูกพรรคการเมืองใด จีบให้ลงเล่นการเมือง
ปกติจะปรากฏตัวตามสี่อ ในหน้า “ธุรกิจ” นานๆ ถึงจะปรากฏตัว ในหน้า “การเมือง” สักครั้ง
แต่พลันที่ “สำนักข่าวอิศรา” ตรวจสอบพบว่า ปลายปี 2554 นายตัน ภาสกรนที ผู้ก่อตั้ง บ.อิชิตัน เคยขายที่ดินกลางกรุง ให้กับ บ.ของ “โอ๊ค” นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
แถมยังลงขันร่วมกับ “นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา” นักเล่าข่าวชื่อดัง ซื้อที่ดินใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
(คลิกอ่าน! ถ้าอยากรู้ว่า “ตัน-โอ๊ค-สรยุทธ” มีสัมพันธ์ทางธุรกิจอย่างไร? ทั้ง ตอน 1 และ ตอน 2)
เรื่องดังกล่าว เลยกลายเป็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ กระทั่งเพื่อนสนิทบางคนยังมาถามจากนายตันว่า “มึงไปเป็นลูกน้องทักษิณตั้งแต่เมื่อไร?!?”
ที่สุด “เสี่ยตัน อิชิตัน” ต้อง โพสต์ข้อความในแฟนเพจส่วนตัว ขอความเห็นใจว่าอย่าโยงตัวเขาไปยุ่งกับการเมือง
พร้อมกับเชิญ 2 นักข่าวหนุ่มจากสำนักข่าวอิศรา ไปที่ชั้น 28 อาคารชาญอิสระ 2 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ฐานบัญชาการของชาเขียวอิชิตัน เพื่อทำความเข้าใจ “ข้อห่วงใย” และชี้แจงตอบ “ข้อสงสัย”
เป็นที่มาของ “2 ตัวละครลับ” ที่โผล่ขึ้นมา ในใยแมงมุมสายสัมพันธ์ของบุคคล ทั้ง 3
ทั้งโบรกเกอร์ ชื่อ “นายโทนี่” ที่เป็นตัวเชื่อมระหว่าง “โอ๊ค-ตัน” ในการขายที่ดินย่านเพลินจิต
ส่วน “น.ส.สุกัญญา แซ่ลิ่ม” กรรมการ บ.ไร่ส้ม ก็ถูกอ้างว่า เป็นแค่ตัวกลางในการลงขันซื้อที่หัวหิน ของ “เสี่ยยุทธ-เสี่ยตัน” เท่านั้น
แต่เรื่องลับที่แถมท้ายมาในบทสนทนา และเจ้าพ่อชาเขียวอาจไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน นั่นก็คือเคล็ดในการแทคแคร์ดูแลสื่อ ซึ่งเหตุผลนอกจาก ทำเพื่อ “ตอบแทนบุญคุณ” ยังเพราะ “ความจำเป็นทางธุรกิจ” !
มาเีริ่มกันที่ ความสนิทสนมกับ “หัวหน้าครอบครัวข่าว” ก่อนดีไหม...

“ผมกับคุณสรยุทธไม่มีธุรกิจอะไรที่เกี่ยวข้องกัน เพียงแต่จะไปซื้อคอนโดแล้วสุดท้ายกลายเป็นที่ดิน สุดท้ายก็จะไม่แบ่งกัน ก็เหมือนคุณกับเพื่อนไปซื้อที่ไปแบ่งกัน คือเขาจะขายทั้งแปลง ผมเอานิดเดียว ก็เลยซื้อด้วยกัน แล้วจะไปแบ่งกัน เผื่อเมียจะเปิดร้านช็อคโกแลตเล็กๆ แต่เราไม่ได้ทำธุรกิจร่วมกัน เพราะผมไม่มีนโยบายทำธุรกิจเพิ่มแล้ว”
-รู้จักกับคุณสรยุทธได้ยังไง
คือ ผมรู้จักทุกคน เพราะเป็นลูกค้าของทุกช่อง จะบอกว่าไม่รู้จัก ก็เป็นไปไม่ได้ แต่ก็รู้จักในฐานะเป็นคนรู้จักกัน กับกนกก็รู้จัก รู้จักทุกคนแหล่ะ แต่ผมรู้จักเขา บางคนอาจจะไม่รู้จักผมก็ได้นะครับ ก็ไม่มีอะไร แต่ไม่เกี่ยวข้องกันในทางธุรกิจ
-เริ่มรู้จักตั้งแต่เมื่อไร
โอ้ย เป็นลูกค้าเขาตั้งแต่อยู่เนชั่น ก็เคยเจอ เคยคุยกัน พอมาช่อง 9 ผมก็เป็นลูกค้า คือผมซื้อ(โฆษณา) ทุกสื่อไง นสพ.ผมซื้อทุกฉบับ ไม่ได้ซื้อแค่ไทยรัฐฉบับเดียว เวลาผมมี campaign อะไร เกือบทุกฉบับ ผมจะมีนโยบายว่า อย่างน้อย 1 ปีต้องซื้อ 1 ครั้ง ก็เป็นมิตร
- เอาไว้สร้างมิตรภาพ
ใช่ คนเราก็ต้องมี โอเค เงินที่ผมให้โบรกเกอร์ เอเจนซี่ เขาซื้อตามเรตติ้ง แต่ผมซื้อทุกฉบับ สมัยก่อนถ้าใครมี บ.ใหม่ๆ ผมจะเข้าไปซื้อ อย่างคุณกนก (รัตนวงศ์สกุล) ย้ายกลับไปอยู่เนชั่น วันแรก ผมก็เข้าไปซื้อโฆษณา ดีไม่ดีไม่รู้ แต่ผมถือว่า ที่เรามีวันนี้ มาจากสื่อทั้งนั้น ผมไปออกสื่อตั้งแต่ผมยังไม่มีโฆษณา บางรายการไปออกมา 2-3 รอบ ยังไม่เคยซื้อเลย พอผมมาทำ Mass Product ผมก็ซื้อเขาเป็นคนแรกเลย ตีสิบผมก็ซื้อ เพราะไปออกรายการเขาเป็นประจำ
-ในทางธุรกิจ ความสัมพันธ์กับสื่อมีความสำคัญแค่ไหน
อย่าตีว่า สื่อเป็นคนแปลกประหลาด สื่อมันก็คือคนธรรมดา ผมเจอนักข่าว วันหนึ่งก็กินข้าว วันหนึ่งก็ดูหนัง แล้วบางทีเราก็อาจจะเป็นญาติกันก็ได้ ก็คบกันธรรมดา แต่ไม่ใช่ว่าคุณมีหุ้นอยู่ใน บ.ผม ผมแอบใส่ชื่อไป ไม่มี (เสียงสูง) แต่ธุรกิจผมก็มีเรื่องให้เจอกับสื่อ ให้ผมไปไหน ผมก็ไป แต่อย่าชวนผมไปทำอะไรที่ไม่ถนัด อย่างเช่นผมไม่ชอบเข้าวัด ไปแล้วมันฝืน ใส่ซองนิดหน่อยได้ เพราะผมอยากทำโรงเรียน อยากทำโรงพยาบาล เพราะวัดมันมีคนทำเยอะอยู่แล้ว พระบางองค์มีคนทำเป็นล้านเลย แต่โรงเรียนกับโรงพยาบาล เงินเท่าไรก็ไม่พอ
-สัมพันธ์ระหว่างคุณตันกับคุณสรยุทธ์และสื่ออื่นๆ เป็นลักษณะมิตรภาพส่วนหนึ่ง และธุรกิจอีกส่วนหนึ่ง
อย่าไปถือว่าเป็นธุรกิจ ก็คือผมเป็นลูกค้าของทุกสื่อ เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว ผมไม่ได้ซื้อเพราะกนก เพราะสรยุทธ เพราะผมต้องซื้ออยู่แล้ว เวลาจะซื้อโบรกเกอร์ก็วางแผนให้อยู่แล้ว แต่งบโฆษณาส่วนใหญ่ที่ผมให้อะไรรู้ไหม เป็น บ.ที่ทำรายการใหม่ๆ ผมจะบอกลูกน้องเลยนะ ว่าถ้าใครเริ่มต้นทำธุรกิจ มาชวนเราซื้อสื่อ คุณต้องให้เขา อันนั้นมันมีค่ามาก แม้จะแค่ 5 หมื่น 3 หมื่น 2 หมื่น ไม่มีตังค์ ให้ 5 พันก็ได้ เพราะมันมีค่ามาก โดยเฉพาะเมื่อคุณตันซื้อแล้ว จะทำให้เขาไปขายคนอื่นได้มากขึ้น โดยเฉพาะสื่อใหม่ๆ ทุกรายการ
เสนาหอย (นายเกียรติศักดิ์ อุดมนาค นักแสดงและพิธีกรตลกชื่อดัง) ก็สนิทกับผม แต่ไม่สนิทถึงเคยไปเที่ยวด้วยกัน ผมไม่เคยไปเที่ยวกับสื่อเลยนะ แต่ใช้บริการสื่อเขาบ่อย วันแรกเข้ามา บ.ผม เดินออกไปแล้วคอตก ลูกน้องผมบอกว่า อูย จะทำรายการอะไรไม่รู้ ขอดูก่อน ผมก็บอกว่า ถ้าจะดูใจก็ดูตอนนี้ อย่าไปดูตอนหลัง เดี๋ยวก็ตายก่อน ตอนหลังเขาก็เดินเข้าเดินออก บ.ผม ขายโฆษณาบ่อย
ปกติ เอเจนซี่กับลูกน้องผมจะเป็นคนดูว่าจะซื้อโฆษณาในสื่อไหน แต่ผมจะดูสื่อใหม่ๆ สื่อที่ตั้งไข่ Satellite TV ผมเป็นคนซื้อเจ้าแรกๆ แต่พอผมซื้อคู่แข่งก็จะตามมา Satellite TV ผมเป็นคนทำให้บูมเลย พอผมซื้อ ปุ๊บ อู้หูย ตามมาเต็มเลย
- ภาพที่คนดูเห็นคือคุณตันกับคุณสรยุทธสนิทกันมาก
ไม่ เคยไปออกรายการเขาแค่ 2-3 ครั้ง จริงๆผมออกทุกรายการ
- ได้วิเคราะห์หรือไม่ ว่าทำไมคนมองว่าสนิทกัน
ผมไปออกแค่ 2-3 ครั้ง คนก็เลยอาจจะรู้สึก แล้วคนดูเขาก็เยอะ แล้วพอดีน้ำท่วมด้วย ผมแพ็คของ หาคนไปส่งยาก ก็เลยพึ่งช่อง 3 เขาก็เอารถขนหมูมาขน ผมเองไม่เคยไปเที่ยวกับคุณสรยุทธแม้แต่ครั้งหนึ่งในชีวิต นอกจากเจอกันอย่างนี้ หรือไปน้ำท่วมด้วยกัน
ผมชอบทำการกุศล ไม่คิดทำธุรกิจอีกแล้ว ผมเคยไปทำตลาดนัดที่ จ.ลพบุรี 70 ไร่ แม่ค้า 2,000 คน แต่ก็มีคนคิดว่า ผมจะไปลงส.ว. ผมไปทำอย่างดี มีผ้าม่าน ให้ขายค่าเช้าถูก ผมลงไป 400-500 ล้านบาท ทุกคนก็ต้องคิดว่าผมมีเป้าหมายลงการเมือง ยืนยันว่าไม่มี
- เคยให้เงินกับพรรคการเมืองใดไหม
ไม่มี
- แต่มีคนมาขอ?
เอ่อ.. ไม่มีขอ แต่มีคนชวนไปเล่นการเมือง บ่อย (เน้นเสียง) แต่ผมไม่สนอยู่แล้วไง ผมไม่ใช่ตัวผม เชื่อสิ แล้วนิสัยแบบนี้มันไม่เหมาะกับการเมืองด้วย ผมไม่จำเป็นต้องมาเล่นการเมือง เพราะจะทำประโยชน์ ผมไม่ต้องเป็นนักการเมือง ก็ทำประโยชน์ได้ หรือจะหาประโยชน์ ผมไม่ต้องเล่นการเมือง ก็หาประโยชน์ได้ ที่ดินก็มีเยอะแยะ ผมพอแล้ว จบ ม.3 มีได้ขนาดนี้ จะให้เอาพินัยกรรมให้ดูไหม เงินที่เหลือของผมให้ โรงพยาบาลศิริราช ของเมียก็ให้เมียไป ลูกผมให้ไปไม่กี่สิบล้าน
- พรรคไหนมาชวน
อย่าไปพูดถึงเลย ไม่เป็นสาระสำคัญ มาคุยๆกัน
- มาชวนแบบไหน แล้วปฏิเสธอย่างไร
บางคนก็แย็ปๆ อย่างวันก่อนผมไปชลบุรี ก็ยังมาแย็ปเลย จะไปลง ส.ว.ไหม มันก็เหมือนกับ ผมเป็นนักธุรกิจ พอมีชื่อเสียง แต่นั่นไม่ใช่ทางผม แต่เรื่องการเมืองผมไม่เล่นการเมืองเด็ดขาด ไม่ว่าจะวันนี้หรืออนาคต ผมมีเป้าหมายในชีวิตอยู่แล้วว่าจะทำอะไร ผมจะไปทำงานด้านการกุศล ด้านอาสาสมัคร ไม่เคยมีความคิดเรื่องการเมืองเลย คือไม่ชอบเลย จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไปเล่นการเมือง
:::บทความที่เกี่ยวข้อง:::
- “เสี่ยตัน อิชิตัน”ไขปมขายทิ้งที่ดินเพลินจิต ให้“โอ๊ค”-คลี่สัมพันธ์“สรยุทธ-โน้ส”
-หมายเหตุ-ขอขอบคุณภาพประกอบจาก adaybulletin
