บึ้มแบงก์4จุดทำธุรกิจบันนังสตาชะงัก - "จีที 200" วุ่นซ้ำหลังบิ๊ก กห.บอกยังใช้อยู่
บันนังสตาป่วน คนร้ายควงเอ็ม 79 ยิงฐานทหารพราน-โรงพัก พร้อมบึ้มตู้เอทีเอ็มธนาคาร 4 จุดทั่วเทศบาล ชาวบ้านโวยธุรกิจในพื้นที่ชะงัก ยอดโอนเงินซื้อขายสินค้าเกษตรหลักล้านต่อวัน ต้องรอทำธุรกรรมวันจันทร์ ส่วนที่ยะรังแก๊งป่วนปฏิบัติการสอยกล้องวงจรปิด 6 ตัวหนีลอยนวล ด้าน "จีที 200" กลับมาวุ่นอีกรอบ หลังตำรวจอังกฤษแจ้งข้อหาเจ้าของบริษัทผลิตเครื่องตรวจระเบิดลวงโลก แต่ "บิ๊กกลาโหม" บ้านเราบอกยังแอบใช้อยู่
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงปลายสัปดาห์ ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 20.25 น.วันศุกร์ที่ 13 ก.ค.2555 คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงถล่มฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4109 (ร้อย.ทพ.4109) หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ซึ่งตั้งฐานอยู่ที่บ้านสนามบิน หมู่ 1 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา โดยลูกระเบิดตกใกล้ฐานจำนวน 3 นัด เกิดระเบิด 1 นัด แรงระเบิดทำให้ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) พรพิทักษ์ ไทยปาน อายุ 32 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ต่อมาเวลา 20.26 น.เกิดเหตุระเบิดขึ้นพร้อมกัน 5 จุดภายในเขตเทศบาลตำบลบันนังสตา ประกอบด้วย
1) บริเวณหน้าตู้เอทีเอ็มของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) สาขาบันนังสตา ทำให้ตู้เอทีเอ็มได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
2) บริเวณหน้าตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย สาขาบันนังสตา ทำให้ตู้เอทีเอ็มได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
3) บริเวณหน้าตู้เอทีเอ็มธนาคารออมสิน สาขาบันนังสตา ทำให้ตู้เอทีเอ็มได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
4) บริเวณหน้าตู้เอทีเอ็มธนาคารอิสลาม สาขาบันนังสตา ทำให้ นายมูฮัมหมัด สุแว อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 2 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา ซึ่งขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาพอดี ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ
หลังเกิดเหตุระเบิดทั้ง 4 จุด ยังมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มอยู่ในป่าละเมาะ ในท้องที่หมู่ 2 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา แล้วใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงเข้าไปในโรงพักใน สภ.บันนังสตา 2 นัด ลูกระเบิดตกบริเวณบ้านพักตำรวจฝั่งริมคลอง จากนั้นคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิงเข้าไปในบริเวณบ้านพักตำรวจอีกหลายชุด ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงตอบโต้จนคนร้ายล่าถอยไป ฝ่ายเจ้าหน้าที่ปลอดภัย
ต่อมาเวลาประมาณ 21.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าไปตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุระเบิดหน้าตู้เอทีเอ็มธนาคารออมสิน สาขาบันนังสตา ปรากฏว่าได้เกิดระเบิดขึ้นบริเวณถังขยะหน้าสำนักงานที่ดิน อ.บันนังสตา อีก 1 ลูก ทำให้ ด.ต.วิชัย คล้ายวิเศษ อายุ 47 ปี ได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ สันนิษฐานว่าทั้งหมดเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ



ธุรกิจบันนังสตาชะงัก – ผู้ว่าฯสั่งคุมเข้มพิเศษ
ล่าสุดเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 14 ก.ค.นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวถึงเหตุการณ์ลอบวางระเบิดธนาคารและยิงเอ็ม 79 ถล่มสถานที่ราชการใน อ.บันนังสตา จ.ยะลา ว่า ได้สั่งการให้นายอำเภอประสานหน่วยกำลัง 3 ฝ่ายเข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมกำชับให้มีการป้องตนเองในระหว่างการปฏิบัติอย่างเข้มงวด เกรงว่าคนร้ายจะลวงให้เจ้าหน้าที่ออกไปเพื่อก่อเหตุซ้ำรอบสอง ส่วนมาตรการระยะยาว นั้น ได้วิทยุด่วนให้นายอำเภอจัดกำลัง อส.(อาสารักษาดินแดน) ร่วมตำรวจ ทหาร ออกตรวจตรารักษาความปลอดภัยที่ตั้งของธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งในพื้นที่อำเภอรอบนอก โดยเน้น อ.ยะหา กับ อ.รามัน จ.ยะลาเป็นกรณีพิเศษ
"หลังเกิดเหตุได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า มีความเดือดร้อนในการทำธุรกรรมทางการเงินมาก เนื่องจากพื้นที่ อ.บันนังสตา มีการเบิกจ่ายเงินผ่านตู้เอทีเอ็มวันละหลายล้านบาทเพื่อซื้อขายสินค้าทางการเกษตร โดยเฉพาะยางพารา เมื่อตู้เอทีเอ็มถูกระเบิด การเบิกจ่ายจึงต้องรอธนาคารเปิดทำการในวันจันทร์ที่ 16 ก.ค.ส่งผลให้วันหยุดเสาร์อาทิตย์ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ หากมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องเดินทางไปใช้บริการของธนาคารในเขตเทศบาลนครยะลา ซึ่งจะทำให้เสียเวลา เพราะระยะทางไกลกว่า 40 กิโลเมตร" นายเดชรัฐ ระบุ
นายพายัพ สพโชค ประธานชมรมธนาคารจังหวัดยะลา กล่าวว่า จะเชิญประชุมหารือกับผู้บริหารธนาคารต่างๆ ในพื้นที่ในเรื่องของมาตรการรักษาความปลอดภัยและการจัดบุคคลเข้าดูแลสถานที่ ตลอดจนการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเพิ่มเติม นอกจากนั้นยังต้องสร้างขวัญกำลังใจให้กับพนักงานของธนาคารด้วย เพราะว่าหลังเกิดเหตุ พนักงานมีความหวาดผวากับเหตุการณ์ที่ขึ้นมาก ทั้งนี้จะได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่เข้ารวมประชุมพบปะเพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยของพนักงานธนาคารต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (ผบก.ภ.จว.ยะลา) เปิดเผยความคืบหน้าทางคดีว่า คนร้ายที่ก่อเหตุลอบวางระเบิดมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ แต่งกายด้วยชุดแบบวัยรุ่น สวมหมวกปิดบังใบหน้า ขณะนี้ได้กำชับให้เร่งหาเบาะแสของคนร้าย ส่วนระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม มีทั้งที่จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ โดยตั้งนาฬิกาในมือถือแล้วกด กับจุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารขนาดเล็ก
ควงเอ็ม 16 สอยกล้องวงจรปิด 6 ตัวที่ยะรัง
เวลา 02.00 น.วันเดียวกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ก่อเหตุขโมยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) บริเวณบ้านปายอเมาะสูเม็ง หมู่ 4 ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้กล้องไป 4 ตัว และบริเวณบ้านบาซาเวาะเซ็ง หมู่ 2 ต.ปิตูมุดี อ.ยะรัง ได้กล้องไปอีก 2 ตัว ทั้งยังทำลายกล้องจนเสียหาย 1 ตัว
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเครื่องบันทึกภาพของกล้องซีซีทีวีในพื้นที่ พบชายต้องสงสัย 2 คนกำลังใช้ไม้ยาวสอยกล้องที่ติดตั้งไว้บนเสาไฟฟ้าลงมา โดยหนึ่งในสองคนมีอาวุธปืนเอ็ม 16 ด้วย และทำหน้าที่คุ้มกันให้เพื่อนขโมยกล้อง เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปว่าเป็นการกระทำของกลุ่มใด
อุกอาจ! ปล้นกระบะยิงสองสามีภรรยาดับ 1 เจ็บ 1
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 ก.ค.เวลา 13.40 น.คนร้ายจำนวน 6 คนมีรถจักรยานยนต์ 3 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง นายวิชิต ช่วยสุข อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/1 หมู่ 5 ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เสียชีวิต และ นางเสงี่ยม ช่วยสุข อายุ 58 ปี ภรรยานายเสงี่ยม อยู่บ้านเลขที่เดียวกัน ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดขณะนายวิชิตกำลังขับรถกระบะกลับจากไปเที่ยวพักผ่อน มุ่งหน้ากลับบ้าน โดยมีนางเสงี่ยมนั่งมาด้วย
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบและสอบสวนจนทราบว่า คนร้ายทั้ง 6 คนได้ล้อมรถของนายวิชิตเอาไว้ แล้วดึงนายวิชิตกับนางเสงี่ยมลงจากรถ ก่อนใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิงใส่ เป็นเหตุให้นายวิชิตเสียชีวิต และนางเสงี่ยมได้รับบาดเจ็บ จากนั้นคนร้ายได้ชิงอาวุธปืนประจำกายของนายวิชิต 2 กระบอก และขับรถกระบะหลบหนีไป เหตุเกิดบริเวณทางเข้าชายหาดริมทะเล บ้านปากบางเทพา หมู่ 7 ต.เทพา อ.เทพา จ.สงขลา เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร และให้น้ำหนักไปที่การฆ่าชิงทรัพย์
อังกฤษแจ้งข้อหาผู้ผลิต "จีที 200" ฐานฉ้อโกง
หนังสือพิมพ์คมชัดลึก รายงานโดยอ้างข่าวจากเว็บไซต์สำนักข่าวบีบีซี และเดอะการ์เดี้ยน ประเทศอังกฤษ ระบุว่า เมื่อวันพุธที่ 11 ก.ค.2555 นายจิม แมคคอร์มิค นักธุรกิจ และผู้ประดิษฐ์อุปกรณ์ตรวจจับวัตถุระเบิดรุ่น "เอดีอี 651" และรุ่น "จีที 200" ซึ่งกองทัพบกไทยและหน่วยงานด้านความมั่นคงอีกหลายหน่วยเคยจัดซื้อเพื่อตรวจหาวัตถุระเบิดและสารเสพติด ได้ถูกแจ้งข้อหาฉ้อโกงจากทางการอังกฤษ
เว็บไซต์ของบีบีซี และเดอะการ์เดี้ยน รายงานตรงกันว่า นายแมคคอร์มิค ผู้อำนวยการบริษัทเอทีเอสซี ซึ่งมีสำนักงานในเขตซอมเมอร์เซ็ต และเป็นผู้จำหน่ายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดรุ่นเอดีอี 651 และจีที 200 ให้กับกองทัพกว่า 20 ประเทศ และถูกจับกุมโดยทางการอังกฤษเมื่อเดือน ม.ค.2553 แต่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวออกมาต่อสู้คดีนานประมาณ 2 ปีครึ่งนั้น ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหารวม 6 ข้อหา เช่น ข้อหาฉ้อโกง รวมทั้งข้อหาผลิตและขายอุปกรณ์ทั้งที่รู้ว่าออกแบบมาหรือประยุกต์เพื่อการฉ้อโกง โดยนายแมคคอร์มิคมีกำหนดไปขึ้นศาลกรุงลอนดอนเพื่อรับฟังข้อกล่าวหาในวันพฤหัสบดีที่ 12 ก.ค.ตามเวลาท้องถิ่น
สำหรับเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดรุ่นที่ถูกแจ้งข้อหาได้แก่ เอดีอี 651, เอดีอี 650 และเอดีอี 101 ซึ่งนายแมคคอร์มิคขายอุปกรณ์ตรวจระเบิดเหล่านี้ในราคา 1.8 หมื่นถึง 6.6 หมื่นดอลลาร์ (หรือประมาณ 6 แสน-2 ล้านบาทต่อเครื่อง) ให้กับกองทัพและหน่วยงานด้านความมั่นคงกว่า 20 ประเทศ โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง เช่น อิรักและอัฟกานิสถาน โดยเฉพาะรัฐบาลอิรัก ใช้งบประมาณถึง 85 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,500 ล้านบาท) เพื่อจัดซื้อ รวมทั้งค่าฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจในกรุงแบกแดด กระทั่งสำนักข่าวบีบีซีได้ตีแผ่เมื่อปี 2553 ว่าเครื่องตรวจวัตถุระเบิดรุ่นนี้ใช้ไม่ได้ผลจริง ทำให้รัฐบาลอังกฤษสั่งห้ามส่งออกไปอิรักและอัฟกานิสถาน ส่งผลให้นายแมคคอร์มิคถูกจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาในที่สุด
ย้อนรอย "จีที 200" เครื่องตรวจระเบิดลวงโลก!
สำหรับการใช้เครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด "จีที 200" ในประเทศไทยนั้น ถูกตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพการทำงานตรวจหาวัตถุระเบิดตั้งแต่เกิดเหตุ "คาร์บอมบ์" ที่หน้าร้านจำหน่ายเครื่องสำอางตรงข้ามโรงแรมเมอร์ลิน กลางเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อบ่ายวันที่ 6 ต.ค.2552 เพราะก่อนเกิดเหตุมีประชาชนแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทหารเข้าตรวจสอบรถต้องสงสัยคันที่เกิดระเบิดก่อนแล้วโดยใช้เครื่อง จีที 200 แต่กลับไม่พบความผิดปกติ กระทั่งสุดท้ายเกิดระเบิดขึ้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 20 คน โดยศูนย์ข่าวอิศราได้เขียนบทวิเคราะห์ในเรื่องนี้บนเว็บไซต์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 ต.ค.2552 ในชื่อ "รู้จัก 'จีที 200' ไขปมเครื่องหรือคน'พลาด' เหตุบอมบ์โก-ลก" http://south.isranews.org/cms/index.php?option=com_content&task=view&id=4907&Itemid=86
หลังจากนั้นประเด็นนี้ก็ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ในห้องหว้ากอ เว็บไซต์พันทิป ที่เก็บรวบรวมข้อมูลและตั้งข้อสังเกตกับเครื่อง “จีที 200” มาตั้งแต่ก่อนหน้านั้น แต่กระแสการตรวจสอบยังไม่แรงพอ แม้จะมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นจากความผิดพลาดของเจ้าเครื่องมือตัวนี้อีกหลายครั้ง
กระทั่งต้นปี 2553 สำนักข่าวบีบีซีได้รายงานข่าวการผ่าพิสูจน์เครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดรุ่น เออีดี 651 และพบว่าเป็นเครื่องมือลวงโลก ข่าวดังกล่าวส่งผลสะเทือนถึงในประเทศไทย จนรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องมอบหมายให้ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) เป็นหน่วยงานกลางในการตรวจพิสูจน์ และพบว่าประสิทธิภาพของ จีที 200 ให้ผลในการตรวจหาวัตถุระเบิดไม่ต่างจากการเดาสุ่ม ความแม่นยำไม่ถึง 25% รัฐบาลจึงสั่งการให้ทุกหน่วยเลิกใช้เครื่องมือดังกล่าว ส่วนประเด็นการจัดซื้อ จีที 200 ซึ่งใช้งบประมาณจำนวนมากนับพันล้านบาท โดยเฉพาะกองทัพบกที่จัดซื้อสำหรับภารกิจในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ถึง 541 เครื่องกลับไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
จีที 200 ทำวุ่น "บิ๊กกลาโหม" บอกทหารยังใช้อยู่
ปัญหาการใช้เครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จีที 200 กลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ใช่เฉพาะข่าวทางการอังกฤษแจ้งข้อหาเจ้าของบริษัทผู้ผลิตเท่านั้น แต่ยังเกิดจาก พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษ "ทีมข่าวเครือเนชั่น" ก่อนจะมีข่าวจากอังกฤษเพียง 1 สัปดาห์ โดยระบุว่า ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ทหารในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงใช้งานเครื่องจีที 200 อยู่ เนื่องจากยังไม่มีเครื่องมือตัวอื่นทดแทน และเป็นเรื่องของขวัญกำลังใจ อย่างไรก็ตาม ได้มีคำสั่งห้ามใช้ตรวจบุคคล โดยให้ใช้เฉพาะการตรวจสถานที่ต้องสงสัยเท่านั้น
เมื่อคำสัมภาษณ์นี้เผยแพร่ออกไป ทำให้องค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) ด้านสิทธิมนุษยชนออกมาเรียกร้องให้ทางการไทยเลิกใช้เครื่อง จีที 200 อย่างเด็ดขาด ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ต้องออกมายืนยันด้วยตัวเองว่า ไม่มีการใช้เครื่อง จีที 200 ในพื้นที่ภาคใต้แล้ว แต่ก็ยอมรับว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีเครื่องมือตรวจระเบิดชนิดใหม่มาให้กำลังพล
"เป็นเรื่องของทางโน้น (อังกฤษ) ก็ต้องว่ากันไป อย่าเอาเรื่องเก่ากับเรื่องใหม่มาปนกัน สมัยนั้นเป็นเครื่องมือเดียวที่ใช้งานได้อยู่ ผมยังยืนยันว่ามันยังใช้งานได้อยู่ ทุกเหล่าทัพยังใช้กันอยู่ แต่เมื่อทดสอบแล้วมันใช้ไม่ได้ก็ต้องไปหาอย่างอื่นมาให้ใช้ เมื่อวันนี้ไม่มีอะไรมาให้ใช้เลย กำลังพลก็ไม่มีความปลอดภัย ผมไม่ได้มาแก้ตัวว่าเขาดีหรือไม่ ผิดก็คือผิด ไม่ดีก็ต้องไปทดสอบกัน แต่ที่ผ่านมากองทัพใช้เพราะมันได้ผล ไม่ทราบว่าด้วยเหตุใด อาจจะเป็นความเชื่อมั่นก็ได้ บางอย่างอาจอยู่ที่ความเชื่อมั่น เพราะจีที 200 สามารถตรวจพบวัตถุระเบิด แต่ถ้าพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วไม่ได้ก็คือไม่ได้ เรื่องนี้ก็จบ แต่เราไม่ได้มีเจตนาไปซื้อของที่ใช้ไม่ได้มา อยากถามว่าถ้าใช้ไม่ได้แล้วคุณจะซื้อไหม" พร้อมกับย้ำว่า กองทัพภาคที่ 4 ไม่ได้ใช้เครื่องจีที 200 แล้ว
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1-4 ความเสียหายและวัตถุพยานที่เก็บได้จากเหตุลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็มของธนาคาร 4 แห่งในเขตเทศบาลตำบลบันนังสตา จ.ยะลา (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)
ขอบคุณ : สำนักข่าวเนชั่นเอื้อเฟื้อข่าวสัมภาษณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก
อ่านประกอบ :
1 รู้จัก"จีที 200" ไขปมเครื่องหรือคน"พลาด" เหตุบอมบ์โก-ลก
http://south.isranews.org/cms/index.php?option=com_content&task=view&id=4907&Itemid=86
2 อังกฤษสั่งห้ามจำหน่ายเครื่องตรวจระเบิดคล้าย “จีที 200” ชุมชนอินเทอร์เน็ตไทยฮือต้านอุปกรณ์ฉาว!
http://www.isranews.org/south-news/scoop/38-2009-11-15-11-15-01/1628-200.html
3 ผ่ากันจะๆ “การ์ด จีที 200” พบแค่กระดาษแผ่นจิ๋ว ไร้กลไกหาระเบิด นายกฯไฟเขียวผ่าเครื่องซ้ำ
http://www.isranews.org/south-news/Other-news/28-2009-11-14-06-19-24/1400-200.html
4 แฉภาพเอ็กซเรย์"จีที 200" แค่แท่งพลาสติกกลวงโบ๋
http://www.isranews.org/south-news/Other-news/28-2009-11-14-06-19-24/1403-q-200q.html
5 จีที 200...ทหารยังมั่นใจเต็มร้อย ท้าพิสูจน์ทุกเวที!
http://www.isranews.org/south-news/special-talk/53-2009-11-15-11-15-38/2101-200.html
6 เปิดตัว "ไฟโด้-เซเบอร์ 4000-ไอออนสแกน" อุปกรณ์ใหม่ทดแทน "จีที 200"
http://www.isranews.org/south-news/scoop/38-2009-11-15-11-15-01/1637-q-4000-q-q-200q.html
7 ตามรอย "เรือเหาะ-บอมบ์สูท"...กับหลากหลายยุทโธปกรณ์ชำรุดที่ชายแดนใต้
http://www.isranews.org/south-news/scoop/38-2009-11-15-11-15-01/1741-q-q.html
8 ย่างปีที่ 7 ไฟใต้ (2) “จีที 200-เรือเหาะ-สติ๊กเกอร์” เครื่องมือเพื่อความมั่นคงในอุตสาหกรรมความไม่มั่นคง
http://www.isranews.org/south-news/scoop/38-2009-11-15-11-15-01/1631-7-2-200.html
