โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยปิดอีก 1 โรง เด็กป่วยมือเท้าปาก 4 ราย
ปิดอีก 1 แห่งโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย หลังเด็กเป็นโรคมือเท้าปาก 4 ราย ขณะที่ สธ.ออกกฎเหล็ก 6 ข้อคุมเข้ม
วันนี้ (17 ก.ค.) นายชาญวิทย์ ทับสุพรรณ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ปฎิบัติหน้าที่แทนเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ให้สัมภาษณ์กรณีโรคมือเท้าปากลามถึงกรุงเทพว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่าพบเด็กระดับอนุบาล รร.วัฒนาวิทยาลัย ย่านเขตคลองเตย กทม. สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ป่วยเป็นโรคดังกล่าวแล้ว จำนวน 4 คน เบื้องต้นทางโรงเรียนให้เด็กทั้งหมดหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านแล้ว นอกจากนี้ยังได้รับแจ้งจากผู้บริหารโรงเรียนว่า สำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้โรงเรียนได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจนักเรียนกลุ่มเสี่ยงที่เหลือ เพื่อยับยั้งการระบาดแล้ว
นายชาญวิทย์กล่าวต่อไปว่า ตนยังได้กำชับให้ทางโรงเรียนไปพิจารณาว่า เมื่อมีเด็กนักเรียนเจ็บป่วยลักษณะนี้ควรปิดการเรียนการสอนในระดับอนุบาลไปจนถึงระดับประถมศึกษาปีที่ 2 หรือไม่ เนื่องจากเป็นวัยที่แพร่และรับเชื้อได้ง่าย ซึ่งทางโรงเรียนรับปากจะดำเนินการเบื้องต้นด้วยการปิดชั้นเรียนทั้ง 3 ระดับทันทีในวันที่ 18 ก.ค. เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาด ส่วนโรงเรียนจะปิดต่อหรือไม่ให้ประสานผู้ปกครองให้ทราบ อย่างไรก็ตามหากพบว่าโรคมือ เท้า ปาก เริ่มระบาดไปยังนักเรียนชั้นอื่น ๆ ทางผู้บริหารยืนยันว่าจะสั่งปิดโรงเรียนทันที ส่วนสถานศึกษาสังกัด สช.แห่งอื่น ๆ ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีนักเรียนป่วยเป็นโรคนี้แต่อย่างใด
ด้านนางมาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า จากที่ได้รับรายงานสถานการณ์โรคมือเท้าปากในพื้นที่กรุงเทพฯขณะนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2555 ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่พบเป็นเด็กระดับชั้นประถมศึกษา 1 – 2 ใน 73 โรงเรียน โดยได้สั่งปิดเรียน 18 แห่งไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ปัจจุบันได้เปิดสอนตามปกติ สำหรับผู้ป่วยตั้งแต่ต้นปีรวมอยู่ประมาณ 2,300 คน ที่ผ่านมายังไม่มีผู้เสียชีวิต โดยกทม.ได้เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ที่มีเด็กป่วย 22 ราย และทางโรงเรียนได้สั่งปิดการเรียนการสอนเป็นเวลา 7 วันนั้น ทางสนอ.และเจ้าหน้าที่เขตฯได้เข้าไปทำความสะอาดแล้ว ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมาแล้ว
ส่วนนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการตามแนวทางทีกระทรวงสาธารณสุขเสนอในการควบคุมโรคมือเท้าปากในเด็ก โดยมี 6 มาตรการ คือ 1 เร่งรัดมาตรการเฝ้าระวังในการป้องกันและควบคุม 2 กำชับแพทย์ทั้งภาครัฐและเอกชนให้ระวังโรคนี้เพิ่มมากขึ้น 3 ให้เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน 4 ประชาสัมพันธ์ โรคนี้ให้กับประชาชน เช่นการล้างมือและหากพบว่ามีใครมีอาการให้รีบนำส่งโรงพยาบาล 5 ให้จังหวัดที่พบว่ามีผู้ป่วยวันละ 10 ราย ต่อวัน ตั้งวอร์รูมโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน 6 ให้กระทรวงสาธารณสุขทำหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด กระทรวงกลาโหม โรงพยาบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระวังป้องกัน โดยเฉพาะศูนย์เลี้ยงเด็กและในชุมชน เช่นการทำความสะอาดในโรงเรียนเด็กเล็ก การแนะนำให้มีการล้างมือบ่อย ๆ
ขณะที่บรรยากาศด้านจุดผ่อนปรนไทย กัมพูชา หมู่บ้านซับตารี หมู่ 2 ต.ทุ่งขนาน อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ว่าภายหลังเกิดการระบาดของโรคมือ เท้า ปากเปื่อยในกัมพูชา โดยเฉพาะความตื่นตระหนกของชาวกัมพูชาใน จ.พระตะบอง หลังจากหนังสือพิมพ์ใต้ต้นมะขาม ของกัมพูชา รายงานข่าวการแพร่กระจายของโรคดังกล่าว ลามสู่เด็กใน จ.พระตะบอง ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกับ อ.สอยดาว ว่าตั้งแต่เปิดด่านพรหมแดนในจุดผ่อนปรนแห่งนี้ ปรากฏว่า ชาวกัมพูชาต่างพาบุตรหลานข้ามแดนเข้ามายังฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากต้องหาวิธีไม่ให้บุตรหลานได้รับเชื้อด้วยการพาข้ามแดนมายังฝั่งไทย โดยคิดว่า เป็นวิธีปลอดภัยที่สุดที่จะป้องกันไม่ให้ติดโรคนี้ได้

