มุสลิมชายแดนใต้แห่ดูดวงจันทร์ จุฬาราชมนตรีประกาศ 20 ก.ค.วันที่ 1 รอมฎอน
ชายแดนใต้คึกคักรับเดือนแห่งการถือศีลอด พี่น้องมุสลิมนับพันแห่ขึ้นหอชมดวงจันทร์ที่ อ.ยะหา จ.ยะลา ก่อนจุฬาราชมนตรีประกาศให้วันศุกร์ที่ 20 ก.ค.เป็นวันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1433 พร้อมร่อนสารให้ตั้งมั่นประกอบศาสนกิจอย่างครบถ้วน ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ยังป่วน คนร้ายบุกยิง รปภ.สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางที่โคกโพธิ์ บึ้มในสวนยางโผล่ที่ธารโต ชาวบ้านสังเวย
นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ได้ออกประกาศจุฬาราชมนตรี ลงวันที่ 19 ก.ค.2555 เรื่องกำหนดวันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1433 ระบุว่า ตามที่ได้ประกาศให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์ เพื่อกำหนดวันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1433 ในวันพฤหัสบดีที่ 19 ก.ค.2555 เวลาหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้านั้น ปรากฏว่าในวันและเวลาดังกล่าวมีผู้เห็นดวงจันทร์
อาศัยอำนาจจุฬาราชมนตรี ผู้นำกิจการศาสนาอิสลามในประเทศไทย ประกาศว่า วันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1433 ตรงกับวันศุกร์ที่ 20 ก.ค.2555 จึงขอประกาศให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศได้ถือปฏิบัติโดยพร้อมเพรียงกัน
โอกาสนี้ นายอาศิส ได้เผยแพร่ "สารจุฬาราชมนตรี" ทางเว็บไซต์สำนักจุฬาราชมนตรี http://www.skthai.org/ มีเนื้อหาระบุว่า ในโอกาสแห่งเดือนรอมฎอนอันประเสริฐได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพี่น้องมุสลิมทุกท่านได้เตรียมความพร้อมเพื่อต้อนรับเดือนแห่งความประเสริฐนี้ ด้วยการปฏิบัติศาสนกิจเพื่อเพิ่มพูนความภักดีต่ออัลลอฮ์ ทั้งการละหมาดตะรอเวียะห์ การละหมาดในยามดึก การอ่านอัลกุรอาน การซิเกร ตลอดจนการจัดเลี้ยงละศีลอดและบริจาคทาน อันเป็นหนทางที่จะทำให้เรามีความใกล้ชิดพระองค์และได้รับผลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่ในวันปรโลก
ข้าพเจ้าขอดุอาอฺจากอัลลอฮ์ องค์พระผู้อภิบาล โปรดดลบันดาลให้พี่น้องมุสลิมทุกท่านมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่เข้มแข็งสมบูรณ์ เพื่อการประกอบศาสนกิจดังกล่าวได้อย่างครบถ้วน และวิงวอนขอความเมตตาจากพระองค์ทรงประทานความรัก ความสามัคคี ความร่มเย็นเป็นสุข และความจำเริญแก่พี่น้องชาวไทยทุกท่านด้วยเทอญ
ชายแดนใต้คึก-ชาวบ้านนับพันแห่ขึ้นหอชมดวงจันทร์
ช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ 19 ก.ค.บรรยากาศที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไปอย่างคึกคัก พี่น้องมุสลิมตั้งหน้าตั้งตารอดูดวงจันทร์ตามประกาศของสำนักจุฬาราชมนตรี เพื่อกำหนดวันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน
ที่หอชมดวงจันทร์บ้านบูเก๊ะปาเระ ตั้งอยู่บนเนินเขาด้านหลังโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา มีชาวไทยมุสลิมจากสามจังหวัดจำนวนนับพันคนขึ้นไปรอดูดวงจันทร์กันอย่างเนืองแน่น โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมกับชาวบ้านด้วย
โอกาสนี้ พ.ต.อ.ทวี ได้นำผลอินทผลัมซึ่งชาวมุสลิมนิยมรับประทานช่วงละศีลอดในแต่ละวัน มอบให้กับพี่น้องมุสลิมที่มารอดูดวงจันทร์ด้วย สำหรับผลการดูดวงจันทร์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีรายงานจากคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดว่ามีผู้แจ้งว่าเห็นดวงจันทร์
ใต้ป่วนยิงยาม สกย.โคกโพธิ์ดับคาป้อม
ด้านสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดวันพฤหัสบดีที่ 19 ก.ค.ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นประปราย โดยเมื่อเวลา 08.00 น.คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ประกบยิง นายสมสุข ภูผาสุก อายุ 43 ปี ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บ้านเกาะโทร ต.ช้างให้ตก อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ขณะขี่รถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้างอยู่บนถนนสายช้างให้ตก-ทุ่งยาว ท้องที่ อ.โคกโพธิ์ เพื่อบรรทุกของไปขายหน้าโรงเรียนบันลือคชวาส ทั้งนี้ กระสุนปืนของคนร้ายเจาะเข้าที่ศีรษะของนายสมสุข 2 นัดจนตกจากรถจักรยานยนต์ เสียชีวิตคาที่ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหารว่าเป็นความขัดแย้งส่วนตัวหรือเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ
เวลา 11.00 น.ขณะที่ นายอัฐพล แซ่ว่อง อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111/1 หมู่ 3 ต.ลำไพล อ.เทพา จ.สงขลา เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในป้อมหน้าสำนักงานฯ ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายนาเกตุ-โคกโพธิ์ ท้องที่หมู่ 2 บ้านมะกรูด ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ นั้น ได้มีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดที่หน้าประตูทางเข้าสำนักงานฯ และใช้อาวุธปืนพกจ่อยิงนายอัฐพลจนเสียชีวิตคาป้อม จากนั้นยังช่วยกันยิงปืนเข้าใส่อาคารสำนักงานหลายสิบนัด ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป โชคดีไม่มีใครในอาคารได้รับอันตรายเพิ่มเติม เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ แต่ให้น้ำหนักไปที่การสร้างสถานการณ์ของกลุ่มผู้ไม่หวังดี
บึ้มในสวนยางโผล่อีกที่ธารโต-ชาวบ้านดับ 1 เจ็บ 1
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.คนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องที่หน้าร้านประเสริฐการไฟฟ้า ริมถนนยะรัง ต.อาเนาะรู อ.เมืองปัตตานี แต่ระเบิดที่คนร้ายใช้มีอานุภาพต่ำ และทำให้เกิดเสียงดังเพียงเล็กน้อย ทำให้ไม่มีใครทราบเหตุการณ์ กระทั่งช่วงเช้าเจ้าของร้านพบเศษซากชิ้นส่วนระเบิดและร่องรอยความเสียหายบริเวณหน้าร้าน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจสอบ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายต้องการก่อเหตุเพื่อข่มขู่
ส่วนที่ จ.ยะลา เวลาประมาณ 16.25 น. พ.ต.อ.วิชัย แจ้งสกุล ผู้กำกับการ สภ.ธารโต จ.ยะลา รับแจ้งเหตุระเบิดในสวนยางพารา ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 (ยะลา–เบตง) ท้องที่บ้านหน้าเกษตร หมู่ที่ 2 ต.ธารโต ห่างจากโรงพยาบาลธารโตประมาณ 500 เมตร จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบศพ นายมนูญ หน่อเพชร อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ 1 ต.คีรีเขต อ.ธารโต รอบๆ ตัวมีร่องรอยความเสียหายจากแรงระเบิด ส่วนผู้บาดเจ็บมีพลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลแล้ว ทราบชื่อคือ นายอรุณ แก้วแก่นเพชร อายุ 45 ปี อยู่บ้านคีรีเขต หมู่ 4 ต.คีรีเขต อ.ธารโต อาการสาหัส
สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายมนูญกับนายอรุณได้พากันออกจากบ้านเพื่อหาสัตว์ป่าและยิงกระรอกในสวนยางพาราที่เกิดเหตุ เสร็จแล้วได้เดินออกจากสวนยาง แต่ระหว่างทางตามร่องสวนได้เดินไปสะดุดกับระเบิดที่คนร้ายลอบวางเอาไว้จนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้นายมนูญเสียชีวิตคาที่ ส่วนนายอรุณได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : เด็กหนุ่มมุสลิมพากันขึ้นหอชมดวงจันทร์ใน อ.ยะหา จ.ยะลา เพื่อรอดูดวงจันทร์กำหนดวันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน (ภาพโดย อับดุลเลาะ หวังหนิ)
