แหวกกติกา เลือก “ผอ.TPBS” -ทำไม "หมอพลเดช" คนดี ถึงไม่มีสิทธิ?
จะดูกีฬาหรือการแข่งขันอะไรสักอย่าง ถ้าไม่รู้กติกา ก็คงจะไม่สนุกหรอก จริงไหม?
เช่นเดียวกับการชิงดำ ตำแหน่ง “ผู้อำนวยการ (ผอ.) องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.)” หรือไทยพีบีเอส ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนๆ อยู่ในเวลานี้
หลังจากมีคุณโม่งกลุ่มหนึ่ง อ้างว่าเป็นพนักงานไทยพีบีเอส ส่งจดหมายเปิดผนึกโจมตีผู้บริหารไทยพีบีเอส ไปเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ
โดยเฉพาะ “นายเทพชัย แซ่หย่อง” ผอ.ไทยพีบีเอส คนปัจจุบัน ซึ่งกำลังจะหมดวาระ ในเดือน ต.ค.นี้ ที่ถูกทิ้งบอมบ์เต็มๆ
และน่าจะเป็นเหตุให้ “นายเทพชัย” ต้องถอนใบสมัคร ชิงเก้าอี้ ผอ.ไทยพีบีเอส สมัยที่ 2 ปล่อยให้ผู้ท้าชิง อย่าง “นายวสันต์ ภัยหลีกลี้-นายสมชัย สุวรรณบรรณ” วิ่งเบียดไหล่เข้าสู่โค้งสุดท้าย
ก่อนที่ “เส้นชัย” จะมาถึงในวันที่ 26 ก.ค.นี้ “สำนักข่าวอิศรา” จึงไปแหวกกติกาการสรรหา ผอ.ไทยพีบีเอส สื่อสาธารณะที่ใช้งบจากภาษีบาป ทั้งเหล้าและบุหรี่ ปีละ 2,000 ล้านบาท ที่เขียนไว้ใน พ.ร.บ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ.2551 มาให้ผู้ที่สนใจได้อ่าน
เพื่อจะได้รู้ว่าเกมนี้เขาเล่นกันอย่างไร..เผื่อจะเลือกคนเชียร์ได้ถูกตัว?
ก่อนจะรู้ถึงกติกาการสรรหา ผอ.ไทยพีบีเอส ต้องรู้ก่อนว่า โครงสร้างทีวีโลโก้นกส้มช่องนี้ หลักๆ แบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นที่ 1 คือ “คณะกรรมการนโยบาย” มีสมาชิก 9 คน โดยมี ผอ.ไทยพีบีเอสเป็นเลขานุการโดยตำแหน่ง
ชั้นที่ 2 คือ “คณะกรรมการบริหาร” หรือบอร์ด มีสมาชิก ไม่เกิน 11 โดยมี ผอ.ไทยพีบีเอสเป็นประธาน
ในมาตรา 31 ของ พ.ร.บ.ไทยพีบีเอส เขียนไว้ชัดเจนว่า ผู้มีอำนาจในการแต่งตั้งและถอดถอน “ผอ.ไทยพีบีเอส” ก็คือ “คณะกรรมการนโยบาย” ด้วยวิธีการสรรหา
โดย “หลักเกณฑ์-วิธีการ” ในการสรรหา ผอ.ไทยพีบีเอส ให้เป็นไปตาม “ข้อบังคับ” ของคณะกรรมการนโยบาย
สำหรับ ข้อบังคับ ส.ส.ท.ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการรับสมัคร และการสรรหา ผอ.ไทยพีบีเอส พ.ศ.2555 ได้กำหนดคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้เข้ารับการสรรหาเป็น ผอ.ไทยพีบีเอส อาทิ มีสัญชาติไทย, อายุไม่เกิน 65 ปี, มีความรู้ ความเข้าใจ หรือประสบการณ์ ในกิจการด้านวิทยุ โทรทัศน์ หรือสื่อ ฯลฯ โดยต้องไม่มีคุณสมบัติต้องห้าม อาทิ ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย, ไม่เคยต้องคำพิพากษาจำคุก 2 ปีขึ้นไป โดยยังพ้นโทษมาไม่ถึง 5 ปี, ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ ฯลฯ
ทั้งนี้ วิธีในการสรรหา ให้คณะกรรมการนโยบายตั้ง “คณะกรรมการสรรหา” ผอ.ไทยพีบีเอส คณะหนึ่ง มีจำนวน 5 คน ประกอบด้วยตัวแทนคณะกรรมการนโยบาย 3 คน กับผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก 2 คน
โดยรายชื่อ คณะกรรมการสรรหา ทั้ง 5 คน ประกอบด้วย 1.นางจินตนา พันธุฟัก กรรมการนโยบาย 2.รศ.มาลี บุญศิริพันธ์ กรรมการนโยบาย 3.ประธานสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการ ส.ส.ท. (นายมนตรี กงไกรจักร์) 4.ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์) 5.นายกสภาทนายความ (นายสัก กอแสงเรือง)
สำหรับ “ขั้นตอน” การสรรหา จะกระทำ 2 รอบ
รอบที่ 1 ให้คณะกรรมการสรรหากลั่นกรองให้เหลือผู้สมัคร 2-5 ราย ภายใน 30 วัน นับแต่วันปิดรับสมัคร ก่อนเสนอให้คณะกรรมการนโยบายพิจารณาต่อ
ซึ่งขั้นตอนดังกล่าว ดำเนินการจบไปแล้ว มีการประกาศผล เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ผ่านการคัดเลือกในรอบที่ 1 รวม 3 คน ได้แก่ นายเทพชัย นายวสันต์ และนายสมชัย (ก่อนนายเทพชัยจะถอนตัวภายหลัง)
รอบที่ 2 ให้ผู้สมัครที่ได้รับเลือกในรอบที่ 1 เสนอตัวและสัมภาษณ์ต่อคณะกรรมการนโยบาย โดยคณะกรรมการนโยบายจะพิจารณาผู้ได้รับเลือก 1 คน ภายใน 30 วัน นับแต่วันเสร็จสิ้นการคัดเลือกในรอบที่ 1
โดยในวันที่ 26 ก.ค. คณะกรรมการนโยบายได้นัด “2 แคนดิเดต” ที่เหลือ เข้าแสดงวิสัยทัศน์
ก่อนตัดสินว่าใครจะได้เป็น “ผอ.ไทยพีบีเอส” คนใหม่ ในวันเดียวกัน !
บรรทัดสุดท้าย การสรรหา ผอ.ไทยพีบีเอสคนใหม่ จึงขึ้นอยู่กับ “7 อรหันต์” กรรมการนโยบาย (ไม่รวม นพ.พลเดช ปิ่นประทีป ที่ลาออกไปลงสมัครเป็นกรรมการนโยบายอีกครั้ง) ประกอบด้วย นางจินตนา พันธุฟัก, นายศิริชัย สาครรัตนกุล, นายกมล กมลตระกูล, ผศ.ดร.จุมพล พูลภัทรชีวิน, นางมัทนา หอมลออ, รศ.ดร.อรศรี งามวิทยาพงศ์ และ รศ.มาลี บุญศิริพันธ์ อย่างแท้จริง !!!
:::เรื่องที่เกี่ยวข้อง:::
- “พลเดช” ยัน ฟังบัตรสนเท่ห์ พนง.TPBS -ผอ.ใหม่ เหลือชิงดำแค่ “วสันต์-สมชัย”
- ชิง ผอ.ไทยพีบีเอสระอุ! “เทพชัย” ถอนตัว–ยันไม่เกี่ยวถูก พนง.ต้าน
