กระหึ่ม! รูป “สาวซิ่งซีวิค” รับน้อง ม.ดัง โผล่ตามเว็บบอร์ด -เสียงวิจารณ์ขรม

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีผู้นำภาพการรับน้องของเด็กสาวคนหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าเป็น “น.ส.เอ” (นามสมมุติ) ผู้ต้องหาคดีขับรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค เฉี่ยวชนท้ายรถตู้โดยสารบนทางด่วนโทลล์เวย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก เมื่อปลายปี 2553 กำลังรับน้องใหม่ใน ม.ชื่อดังแห่งหนึ่งมาโพสต์ไว้บนเว็บบอร์ดชื่อดัง โดยตั้งคำถามว่า “เนี่ยเหรอ ที่..บอกว่า ต้องเยียวยารักษาสภาพจิต ดูน้องเค้าก็สดชื่นดีนี่ เป็นเฟรชชี่..แล้ว” ทั้งนี้ ยังไม่มีการยืนยันว่า ภาพดังกล่าวเป็นภาพของ “น.ส.เอ” ตามที่มีผู้โพสต์อ้างถึงจริงหรือไม่ แต่ก็มีสมาชิกเว็บบอร์ดดังกล่าวเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างล้นหลาม บางส่วนแสดงความเห็นใจ บางส่วนก็เรียกร้องให้ลงโทษ ขณะเดียวกัน มีการนำภาพดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อตามเว็บไซต์ เว็บบอร์ด รวมถึงโซเชียลเน็ตเวิร์ก
สำหรับข้อความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปดังกล่าว มีอาทิ
“คนทำผิดขนาดทำให้ผู้อื่นต้องสูญเสียชีวิต เราเชื่อว่าความผิดนั่นก็ยังฝังลึกตราตรึงอยู่ในใจของน้องเขาเสมอ มันทรมานนะคะถ้าอยู่ดีดีมีความทรงจำที่น่ากลัวขนาดนี้แว้บเข้ามาในหัว ถึงกฎหมายจะลงโทษกับการกระทำของเขาไม่ได้ แต่กฎแห่งกรรมคงไม่ปล่อยเธอไว้แน่”
“ชีวิตต้องเดินหน้าต่อไปครับ พวกคุณต้องการอะไรหรือครับ อยากให้น้องเขา หดหู่ ทรมาน ไปจนตายหรือครับ”
“สิ่งที่ต้องการหรอครับ ไม่ได้ต้องการให้น้องเค้าเศร้าหรือหดหู่ต่อไปครับ แล้วก็ถูกต้องด้วย ‘ชีวิตต้องเดินหน้าต่อไป’ ฉะนั้นควรมาศาลแล้วฟังคำตัดสินได้แล้ว ให้ทุกอย่างมันอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่ยัดจนพัง ในขณะที่น้องเค้าชีวิตเดินหน้าต่อไป แล้วครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้งหลายละครับ เค้าได้เดินหน้าไปด้วยรึเปล่า เค้าต้องจมอยู่กับความช้ำที่ครอบครัวเขาเสียชีวิตไม่พอ ยังมาเจอความไม่ยุติธรรมของสิ่งที่เราๆ ท่านๆ เรียกว่ากระบวนการยุติธรรมอีก แล้วคุณพ่อของน้องที่เสียใจชีวิตจนต้องตรอมใจตายละครับ? ต้องมีคนเป็นอย่างงี้อีกสักกี่คนหรอเขาถึงจะออกมารับผิดหรือแม้แต่ ‘ขอโทษ’ ได้ ไม่มีใครอยากให้น้องเขาเศร้าหรอกครับ สิ่งที่สังคมต้องการ แค่ให้ออกมายอมรับความจริง รับโทษ หรือทำอะไรบ้างไม่ใช่แค่หายไปลอยๆ”
“ผมว่าพอเถอะครับ ปล่อยให้น้องเขามีที่ยืนในสังคมบ้าง ถามว่าน้องเขาจะมีความสุขอย่างในภาพตลอดเวลาจริงเหรอครับ ผมว่าไม่นะ ขนาดตามเว็บยังมีคนเกลียดขนาดนี้เลย แล้วในมหาวิทยาลัยของน้องเขา จะไม่มีคนคิดเหมือนเราๆ ท่านๆ เลยเหรอครับ ลองจินตนาการว่าท่านเป็นน้องคนนั้นดูครับ อยู่ตามมหาวิทยาลัยมีแต่คนนินทา 9 ศพ, 10 ศพ, อีฆาตกร ฯลฯ”
ฯลฯ
ทั้งนี้ คดีของ “น.ส.เอ” เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2553 ในช่วงค่ำ โดยเด็กสาวคนดังกล่าว ได้ขับรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค ด้วยความเร็วสูง เฉี่ยวชนท้ายรถตู้โดยสารบนทางด่วนโทลล์เวย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 9 ราย โดยสิ่งที่สร้างความเดือดดาลให้กับสังคมเป็นอันมาก คือภาพถ่ายที่มีการเผยแพร่ไปในโลกโซเชียลมีเดียเป็นรูปเด็กสาวกำลังกดโทรศัพท์ยี่ห้อแบล็กเบอร์รี่ หรือ BB ท่ามกลางซากรถยนต์ที่พักยับเยิน (ดังภาพประกอบ) ขณะเดียวกันยังมีการปลอมข้อความที่เด็กสาวคนดังกล่าวคุยกับเพื่อนผ่าน BB ในทำนองว่าไม่ยี่หระต่อคนที่เสียชีวิต พร้อมข้อความว่าแค่ยัดเงินสื่อกับตำรวจคดีก็จบแล้ว นำไปสู่การตั้งแฟนเพจ “มั่นใจว่าคนไทยเกินล้านคนไม่พอใจ น.ส.เอ” ซึ่งถึงปัจจุบันมีคนกดไลค์มากกว่า 3 แสนคน
โดยคดีความของ “น.ส.เอ” ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลเยาวชนกลาง เนื่องจากขณะเกิดเหตุเด็กสาวคนดังกล่าวมีอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น โดยถูกตั้งข้อหา 1.ขับรถยนต์โดยประมาท จนเป็นเหตุในผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายต่อร่างกาย บาดเจ็บสาหัส และทรัพย์สินเสียหาย และ 2.ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถยนต์ โดยมีการขั้นศาลครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนต่อกรณีนี้ ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 27 ระบุไว้ว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาหรือเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือสื่อสารสนเทศประเภทใด ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับตัวเด็ก (บุคคลที่อายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์) หรือผู้ปกครอง โดยเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่จิตใจ ชื่อเสียง เกียรติคุณ หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดของเด็ก หรือเพื่อแสวงหาประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ” แต่กรณีนี้ กลับมีสื่อบางแห่งนำชื่อ-นามสกุลจริง รวมถึงภาพถ่ายของ "น.ส.เอ" ไปเผยแพร่อย่างกว้างขวาง
