5 ปีจาก คสช.ถึง รบ.บิ๊กตู่ 2 ลอบวางระเบิด กทม. 13 ครั้ง-จับคนร้ายได้ 3 กรณี?
พลิกข้อมูลเหตุการณ์ลอบวางระเบิด กทม. ตั้งแต่ คสช.-รบ.บิ๊กตู่ 1 จนถึง รบ.บิ๊กตู่ 2 รวม 5 ปีเศษ อย่างน้อย 13 ครั้ง จับคนร้ายได้แค่ 3 กรณี คดีวางระเบิดหน้าศาลพระพรหม-คดีไปป์บอมม์หน้ากองสลากฯเก่า-โรงละครแห่งชาติ ที่เหลือยังไม่คืบหน้า

กรุงเทพมหานครกลับมาเป็นเป้าหมายการก่อเหตุวางระเบิดของ ‘ผู้ไม่หวังดี’ อีกครั้ง ?
สื่อทุกสำนักรายงานข่าวตรงกันว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 2 ส.ค. 2562 จนถึงขณะนี้ มีเหตุการณ์ระเบิดเกิดขึ้นอย่างน้อย 4 จุดสำคัญใจกลาง กทม. ได้แก่
1.เวลาประมาณ 08.50 น. เกิดเหตุระเบิดภายในซอยพระราม 9 57/1 มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 2 คน เป็นเจ้าหน้าที่ กทม. เขตสวนหลวง ขณะกำลังทำความสะอาดกวาดเศษใบไม้ภายในซอย เบื้องต้นคาดกันว่าเป็นระเบิดลักษณะคล้ายระเบิดปิงปอง
2.เวลาประมาณ 08.36 น. เกิดเหตุระเบิดใต้สถานีรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรี 2 ครั้ง ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่มีรถยนต์เสียหาย โดยผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า จุดระเบิดอยู่ในพุ่มไม้ใต้สถานีรถไฟฟ้า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งปิดพื้นที่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
3.เวลาประมาณ 09.00 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณหน้าคิงส์พาวเวอร์ ตึกมหานคร จุดเดียวกับช่องนนทรี มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตึกมหานคร ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
4.เวลาประมาณ 09.00 น. มีเสียงดังคล้ายระเบิดเกิดขึ้นอย่างน้อย 3 ครั้ง บริเวณพุ่มไม้หน้าอาคารศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ อาคารบี โดยครั้งแรกได้ยินเสียงเกิดขึ้น 2 ครั้ง และตามมาอีก 1 ครั้ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นคาดกันว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่อง
![]()
(ภาพจากศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ อาคารบี ภายหลังเกิดเหตุลอบวางระเบิด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 ส.ค. 2562)
เหตุการณ์ลอบวางระเบิดทั้ง 4 จุดดังกล่าว เป็นปรากฎการณ์ต่อเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2562 ที่ผ่านมา ที่พบภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่า มีผู้ชาย สวมเสื้อเหลือง กางเกงขายาวสีดำ สะพายกระเป๋า และสวมรองเท้าผ้าใบสีดำ ใส่หมวกและหน้ากากอนามัยปิดหน้า โยนวัตถุต้องสงสัยเข้าไปบริเวณใต้ป้าย สตช. ริมถนนพระราม 1 โดยพบว่า เป็นระเบิดจริงที่ใช้ปุ๋ยยูเรียเป็นดินระเบิด แต่ไม่มีการระเบิดเกิดขึ้น ความคืบหน้ากรณีนี้ ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้ว
เหตุการณ์ลอบวางระเบิดข้างต้น นับเป็นครั้งแรก ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 2/1 โดยตำแหน่งปัจจุบันของ พล.อ.ประยุทธ์ นอกเหนือจากนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังนั่งควบเก้าอี้ รมว.กลาโหม และกำกับดูแลหน่วยงานความมั่นคงสำคัญ เช่น สตช. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นต้น
ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนว่า เหตุการณ์ในวันที่ 2 ส.ค. 2562 รวม 4 ครั้ง และเหตุการณ์ลอบวางระเบิดหน้า สตช. เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2562 มีความเกี่ยวเนื่องกันหรือไม่ โดยเมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. วันเดียวกัน ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วยรองผู้ว่าฯ กทม. และผู้บริหาร กทม. รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ประชุมกันเพื่อหารือถึงเหตุการณ์ดังกล่าว (อ่านประกอบ : ผู้ว่าฯ กทม.สั่งตั้งทีมผู้บัญชาการเหตุป่วนเมือง ตลอด 24 ชั่วโมง)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สืบค้นข้อมูลย้อนหลังนับตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ควบคุม ต่อมามีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ (เดิม) เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 จนถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ 2/1 ในวันที่ 2 ส.ค. 2562 พบว่า เกิดเหตุการณ์ลอบวางระเบิดเฉพาะใน กทม. อย่างน้อย 13 ครั้ง ดังนี้
ปี 2558
1.วันที่ 1 ก.พ. 2558 เหตุระเบิดด้านหน้าจุดบริการด่วน กทม. ทางเชื่อม BTS สยาม เข้าห้างสยามพารากอน
2.วันที่ 7 มี.ค. 2558 คนร้ายปาระเบิดเข้าไปในศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก
3.วันที่ 11 เม.ย. 2558 เหตุระเบิดคาร์บอมม์ ลาดจอดรถห้างเซ็นทรัลเวิลด์
4.วันที่ 17 ส.ค. 2558 เหตุระเบิด TNT หนัก 3 กิโลกรัม ที่สี่แยกราชประสงค์ บริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ มีผู้เสียชีวิต 20 คน ผู้บาดเจ็บ 163 คน
สำหรับเหตุการณ์ที่ 4. เว็บไซต์บีบีซีไทย รายงานว่า ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นชายอุยกูร์วัย 32 ปี และถูกนำตัวส่งฟ้องศาล ปัจจุบันถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) และไม่ได้รับสิทธิการประกันตัว โดยชาวอุยกูร์ที่ตกเป็นจำเลยดังกล่าว เคยร้องเรียนต่อทนายความว่า ถูกสอบสวนทรมานเพื่อให้รับสารภาพ อย่างไรก็ดีกองทัพออกมาปฏิเสธ ปัจจุบันคดีนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล
![]()
(ภาพภายหลังเหตุการณ์วางระเบิดศาลพระพรหมฯ เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2558)
ปี 2559
5.วันที่ 18 ส.ค. 2559 เหตุระเบิดบริเวณท่าเรือสาทร ที่คนร้ายโยนจากบนสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน แต่พลาดตกแม่น้ำ
ข้อมูลจากเว็บไซต์ประชาไท ระบุว่า เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2559 เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงบุกจับกุมคนมุสลิมย่านมหาวิทยาลัยรามคำแหงอย่างน้อย 40 คน ต่อมาเหลือผู้ต้องสงสัย 14 คน หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า ‘คดีระเบิดน้ำบูดู’ โดยเป็นชายจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ อายุระหว่าง 19-32 ปี ส่วนใหญ่เป็นเด็กที่เพิ่งมาหางานทำใน กทม. หลังจากนั้นมีหลายคนถูกปล่อยตัว บางคนถูกจับกุมซ้ำ สรุปมีผู้ต้องสงสัย 14 คน ถูกกล่าวหาว่า ร่วมกันเป็นอั้งยี่ซ่องโจร และมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง โดยผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดถูกนำตัวฟ้องศาล และไม่ได้รับสิทธิการประกันตัว ขณะที่กลุ่มผู้ถูกกล่าวหาว่า ร้องเรียนว่าถูกทำร้ายร่างกาย และถูกซ้อมทรมาน
เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2561 ศาลอาญาพิพากษาจำคุก จำเลย 9 คน ผิดข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร 6 ปี แต่ลดโทษ 1 ใน 3 เนื่องจากให้การเป็นประโยชน์เหลือ 4 ปี มีจำเลย 1 คน ผิดข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร และมีวัตถุระเบิด จำคุก 9 ปี ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือ 6 ปี และยกฟ้องจำเลย 5 คน
ปี 2560
6.วันที่ 5 เม.ย. 2560 ระเบิดไปป์บอมม์ หน้าอาคารกองสลากฯ (เดิม) ถ.ราชดำเนิน
7.วันที่ 15 พ.ค. 2560 ระเบิดไปป์บอมม์ หน้าโรงละครแห่งชาติ
8.วันที่ 22 พ.ค. 2560 เหตุระเบิดซุกซ่อนในแจกันดอกไม้ ห้องวงษ์สุวรรณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.พระมงกุฎเกล้า
สำหรับเหตุการณ์ที่ 6.-7. เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้สอบสวน และจับกุมตัวนายวัฒนา ภุมเรศ อดีตวิศกรการไฟฟ้าฝ่ายผลิต อายุ 62 ปี โดยโดนจับกุมที่บ้านพักย่านบางเขน พบวัตถุระเบิด ต่อมานำตัวส่งฟ้องศาล ศาลพิพากษาจำคุก 78 ปี 30 เดือน ไม่รอลงอาญา (อ้างอิงข่าวจาก โพสต์ทูเดย์ออนไลน์)
ปี 2561 ไม่พบเหตุระเบิดที่เชื่อมโยงกับการเมือง หรือความมั่นคง
ปี 2562 เกิดเหตุการณ์ลอบวางระเบิดอย่างน้อย 5 จุด ตามที่รายงานข้างต้น
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
สรุปเหตุบึ้มกรุงหลายจุด ตามรวบผู้ต้องสงสัยป่วนหน้า สตช.
บึ้มกรุงลามกองทัพไทย-สำนักปลัดกห.ศรีสมาน
หมายเหตุ : ภาพประกอบบางส่วนจาก ข่าวหุ้นออนไลน์
