ฤา “สถูปดัง” จะไม่เกี่ยวข้องกับ “พระเจ้าอุทุมพร” เลย?
ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ฉบับปี พ.ศ.2542 คำว่า “สถูป” (สะ-ถูบ) หมายถึง น. สิ่งก่อสร้างที่มีรูปโอคว่ำซึ่งก่อไว้สำหรับบรรจุของควรบูชามีกระดูกของพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์เป็นต้น ,บางทีใช้เข้าคู่ กับคำว่า เจดีย์ เป็น สถูปเจดีย์
เรื่องของสถูป หรือสถานที่เก็บอัฐิ หรือกระดูกคนตาย กลับมาอยู่ในความสนใจของผู้คนบนหน้าหนังสือพิมพ์อีกครั้ง เมื่อมีข่าวว่า ทางการพม่าจะมีการรื้อทำลาย “หลุมศพพระมหากษัตริย์สยามกำลังจะถูกทำลาย” (Siamese King’s Tomb to be Destroyed) จนชาวเน็ตไทยหลายคนที่ห่วงใยต่างแชร์ข่าวสารดังกล่าวผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างกระแสให้หน่วยงานของรัฐไทย โดยเฉพาะกระทรวงวัฒนธรรม หาทางยับยั้ง
ขณะที่ นางสุกุมล คุณปลื้ม รมว.กระทรวงวัฒนธรรม เมื่อทราบข่าวก็ให้สัมภาษณ์ว่า “คงต้องขอเวลาให้ข้าราชการรวบรวมข้อเท็จจริงเสนอมายังดิฉันก่อน หากเป็นความจริงก็ต้องหาทางพูดคุยกับทางการพม่าเพื่อดูว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง”
อย่างไรก็ตาม ในทางวิชาการยังมีข้อถกเถียงกันอยู่ว่า สถูปดังกล่าวบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระเจ้าอุทุมพร หรือขุนหลวงหาวัด พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งถูกควบคุมตัวไปที่กรุงมัณฑะเลย์ สมัยเสียกรุงศรีอยุยาครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ.2310 (และพระองค์ได้เป็นผู้ให้ปากคำเรื่องประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยาแก่ทางการพม่า ซึ่งต่อมาได้กลายเป็น “คำให้ขุนหลวงหาวัด”) ก่อนสิ้นพระชนม์ในปี พ.ศ.2339 ขณะทรงเป็นบรรพชิต ..จริงหรือไม่?
“สำนักข่าวอิศรา” ลองสืบเสาะหาที่มาของข่าวนี้ ก่อนพบว่ามีผู้ไปตั้งกระทู้ไว้บนเว็บบอร์ดพันทิป (www.pantip.com) ในโต๊ะห้องสมุด ตั้งแต่กลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา
โดยอ้างที่มาของข่าว Siamese King’s Tomb to be Destroyed ซึ่งมีใจความสรุปก็คือ “นักประวัติศาสตร์ท้องถิ่นพม่าอ้างว่า หลุมศพของพระเจ้าอุทุมพร พระมหากษัตริย์สยาม ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กรุงมัณฑะเลย์ กำลังจะถูกทลาย เพื่อเปิดทางให้กับโครงการพัฒนาเมืองใหม่” (The historic tomb of former Siamese King Uthumphon, located near Mandalay City in Upper Burma, is set to be destroyed to make way for a new urban development project, according to local historian sources.)
อย่างไรก็ตาม มีผู้มีแสดงความเห็นในกระทู้ดังกล่าวว่า สถูปดังกล่าว ไม่เพียงไม่น่าจะเป็น “สถูปพระเจ้าอุทุมพร” ยังไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับ “อยุธยา” เลยด้วยซ้ำ !
อย่างผู้ใช้ชื่อว่า “หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung)” ที่ยกข้อมูลทางวิชาการมาแย้งว่า เจดีย์องค์นี้ไม่ใช่เจดีย์พระเจ้าอุทุมพร เพราะ 1.รูปทรงสัณฐานไม่ใช่ศิลปะไทยเลย จะอ้างว่าช่างที่สร้างไม่ใช่คนไทยเลยทำเจดีย์ไทยไม่เป็น อันนี้เป็นไปไม่ได้ครับ เพราะกองทัพพม่ากวาดเชลยศึกอยุธยาไปเยอะมากรวมถึงช่างฝีมือแขนงต่างๆ
และ 2.ในพระราชพงศาวดารฝ่ายพม่าบอกเองว่า ให้เชลยชาวไทยไปตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ฝั่งเมืองสะแคง (Sagaing) ครับ ไม่ได้อยู่ในพื้นที่กรุงอังวะครับ อันนี้สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพท่านก็รับเองว่าเคยไปหาเจดีย์พระเจ้าอุทุมพรผิดที่ ท่านไปถามที่ฝั่งอังวะขอมรปุระนี่แหละเเล้วไม่พบ จนมาตรวจข้อมูลพบว่าควรไปดูฝั่งเมืองสะเเคง
“ประเพณีที่ไม่ให้คนต่างชาติหรือเชลยศึกอยู่ในกำแพงเมืองหลวง ไทยกับพม่าถือเหมือนกันครับ อย่างชุมชนมอญของไทยจะอยู่สามโคกเกาะเกร็ดและพระประแดง ชุมชนชาวญวนของไทยอยู่ที่วัดราชาธิวาสสามเสน ซึ่งอยู่นอกกำแพงพระนครกรุงรัตนโกสินทร์ทั้งสิ้นครับ พม่าก็เช่นกันครับ จัดให้ชุมชนชาวอยุธยาไปอยู่ฝั่งเมืองสะเเคงครับไม่ได้อยู่ในกรุงอังวะ เหมือนพวกเชลยเชียงใหม่ก็อยู่ฝั่งนั้น”
“หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung)” ยังโพสต์ภาพประกอบคำอธิบาย
“วงสีเขียวคือ เมืองมัณฑเล (Mandalay) ราชธานีสุดท้ายของอาณาจักรพม่า วงสีม่วงคือ เมืองอมรปุระ (Amarapura) ราชธานีของพระเจ้าโบดอพญา มีทะเลสาบตองตะมานอยู่ตรงกลาง...เจดีย์ประหลาดที่พม่าหลอกไทยว่าเป็นของพระเจ้าอุทุมพรอยู่ที่นี่ วงสีฟ้าคือ กรุงรัตนบุระอังวะ (Inwa) ราชธานีของพระเจ้าฉินบูชิน กษัตริย์พม่าที่ส่งกองทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาแตกในปี พ.ศ. 2310 แล้วกวาดต้อนเชลยศึกกลับมารวมทั้งพระเจ้าอุทุมพร วงสีแดงคือ เมืองสะแคงหรือเมืองสะกาย (Sagaing) เมืองเเห่งทะเลเจดีย์นับพันองค์ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้พุกาม และมีหลักฐานปรากฏชัดเจนว่า ชุมชนชาวอยุธยาอยู่ที่พื้นที่เมืองนี้ครับ ใครจะไปตามรอยบรรพบุรุษชาวอยุธยา ไปให้ถูกที่นะครับ อย่าไปถูกพม่ามโนหลอกเอาอีกเลย!!!”
ทั้งนี้ มีผู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า เมืองสะแคง หรือเมืองสะกาย มีความหมายว่า “เมืองเชลย”
ส่วนผู้ใช้ชื่อว่า “ต็กโกวคิ้วป้าย” ก็ระบุว่า เคยมีนักวิชาการไปสำรวจแล้ว ลงความเห็นว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอยุธยา
ก่อนอ้างถึงบทความของ “ศ.พิเศษ เจียจันทร์พงษ์” หนึ่งในผู้ทรงคุณวุฒิทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ของไทย ที่เขียนบทความชื่อ “สถูปบรรจุอัฐิพระเจ้าอุทุมพรที่สหภาพพม่า” ลงในนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ปีที่ 23, ฉบับที่ 10 ประจำ ส.ค.2545
โดย ศ.พิเศษ เขียนทิ้งท้ายในบทความดังกล่าวไว้ว่า “ในประเทศที่กำลังพัฒนา วัฒนธรรมการท่องเที่ยวที่มุ่งเพียงการขายแต่เพียงอย่างเดียว มักจะก่อปัญหาแก่ข้อเท็จจริงทางวิชาการเป็นอย่างมาก เรื่องการพบสถูปบรรจุอัฐิของพระเจ้าอุทุมพรที่เมืองอมรปุระ สหภาพพม่า เมื่อวิเคราะห์จากหลักฐานที่มาของเรื่อง มีที่มาจากนิตยสารเพื่อธุรกิจการท่องเที่ยวของพม่า เขียนโดยนายแพทย์ที่เป็นนักประวัติศาสตร์สมัครเล่น ที่พยายามประมวลเรื่องที่นักวิชาการคนอื่นๆ เขียนขึ้น แล้วเลือกหยิบเฉพาะส่วนที่อาจนำมาปะติดปะต่อเป็นเรื่องขึ้นมาใหม่
“ดังนั้นจึงอาจกล่าวโดยสรุปในประเด็นการตรวจสอบหลักฐานเรื่องการพบสถูปบรรจุอัฐิพระเจ้าอุทุมพรที่สหภาพพม่าได้ว่า ยังไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์สนับสนุนเพียงพอ
“ส่วนหลักฐานทางโบราณคดีนั้น เมื่อได้พิจารณาภาพของสถูปทั้งที่เป็นภาพถ่ายและภาพวาด สามารถยืนยันได้ว่าเป็นสถูปที่สร้างขึ้นในแบบศิลปะพม่า มิใช่ศิลปะไทย
“ส่วนข้อมูลที่เป็นคำบอกเล่าของชาวบ้านนั้นก็ไม่มีความน่าเชื่อถือเพราะมิใช่ได้มาด้วยเทคนิคการสัมภาษณ์อย่างแท้จริง”
ด้าน “นายสุเนตร ชุตินธรานนท์” ผู้อำนวยการสถาบันเอเชียศึกษา อาจารย์ประจำภาควิชาอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า เจดีย์ดังกล่าวเคยไปดูเมื่อครั้งเดินทางไปพม่า ไม่ใช่เจดีย์ขนาดใหญ่ เป็นที่สะดุดตา อยู่ลึก ในสถานที่เก็บศพ (ป่าช้า) และไม่มีหลักฐานเป็นทางการแน่ชัด นอกจากคำให้การของคนพื้นถิ่น เป็นคำบอกเล่าสืบต่อกันมาว่าเป็นเจดีย์พระเจ้าอุทุมพร นอกจากนั้นไม่มีหลักฐานใดยืนยัน
อ.สุเนตรจึงเสนอแนะว่า ดังนั้นก่อนที่หน่วยงานของรัฐจะทำอะไร ต้องศึกษาข้อมูลให้ชัดเจนว่าทางการพม่ากำลังจะทำจริงหรือไม่ และรวบรวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์ว่า เจดีย์นั้นมีหลักฐานยืนยันชัดเจนหรือไม่ว่า เป็นเจดีย์พระเจ้าอุทุมพร หรือมีอะไรบ่งชี้ว่าเป็นเจดีย์ไทย เพื่อนำตรงนี้ไปหารือร่วมกัน เพราะเป็นเรื่องภายในของพม่า ซึ่งการจะเข้าไปเกี่ยวเนื่องต้องมีธรรมเนียมที่ถูกต้อง
ถึงนาทีนี้ งานหนักจึงอาจจะต้องตกไปอยู่กับกระทรวงวัฒนธรรม ที่จะต้องหาหลักฐานและรวมรวมผู้รู้มาเร่งหาข้อสรุปให้ได้ว่า "สถูปชื่อดัง" ดังกล่าวเป็นของ "พระเจ้าอุทุมพร" จริงหรือไม่ !!!
:::เรื่องที่เกี่ยวข้อง:::
- “สุกุมล” เล็งหาทางคุยพม่าระงับทุบทิ้ง “สถูปกษัตริย์อยุธยา"
- รบ.พม่าเล็งทุบพระบรมสถูปพระเจ้าอุทุมพร-ชาวเฟซบุ๊คเสียดายจี้ รบ.ไทยยับยั้ง
ขอขอบคุณข้อมูล
- http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12391579/E12391579.html
- http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K12394952/K12394952.html
