'สิระ'แจงปมคลิป ยันเป็นคนพูดเสียงดัง-ถาม ตร.กินกาแฟกับผู้บริหารเหมาะหรือไม่
“ส.ส.สิระ” แจงคลิป ตนแค่เป็นคนพูดเสียงดัง หลังเข้าไปที่โครงการพบตำรวจนั่งดื่มกาแฟกับผู้บริหาร หาสาเหตุไม่มีเจ้าหน้าที่มาดูแลการชุมนุม ทั้งๆ ที่รู้ตนถูกปองร้าย ระบุเคลียร์กันเข้าใจแล้ว
นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ กล่าวขณะเดินทางมาพบกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อสอบถามกรณีการดำเนินการกับที่ดิน ที่สร้างโครงการ The Peaks Residence ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ถึงกรณีมีการแพร่ภาพคลิปวิดีโอความยาว 8.29 นาที ซึ่งเผยแพร่โดย MToday TV ซึ่งเป็นภาพที่มีการพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะรน ถึงการดำเนินคดีกับโครงการคอนโดในพื้นที่ ต.กะรน และกรณีการไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ดูแล จนกระทั่งมีการตะคอกกันเสียงดัง และตามคลิปที่มีการเผยแพร่ ว่า เมื่อวานนี้ (18 ส.ค.) ก่อนที่จะลงพื้นที่ก็ได้มีการแจ้งประสานมาที่พื้นที่ว่าจะลงมาตรวจสอบที่ดิน น.ส.3 ก. ซึ่งมีการก่อสร้างคอนโดหลายตึกมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท โดย น.ส.3 แปลงนี้ศาลปกครองชั้นต้นได้มีคำสั่งให้เพิกถอน น.ส.3 แต่ต่อมา นายกเทศมนตรีตำบลกะรนได้ออกใบอนุญาตก่อสร้างให้ หลังจากนั้นชาวบ้านก็ร้องเรียนมายังตนว่าไม่สามารถที่จะสร้างเพื่อขายได้
หลังจากนั้น ตนก็เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ โดยมีการแจ้งว่าจะมีการตั้งเวทีชาวบ้าน ซึ่งมีชาวบ้านประมาณ 200 กว่าคน รวมทั้งจะลงพื้นที่ตรวจสอบที่พื้นที่จริง รวมทั้งพบผู้ว่าราชการจังหวัด และไปพบกับนายกเทศมนตรีเจ้าของพื้นที่ แต่การลงพื้นที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีแผนที่จะดูแลประชาชน ซึ่งชาวบ้านมาจัดเวทีชาวบ้าน เป็นเรื่องผิดปกติ และเรามาทำงานเพื่อทวงคืนแผ่นดินให้กับประชาชนทั้งประเทศ เพราะเรามาราชการมาเพื่อประเทศชาติ และได้ลงพื้นที่ตามที่แจ้งมา
หลังจากนั้น ทางคณะได้ขึ้นไปยังที่ดินแปลงที่กำลังก่อสร้าง ครั้งแรกที่เข้าไปยังสำนักงานขายของคอนโด ซึ่งพบหมายของทางเทศบาลกะรนที่นำไปปิดประกาศให้ระงับการก่อสร้างไว้ก่อน และกุญแจห้องล็อก และเห็นโมเดลของตัวโครงการ ซึ่งเป็นสำนักงานเพื่อขายไม่ใช่เพื่อที่อยู่อาศัย คิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องยับยั้ง แต่ระหว่างลงพื้นที่ไม่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่มีการจัดเวทีของชาวบ้าน ทั้งๆ ที่การข่าวจะต้องมีว่าการมารวมตัวกันของชาวบ้าน ตำรวจต้องมีแผนว่าจะต้องทำอย่างไร มีการจัดกำลังมาดูแลความปลอดภัยเพื่อป้องกันเหตุ ไม่ใช่ตั้งกำลังไว้ที่ สน. เมื่อมีเหตุแล้วค่อยขอกำลัง ตนคิดว่านั่นเป็นการแถไปเรื่อยๆ ซึ่งประเด็นนี้ก็เป็นส่วนหนึ่ง
นายสิระ กล่าวต่อไปว่า ในช่วงที่ไปสำนักงานขายซึ่งพบว่ามีการติดประกาศให้ยุติการก่อสร้าง ทางคณะจึงเดินทางไปที่แหลมพรหมเทพ เพื่อพักผ่อน หลังจากนั้น ได้วกรถกลีบมาที่โครงการอีกครั้ง ซึ่งดีใจที่พบรถตำรวจจอดอยู่ที่หน้าโครงการ คิดว่าทางตำรวจมาแจ้งโครงการว่าให้หยุดอย่าก่อสร้าง แต่เมื่อเข้าไปถึงเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 6 นายนั่งกินกาแฟอยู่กับผู้บริหารโครงการ จึงได้เข้าไปสอบถาม ว่า รู้หรือไม่ว่า ส.ส. จะลงพื้นที่ตรวจสอบตามที่ชาวบ้านร้องเรียน ซึ่งตำรวจแจ้งว่าทราบ ยังได้ถามต่อว่ารู้หรือไม่ว่ามีการจัดเวทีชาวบ้านประมาณ 200 คน ก็บอกว่าทราบ ยังถามต่อว่า ก่อนจะลงพื้นที่ ส.ส.สิระ เคยถูกขู่ฆ่าก็ทราบ แต่ทำไมไม่มา ตำรวจแจ้งว่าไม่ว่าง ตัวรองผู้กำกับไม่ว่าง ได้ถามต่อว่าโรงพักนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายเดียวเหรอ 2.เป็นระดับรองผู้กำกับทราบทุกเรื่อง ถามว่าเหมาะที่จะเป็นผู้บริหารโรงพักหรือไม่ ในเมืองไม่สามารถเรียงลำดับความสำคัญว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ
การไปนั่งกินกาแฟกับผู้บริหารที่มีการปิดหมายเหมาะสมหรือไม่ ก็บอกว่ามาช่วยประเทศกันเพราะเป็นคนหนุ่ม ตนอายุเกือบ 60 แล้วผมก็เหนื่อย อยากให้คนรุ่นหลังมาช่วยกันเมื่อเจอเจ้าของก็ให้ช่วยจับกุม มีการพูดโน่นนี่นั่น และเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่ตนพูดพูดเสียง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ส่วนที่มองว่าอารมณ์เสียนี้คือตัวผมประชาชนไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไรแต่ตนเป็นคนเสียงดังแบบนี้
“แต่ถามว่าไม่ว่าง ไม่ว่างคืออะไร รู้อยู่ว่ามีคนปองร้ายตน ขู่ว่าจะเป็นศพที่ 3 จากปัญหาที่ดินในภูเก็ต ถ้าเป็นช่วงปกติตนไปไหนมาไหนคนเดียวไม่ใช่คนกร่างอะไร และตนเป็นคนพูดเสียงดังใครๆ ก็รู้ ในเมื่อตนเป็น ส.ส. มารักษาผลประโยชน์ผืนป่าของประเทศ ข้าราชการในพื้นที่ทราบก็ควรให้ความร่วมมือหรือสนับสนุนว่าจะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนและประเทศ แต่กลับไปนั่งกินกาแฟกับผู้บริหารโครงการที่มีการนำหมายไปปิด โปรดเข้าใจด้วยว่าทุกวันนี้ไม่ทราบไม่ได้ว่าชาวบ้านมีการจัดเวที ซึ่งตำรวจต้องมีแผนอยู่แล้วว่าจะต้องทำอย่างไร อย่างน้อยก็มีสายสืบ มีตำรวจในเครื่องแบบเข้าไปอยู่ในพื้นที่ ไม่ใช่บอกว่ามีแล้วค่อยเรียกแบบนี้เขาเรียกว่าแถ
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงท่าทีที่แสดงออกไป นายสิระ กล่าวว่า ผมเป็นคนแบบนี้ เป็นความปกติของตน แต่อย่างไรก็ตาม หลังมีเหตุการณ์เกิดขึ้น และมีการจับมือ ถือว่าเป็นน้องชายคนหนึ่ง ได้มีการพูดคุยและปรับความเข้าใจกันแล้ว มีการกอดคอขอโทษกันไม่มีอะไรติดใจกันแล้ว ถือว่าเป็นน้องชายคนหนึ่งไม่มีอะไรติดใจเพียงแต่ขอต่อไปนี้ให้มีความตั้งใจสนับสนุนงานราชการด้วย
ส่วนการลงมาในพื้นที่ตรวจสอบที่ดินแปลงนี้ ตนมาในฐานะ ส.ส.ที่ได้รับการร้องเรียนของชาวบ้าน และการสร้างคอนโดนั้นจะสร้างได้ก็ต่อเมื่อเอกสารสิทธิเป็นโฉนดเท่านั้น ที่ดินผืนนี้มีการก่อสร้างไม่น่าจะถูกต้อง นายกออกใบอนุญาตได้อย่างไร ผู้เสียหายไปยื่นอุทธรณ์ แต่ที่ดินไปอุทธรณ์แปลกใจมากเลยเพื่อให้เปลี่ยนคำสั่งไม่ให้เพิกถอน ซึ่งตอนนั้นเป็นที่ดินเปล่า คามเสียหายไม่เท่าไหร่ แต่เมื่อมีการไปอุทธรณ์ คอนโดสร้างไป 50% หากศาลปกครองสูงสุดเพิกถอน ความเสียหายที่เกิดขึ้นมามาก ชาวต่างชาติที่ซื้อไปแล้วก็มาฟ้องรัฐ ตนจึงอยากให้คนภูเก็ตออกมาปกป้องผืนป่า ไม่จำเป็นที่ต้องรอให้คนอื่นมาต่อสู้ให้
อย่างไรก็ตาม สำหรับการเดินทางมายังศาลากลางจังหวัดภูเก็ตในวันนี้ ของนายสิระ และคณะ ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดกำลังมาดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด