การบ้าน 16 ข้อ ที่ “นายกฯยิ่งลักษณ์” ต้องทำ ก่อนขึ้น “ป.2”
คำว่า “ป.2” ในชื่อบทความ ไม่ได้ย่อมาจากชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 แต่หมายถึง “ปีที่ 2”
เพราะในวันที่ 8 ส.ค.นี้ จะครบรอบ 1 ปีที่ “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” สตรีวัย 44 ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 28 ของประเทศไทย
หลังจากนั้น เพียง 1 วัน ก็มีการโปรดเกล้าฯ “คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดปู 1” ตามลงมา
ก่อนที่ “ยิ่งลักษณ์และคณะ” จะเดินทางไปแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภา ในวันที่ 23 ส.ค.2554
ตัวเลข "8, 9, 23” ของเดือน ส.ค.แล้วแต่จะใครนับ จึงถือเป็นวันคล้ายวันเกิดของ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์”
1 ในสิ่งที่ “ผู้นำหญิง” แถลงต่อที่ประชุมร่วมกัน ส.ส.และส.ว. มี “นโยบายเร่งด่วน 16 ข้อ” ที่จะดำเนินการในปีแรก รวมอยู่ด้วย
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ขึ้นกล่าวบนเวทีในการสัมมนาของพรรคเพื่อไทย ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน จ.ชลบุรี ตอนหนึ่งถึงนโยบายเร่งด่วน 16 ข้อว่า “จะต้องทำให้เสร็จภายในวันศุกร์ที่ 3 ส.ค.นี้” !
น่าไปตรวจการบ้านกันไหมว่า ผ่านมาเกือบปีแล้ว ครม.ยิ่งลักษณ์ “สอบผ่าน” ในข้อไหน และ “สอบตก” ในข้อไหนบ้าง?
1) สร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย
1.1 สร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย โดยการเสริมสร้างความเข้าใจร่วมกันของประชาชนในชาติให้เกิดความสมัครสมานสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
1.2 เยียวยาและฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องแก่บุคคลทุกฝ่าย เช่น ประชาชน เจ้าหน้าที่รัฐและผู้ประกอบการภาคเอกชน ซึ่งได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางความคิด ทางการเมืองและความรุนแรงที่ก่อตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายของการใช้รัฐธรรมนูญปี 2540
1.3 สนับสนุนให้คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อแนวทางปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ดำเนินการอย่างอิสระและได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ในการตรวจสอบหาความจริงกรณีความรุนแรงทางการเมือง การละเมิดสิทธิมนุษยชน การสูญเสียชีวิต บาดเจ็บทางร่างกายและจิตใจ ความเสียหายทางทรัพย์สิน
2) กำหนดให้การแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ
3) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นในภาครัฐอย่างจริงจัง
4) เร่งแก้ไขปัญหาความไม่สงบและนำสันติสุขกลับสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ว
5) เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศ
6) แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
7) ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
7.1 พักหนี้ครัวเรือนของเกษตรกรรายย่อยและผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้ต่ำกว่า 5 แสนบาท อย่างน้อย 3 ปี และปรับโครงสร้างหนี้สำหรับผู้ที่มีหนี้เกิน 5 แสนบาท
7.2 เพิ่มรายได้รายวันสำหรับแรงงานเป็นวันละ 300 บาท และรายเดือนของผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีเป็น 15,000 บาท
7.3 จัดให้มีเบี้ยยังชีพรายเดือนแบบขั้นบันไดสำหรับผู้สูงอายุ
7.4 ให้มีมาตรการภาษีเพื่อลดภาระการลงทุนสำหรับสิ่งจำเป็นในชีวิตของประชาชนทั่วไป ได้แก่บ้านหลังแรก
8) ปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลให้เหลือร้อยละ 23 ในปี 2555 และลดลงร้อยละ 20 ในปี 2556 เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชน ขยายฐานภาษีและรองรับเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558
9) ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนสนับสนุนสินเชื่อรายย่อย
9.1 เพิ่มกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง 1 ล้านบาท
9.2 จัดตั้งกองทุนพัฒนาศักยภาพสตรีเฉลี่ยจังหวัดละ 100 ล้านบาท
9.3 จัดตั้งกองทุนตั้งตัวได้วงเงินประมาณ 1 พันล้านบาทต่อสถาบันอุดมศึกษา
10) ยกระดับสินค้าการเกษตรและให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยให้มีการประกันภัยพืชผลและนำระบบรับจำนำสินค้าการเกษตรมาใช้ รวมถึงการออกบัตรเครดิตสำหรับเกษตรกร
11) ส่งเสริมให้มีการจัดการน้ำอย่างบูรณาการด้วยการสร้างระบบชลประทานขนาดใหญ่-กลาง-เล็ก
12) เร่งเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวโดยปี 2554-2555 เป็นปีมหัศจรรย์ไทยแลนด์ (มิราเคิลไทยแลนด์ เยียร์) และประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวร่วมเฉลิมฉลองในพระราชพิธีมหามงคลในช่วงปี 2554-2555
13) สนับสนุนงานศิลปหัตถกรรมเพื่อสร้างเอกลักษณ์และผลิตสินค้าในท้องถิ่น
13.1 สนับสนุนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ
13.2 บริหารโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ให้มีศักยภาพ
14) พัฒนาระบบประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค
15) จัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้โรงเรียน โดยเริ่มทดลองดำเนินการในโรงเรียนนำร่อง สำหรับระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2554 ควบคู่กับการพัฒนาเนื้อหาที่เหมาะสมตามหลักสูตรบรรจุลงในแท็บเล็ต รวมถึงทำอินเตอร์เน็ตไร้สายในระดับการให้บริการและในพื้นที่สาธารณะ รวมถึงสถานศึกษาที่กำหนดฟรี
16) เร่งรัดและผลักดันการปฏิรูปการเมือง ที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขว้าง โดยมีสภาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยให้ประชาชนเห็นชอบโดยการออกเสียงประชามติ
ให้คุณครูคนไทย 64 ล้านคนทั่วประเทศให้คะแนน ว่าการบ้าน ข้อไหนยังไม่ได้ทำ หรือข้อไหนทำแล้ว..แต่ควรปรับปรุง หรือข้อไหนทำแล้ว..แต่ถ้าไม่ทำจะดีกว่า !
-ที่มาภาพ:ไทยรัฐ
