'ซินหัว'ประณามม็อบหัวรุนแรง ทำลายสำนักงานที่ฮ่องกง
สำนักข่าวซินหัวของรัฐบาลปักกิ่งประณามเหตุผู้ประท้วงหัวรุนแรง ทำลายสำนักงานที่ฮ่องกงจนเสียหายยับเยิน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นตรงกับวันที่ยูเอ็นกำหนดให้เป็น "วันแห่งการยุติการนิรโทษการก่ออาชญากรรมต่อผู้สื่อข่าวสากล" พอดีด้วย
เว็บไซต์เดลินิวส์ https://www.dailynews.co.th/foreign/739738 รายงานข่าวว่า สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ว่าสมาคมผู้บริการสำนักข่าวฮ่องกงและสมาคมผู้สื่อข่าวฮ่องกงออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ ประณามกลุ่มผู้ประท้วงหัวรุนแรงซึ่งทุบทำลายกระจก พ่นสีสเปรย์ และจุดไฟเผาพื้นที่บางส่วนบริเวณชั้นล่างของอาคารที่ทำการสำนักงานข่าวซินหัว ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบอกเสียงของรัฐบาลปักกิ่ง ตั้งอยู่ในย่านหว่านไจ๋ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมทั้งเรียกร้องให้ตำรวจเร่งสอบสวนและจับกุมผู้กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมาย โดยในระหว่างเกิดเหตุมีรายงานว่ายังมีพนักงานของซินหัวทำงานอยู่ในอาคารด้วยแต่เคราะห์ดีไม่ได้รับอันตราย และโชคดีที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงควบคุมสถานการณ์ได้ทันเวลา
ทั้งนี้ เหตุการณ์สร้างความเสียหายที่สำนักข่าวซินหัวสาขาฮ่องกงเกิดขึ้นตรงกับวันที่ 2 พ.ย. ซึ่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) กำหนดให้เป็นวันแห่งการยุติการนิรโทษการก่ออาชญากรรมต่อผู้สื่อข่าวสากลพอดี โดยยูเอ็นเยแพร่แถลงการณ์ของนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการยูเอ็น มีสาระสำคัญในตอนหนึ่งว่า เมื่อผู้สื่อข่าวเป็นเป้าหมายของการถูกทำร้าย สังคมนั้นต้องรับผิดชอบ จากการไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะปกป้องผู้สื่อข่าวจากอันตรายในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งนิยามของ "อาชญากรรมต่อผู้สื่อข่าว" ตามการจำกัดความโดยยูเอ็น ยังครอบคลุมถึง การจับกุม กักขังหน่วงเหนี่ยวอย่างไม่เป็นธรรม และการคุกคามสื่อด้วย ไม่ใช่การทำร้ายร่างกายและทรัพย์สินเพียงอย่างเดียว
ขณะที่สำนักงานใหญ่ของสำนักข่าวซินหัวซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงปักกิ่ง ออกแถลงการณ์ประณามการที่ผู้ประท้วงหัวรุนแรงทำลายทรัพย์สินของสำนักงานที่ฮ่องกง ซึ่งเป็นสาขาประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ว่าเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน และสนับสนุนฝ่ายรักษากฎหมายของฮ่องกง ในการเร่งยุติการใช้ความรุนแรงลักษณะนี้ตามกรอบของกฎหมาย
อนึ่ง ยูเอ็นกำหนดให้วันที่ 2 พ.ย. ของทุกปีเป็นวันแห่งการยุติการนิรโทษการก่ออาชญากรรมต่อผู้สื่อข่าวสากล ตั้งแต่ปี 2556 หลังเกิดเหตุผุ้สื่อข่าวชาวฝรั่งเศส 2 คนถูกฆาตกรรมในมาลีเมื่อปีนั้นพอดี.

