'จุรินทร์'ยันส.ส.พรรคร่วมต้องฟัง'มติพรรค-วิปรัฐบาล'
เว็บไซต์ www.dailynews.co.th รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. เวลา 08.35 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นประธานในงานมอบรางวัล ออกแบบโลโก้ Young Democrat และปิดโครงการฝึกอบรมยุวประชาธิปัตย์ (Young Democrat) รุ่นที่ 1/2562 “พลังงานคนรุ่นใหม่ พลังขับเคลื่อนใหม่" โดยนายจุรินทร์ ได้กล่าวให้โอวาทตอนหนึ่งว่า โลโก้ที่ชนะการประกวดนี้สะท้อนว่ากำลังเดินไปข้างหน้าด้วยอุดมการณ์ และความทันสมัย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ยุคนี้กำลังเดินหน้าไปด้วยอุดมการณ์ โดยอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์คือ 1.ประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขีดเส้นใต้ไม่ใช่แบบประธานาธิบดี 2.อุดมการณ์ที่จะทำงานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน 3.อุดมการณ์ที่จะทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า อุดมการณ์ประชาธิปไตยของเราเป็นประชาธิปไตยแบบรัฐสภา เพราะระบบนี้ไม่เหมือนระบบประธานาธิบดี ซึ่งระบบประธานาธิบดีเลือกมาโดยประชาชนโดยตรง อยู่ครบ 4 ปีไม่มีการยุบสภา แล้วส.ส. และ ส.ว. เลือกมา 2 ปีอยู่เต็มไม่มียุบสภา ต่างคนต่างขึ้นกับประชาชนไม่ต้องรับผิดชอบต่อการยึดโยงเหมือนระบบรัฐสภา ฉะนั้นเวลาโหวตเสียงในสภา ของประธานาธิบดีส.ส. จะโหวตไปทางไหนก็ได้ไม่มีผลให้ประธานาธิบดีต้องลาออก แต่ของเราเป็นระบบรัฐสภา รัฐบาลจะอยู่ได้ด้วยเสียงข้างมาก เพราะรัฐบาลจะตั้งได้ต้องมีเสียงข้างมาก ถ้าเสียงข้างน้อยก็จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ก็จะอยู่ไม่ได้เพราะจะโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจ และแพ้เสียงในสภา หรือเสนอกฎหมายแล้วไม่ผ่าน แพ้เสียงฝ่ายค้านรัฐบาลก็ต้องออกหรือยุบสภา ดังนั้นเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งกับรัฐบาลในระบบรัฐสภาจึงต้องมีวิปรัฐบาลคอยรวบรวมเสียงในสภาให้รัฐบาลยังคงเสียงข้างมากไว้ ฉะนั้นถ้าเป็นรัฐบาลผสม ทุกพรรคที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล มีสิทธิ์ที่จะมีมติพรรค แต่มติพรรคนั้นสุดท้ายต้องนำไปหารือในวิปรัฐบาลเพื่อหามติร่วมกัน และเมื่อได้มติร่วมกันแล้ว จะต้องนำกลับมาสู่ที่ประชุมพรรค ถ้าพรรคไม่เห็นด้วยก็จะนำกลับไปสู่วิปรัฐบาลอีก จนกว่าจะเห็นร่วมกันเป็นมติวิปฯ และเมื่อเป็นเช่นนั้นทุกพรรคก็ต้องปฏิบัติไปตามมติวิป ไม่ปฏิบัติไปตามเอกเทศของแต่ละพรรคหรือของบุคคล แต่ถ้าคิดว่าไม่สามารถปฏิบัติตามก็ต้องตัดสินใจทางการเมืองอย่างใดอย่างหนึ่ง ฉะนั้นเสียงในสภาผู้แทนราษฎร การเคารพมติพรรค มติวิป จึงเป็นหัวใจสำคัญของการเมืองประชาธิปไตยแบบรัฐสภา นั่นจึงบอกว่าทำไมถึงต้องฟังมติพรรค เพราะเป็นประชาธิปไตยแบบรัฐสภาที่สากลเขาทำกัน
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า หัวใจสำคัญของการสะท้อนความทันสมัยเราจะมีคนรุ่นใหม่มารวมกับพรรคมากขึ้น ผ่านยุวประชาธิปัตย์ และยุวประชาธิปัตย์ 132 คน คือความภาคภูมิใจของพรรคเรา เพราะนี่คือยุวประชาธิปัตย์ยุคใหม่รุ่นที่หนึ่ง ฉะนั้นหลักสูตรนี้ต่อไปจะไม่เน้นอุดมการณ์ประชาธิปัตย์ และประชาธิปไตย แต่จะเน้นในเรื่องเศรษฐกิจ ให้เราเดินหน้าไปสู่ความทันสมัย ประชาธิปไตยในคอนเทนท์ของยุวประชาธิปัตย์จึงต้องเป็นประชาธิปไตยกินได้ หวังว่าผู้ร่วมอบรมจะมีส่วนร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะในฐานะผู้สมัครสมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่นของพรรค ส.ส. หรือไม่แน่อาจจะเป็นหัวหน้าพรรคก็ได้.