คอนเสิร์ตเพื่อเพื่อน “เอ๋ สกล สนธิรัตน์” มิตรภาพยังเข้มข้น

หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยเมื่อค่ำวานนี้ อบอวลไปด้วยกลิ่นของ “มิตรภาพ” ของเพื่อนพี่น้องในวงการสื่อมวลชนอีกครั้ง กับคอนเสิร์ตการกุศล “For Friends” เพื่อหารายได้ช่วยเหลือ “เอ๋ สกล สนธิรัตน์” ช่างภาพเครือเนชั่นที่ล้มป่วยเนื่องจากเส้นเลือดในสมองแตกอย่างเฉียบพลัน ขณะปฏิบัติหน้าที่ที่รัฐสภาเมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา จนถึงวันนี้เป็นเวลา 2 เดือนกว่าที่ได้รักษาตัวที่โรงพยาบาลกลาง ซึ่งขณะนี้อาการของนายสกลยังคงไม่ตอบสนองและรู้สึกตัว
นับตั้งแต่เกิดเหตุ เพื่อน ๆ ในวงการได้ช่วยกันระดมทุนเพื่อหารายได้สมทบช่วยเหลือพี่เอ๋กันมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกองทุนเพื่อเพื่อน หรือ “For Friends” ที่ก่อตั้งโดยช่างภาพภาคสนามเพื่อช่วยเหลือเพื่อนช่างภาพที่ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์ความไม่สงบในการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 โดยการประสานงานของ “เต้ ชาญณรงค์ พรดิลกรัตน์” ช่างภาพรุ่นน้องร่วมค่ายของพี่เอ๋ ได้ช่วยเหลือนับตั้งแต่ การจัดกิจกรรม Coffee for Friends กาแฟเพื่อเพื่อน การจัดทำเสื้อ For friends รุ่นพิเศษขึ้นมาจำหน่าย มาจนถึงการช่วยเหลือครั้งใหญ่ล่าสุดคือการจัดคอนเสิร์ตการกุศล
เป็นคอนเสิร์ตเพื่อชีวิตที่รวมเอาศิลปินยอดนิยม นำโดย สุรชัย จันทิมาธร หรือ น้าหงา คาราวาน ที่สนิทสนมกับนายสกล พร้อมทั้งพี่ ๆ เพื่อนศิลปินเพื่อชีวิตมากมาย วงคาราบาว พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ อาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี น้าหว่อง มงคล อุทก คีตาญชลี จิระนันท์ พิตรปรีชา และเหน่ง เดอะว๊อยซ์ พร้อมด้วยศิลปินรับเชิญพิเศษจากเพื่อนสื่อ อาทิ นายกิตติ สิงหาปัด ผู้ประกาศรายการข่าวสามมิติ และนายมาโนช พุฒตาล นักจัดรายการวิทยุ สถานีเอฟเอ็ม 96.5
นอกจากนี้ยังมีแขกรับเชิญเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และหัวหน้าฝ่ายค้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เดินทางมาร่วมคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วย
เมื่อดนตรีบรรเลง นับเป็นบรรยากาศของมินิคอนเสิร์ตที่คุณภาพคับแก้วและเต็มอิ่มอย่างนึกไม่ถึง จากการได้สัมผัสดนตรีจากเหล่าศิลปินมากประสบการณ์แบบใกล้ชิด เนื่องจากหอประชุมเล็กที่มีขนาดกำลังพอดี ส่งพลังทางดนตรีแก่ผู้ฟังอย่างทั่วถึงกันไม่ว่าจะนั่งชมจากจุดไหน ศิลปินหลายท่านยังเป็นนักพูดตัวยง โดยเฉพาะน้าหมู พงษ์เทพ ที่ขึ้นแสดงเป็นวงแรก
ในฐานะผู้บริโภคข่าวสารคนหนึ่งเหมือนอย่างเรา ๆ ทั่วไป น้าหมูบอกว่า ทุกวันนี้ที่เราได้ทราบเหตุการณ์ข่าวสารบ้านเมืองต่าง ๆ ก็เป็นเพราะการทำงานของนักข่าว ช่างภาพ โดยเฉพาะในเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่มีการปะทะกัน การทำงานของสื่อยิ่งตกอยู่ในความเสี่ยง แต่พวกเขาเหล่านั้นก็ยินดีทำเพื่อนำข่าวสารมาเสนอต่อผู้อ่าน
“ถ้าไม่มีพวกเขาเหล่านั้น พวกเราก็คงเหมือนคนตาบอด” น้าหมู พงษ์เทพ กล่าวไว้เช่นนั้น
หรือคนกรุงเก่านักเล่าเรื่องอย่าง มาโนช พุฒตาล หรือพี่ซันของใครหลาย ๆ คน ที่ค่ำคืนนี้ทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการคั่นเวลาระหว่างช่วงเปลี่ยนวงและตั้งเครื่องเสียง ก็ช่างสรรหาเรื่องราวมาเล่าตามประสาของคนชอบพูดได้อย่างน่าสนใจหลายเรื่อง
พี่ซันพูดถึงพี่เอ๋ ช่างภาพหนังสือพิมพ์ ในแง่บทบาทการทำหน้าที่สื่อ พี่ซันบอกว่าในบรรดาสื่อมวลชนทั้งหมด คนทำงานหนังสือพิมพ์ถือว่าทำงานเข้มข้นที่สุด ช่างภาพกว่าจะได้ภาพมาแต่ละภาพเพื่อตีพิมพ์บนหน้าหนังสือพิมพ์เพียงภาพเดียว หลายครั้งต้องเอาตัวเอาชีวิตเข้าแลก และประวัติศาสตร์การทำงาน การต่อสู้ของนักหนังสือพิมพ์ก็มีมาอย่างยาวนาน
“แถมสมัยนี้เขียนเป็นหนังสือพิมพ์เสร็จแล้ว รุ่งเช้าพิธีกรอ่านข่าวเอาหนังสือพิมพ์ไปกางอ่านข่าวออกทีวีเฉยเลย”

เรียกเสียงฮาครืนจากผู้ชมได้เป็นอย่างดี ก่อนที่มาโนชจะกล่าวเชิญ “กิตติ สิงหาปัด” ผู้ดำเนินรายการข่าวสามมิติขึ้นมาร่วมดำเนินรายการบนเวที
น้าหงา คาราวาน ขึ้นแสดงดนตรีเป็นวงก่อนสุดท้าย เล่นเพลง “แสงดาวแห่งศรัทธา” ได้อย่างไพเราะกินใจ เพราะเป็น “เพลงที่เอ๋เค้าชอบ” น้าหงาบอก และบอกด้วยว่าพี่เอ๋สกล เป็นคนที่ถ่ายภาพวงคาราวานในยุคแรก ๆ ไว้มากที่สุดคนหนึ่ง เพราะเขาตามถ่ายมาตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม
คงมีน้อยครั้ง ที่คอนเสิร์ตใดหนึ่งจะเกิดขึ้นด้วยจุดประสงค์ของงานที่เข้มข้น แจ่มชัด ในขณะที่ผู้ชมก็ได้ซึมซับทั้งดนตรีที่มีคุณภาพและเนื้อหาของงานที่เข้าถึงใจทุกคนตรงกัน เช่นคอนเสิร์ต “เพื่อเพื่อน (เอ๋)” ในครั้งนี้ ทุกคนส่งแรงใจและการช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ หวังให้พี่เอ๋ มีอาการดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
และเหนือกว่านั้น งานวันนี้แสดงให้เห็นว่า วงการสื่อมวลชนไทย เขารักใคร่เหนียวแน่นกันเพียงไร.

อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี บรรเลงขลุ่ยในเพลง "ทานตะวัน" ขับร้องโดยพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
คาราบาว

หว่อง มงคล อุทก

หงา คาราวาน
(ดูคลิปข่าวคอนเสิร์ตเพื่อเพื่อน For Friends จากสปริงนิวส์)
