เปิดคำให้การคดี"เอแบคโพลล์"ยัน"ผู้บริหาร"ใช้เงินสนง.ซื้อลูกหมาตัวละเกือบหมื่น

เจาะผลสอบเงิน "เอแบคโพลล์" ตอนที่หนึ่ง ว่าด้วยปม "ปัญหาลูกหนี้เงินเบิกล่วงหน้าค้างเคลียร์" คกก.สอบพบสารพัดรูปแบบ เอาเงินไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว ซื้อนาฬิกา ทองคำ ลูกสุนัขบีเกิ้ล 2 ตัว ขอสินเชื่อแบงค์ รวมวงเงินกว่า 12  ล้าน ระบุตัวผู้เกี่ยวข้อง 5 ราย ชัดเจน ชี้หากแจงรายละเอียดไม่ได้ ต้องหาเงินมาคืนมหาวิทยาลัย พร้อมดอกเบี้ย

ในรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการบริหารงานของ "สำนักวิจัยเอแบคโพลล์" ที่ผ่านการพิจารณาของสภามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญไปแล้ว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของผู้บริหารมหาวิทยาลัย ว่าจะดำเนินคดีทางกฎหมายกับ "ผู้เกี่ยวข้อง" หรือไม่ อย่างไร ? หลังผลการตรวจสอบปรากฎข้อมูลชัดเจนว่า มีการดำเนินการที่ส่อว่าจะมีปัญหาความไม่ชอบมาพากลหลายประการ และก่อให้เกิดความเสียหายแก่มหาวิทยาลัยเป็นวงเงินกว่า 48 ล้านบาท

(อ่านประกอบ : เปิดผลสอบเงิน"เอแบคโพลล์"จ่ายอุตลุด"ซื้อสุนัข-ค่าตอบแทนสื่อ-เลี้ยงอาหาร ตร.")

มีการระบุถึงลักษณะการนำเงินไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวๆ ไว้หลายรูปแบบ เช่น ซื้อสุนัขพันธุ์บีเกิ้ล 2 ตัว นาฬิกา ทองคำ และการนำเงินเบิกล่วงหน้าจากมหาวิทยาลัย ไปใส่ไว้ในบัญชีตนเอง เพื่อให้มีกระแสเงินเดินบัญชีที่ต่อเนื่องเป็นประโยชน์ในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินของผู้เกี่ยวข้องรายหนึ่งด้วย

ทั้งนี้ ในรายงานการสอบสวนฉบับนี้ของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่แต่งตั้งโดยมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ระบุว่า คณะกรรมการได้ประมวลเหตุการณ์จากคำให้การบุคคล เอกสารงบประมาณ เอกสารการเบิกจ่ายเงิน และการเคลียร์เงิน เอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง และสภาพแวดล้อมต่างๆ แล้ว พบประเด็นปัญหาที่สำคัญ ในการดำเนินงานของ "สำนักวิจัยเอแบคโพลล์" จำนวน 7 ประเด็น ดังนี้ 

1.มีลูกหนี้เงินเบิกล่วงหน้าค้างเคลียร์และต้องชำระคืนเป็นจำนวนมาก

2. มีรายได้วิจัยค้างรับเป็นจำนวนมากถึง 33 โครงการ รวมเป็นเงิน 16,386,163.70 บาท

3.เกิดผลต่างการจัดทำโพลล์สาธารณะที่ไม่มีการแสดงรายการ จำนวน 11,590,609.13 บาท 

4.มีรายการนำฝากเงินโดยตรงเข้าบัญชีของสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เลขที่บัญชี 425-1-347XX-X บัญชีศูนย์วิจัยเอแบคนวัตกรรมทางสังคมการจัดการและธุรกิจ เลขที่บัญชี 425-1-258XX-X และ บัญชี ABAC ANCHOR เลขที่บัญชี 425-1-299XX-X โดยไม่ผ่านระบบการเงินของมหาวิทยาลัย เป็นจำนวนเงิน 17,292,009.93 บาท แต่มีการถอนโดยโอนเข้าบัญชีของมหาวิทยาลัยผ่านระบบการเงินของมหาวิทยาลัย เป็นจำนวนเงิน 8,924,840.00 บาท

5.มีการนำเงินไปใช้จ่ายนอกวัตถุประสงค์และรายการงบประมาณ

6. การควบคุมและตรวจสอบการใช้งบประมาณและหลักฐานการเบิกจ่ายเงินและการเคลียร์ที่ไม่เคร่งครัด อาทิ มีการใช้เอกสารที่ไม่ตรงกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง โดยเฉพาะการใช้สำเนาบัตรประชาชนในการรับเงินค่าตอบแทนมาแสดงสลับกันในแต่ละโครงการ เพื่อให้ได้ยอดเงินครบตามที่ระบุไว้ในงบประมาณ

7.ความเสียหายที่มหาวิทยาลัย รวมเป็นเงิน 48,496,608.14 บาท 

เบื้องต้น ในส่วนของประเด็นปัญหาลูกหนี้เงินเบิกล่วงหน้าค้างเคลียร์และต้องชำระคืนเป็นจำนวนมาก มีการระบุข้อมูลผลการสอบสวนไว้ดังนี้ 

1. การมีลูกหนี้เงินเบิกเงินล่วงหน้าค้างเคลียร์ และต้องชำระคืนเป็นจำนวนมาก เกิดจากวิธีการทำงานของบุคคลที่มีหน้าที่รับผิดชอบการเงินของเอแบคคโพลล์ ส่อไปในทางไม่สุจริต 

เพราะนำเงินไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ไม่ได้ใช่จ่ายให้ตรงตามงบประมาณที่ตั้งไว้ใช้หลักฐานเอกสารที่ซ้ำซ้อน และมีการโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวของผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 3 ราย ส่อให้เห็นว่ามีเจตนาเบียดบังทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยผู้เป็นนายจ้างไว้เป็นประโยชน์ของตนเองหรือผู้อื่นโดยทุจริต จึงทำให้ยอดเงินค่างเคลียร์มีจำนวนมากตามที่คณะกรรมการตรวจพบ

2. คณะกรรมการพบว่า มีการเบิกเงินล่วงหน้าจากมหาวิทยาลัยผ่านสำนักงานบริหารการเงินเพื่อนำไปสำรองใช้จ่ายในโครงการรบจ้างทำวิจัยในช่วงปี การศึกษา 2549 -2556 มียอดค้างเคลียร์ โดยต้องนำเอกสารหลักฐาน มาเคลียร์ตามหมวดรายจ่ายงบประมาณ และ /หรือต้องนำเงินเบิกล่วงหน้ามาคืนมหาวิทยาลัยรวม 19 โครงการเป็นเงินรวม 12,150,665.38 บาท

3. มีผู้เกี่ยวข้องต้องร่วมกันเคลียร์ลูกหนี้เงินเบิกล่วงหน้าค้างเคลียร์ทั้งหมด เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมทางการเงินร่วมกัน หากเคลียร์ส่วนใดไม่ได้ให้นำเงินมาคืนให้มหาวิทยาลัยพร้อมดอกเบี้ยในส่วนนั้น โดยผู้เกี่ยวข้องในส่วนนี้ มีจำนวน 5 คน 

สำหรับรายการใช้จ่ายเงินที่มีปัญหา เมื่อพิจารณาจากคำให้การ ของ "ผู้เกี่ยวข้อง" ได้แก่

- ค่าทุนการศึกษาของเจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงานหลายคน ตามนโยบายของผู้บริหาร 

-ค่ารักษาพยาบาลของเจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงาน 

- ค่าซื้อของขวัญต่างๆ ได้แก่ ซื้อนาฬิกาให้อดีตผู้บริหารรายหนึ่ง , ซื้อทองคำเป็นของขวัญให้บุตรหลานของเจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงาน และมีคำสั่งการจากผู้บริหารระดับสูงรายหนึ่งให้ซื้อสุนัขพันธุ์บีเกิ้ลจำนวน 2 ตัว ที่ฟาร์มย่านลาดพร้าว และให้ดูแลไว้ก่อน 

(จากการตรวจสอบข้อมูลร้านขายสุนัข ในย่านลาดพร้าว ของสำนักข่าวอิศรา พบว่า ราคาตัวละ 7500 - 8500 บาท ถ้าเป็นพ่อพันธุ์ดีๆ ตัวละเป็นหมื่น)

- การนำเงินเบิกล่วงหน้าจากมหาวิทยาลัยไปใส่ไว้ในบัญชีตนเอง เพื่อให้มีกระแสเงินเดินบัญชีที่ต่อเนื่องเป็นประโยชน์ในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน

ทั้งนี้ รายงานผลการสอบสวนส่วนนี้ ระบุว่า ได้มีการเชิญผู้บริหารสำนักวิจัยเอแบคโพลล์รายหนึ่ง ( เป็นหนึ่งในผู้เกี่ยวข้อง 5 ราย ที่ต้องมีส่วนรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับมหาวิทยาลัย) ให้ปากคำต่อคณะกรรมการ แต่เป็นการให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน และไม่ชัดเจน โดยอ้างว่าติดภารกิจสามารถอยู่ชี้แจงได้เพียง 20 นาที พอถามเรื่องบริหารจัดการก็บอกว่าไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะมอบหมายให้คนอื่นรับผิดชอบไปแล้ว

แสดงให้เห็นถึงการไม่ให้ความร่วมมือและพยายามปิดบังการให้ข้อเท็จจริงที่กรรมการต้องการสอบถามอีกหลายประเด็นสำคัญ 

ทั้งหมดนี่ คือ ข้อมูลเกี่ยวกับ ปัญหา "ลูกหนี้เงินเบิกล่วงหน้าค้างเคลียร์" ที่เกิดขึ้นในการบริหารงานของ "สำนักวิจัยเอแบคโพลล์" ที่ถูกตรวจสอบพบ และกำลังปรากฏเป็นข่าวดังอยู่ในขณะนี้

(ตอนหน้าว่าด้วยเรื่อง ปัญหารายได้วิจัยค้างรับ) 

หมายเหตุ : ภาพประกอบเรื่อง สุนัข ทอง นาฬิกา สมุดบัญชี จาก Google