- Home
- Investigative
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวสืบสวน
- "สยามอินดิก้า"โชว์รายได้1.4 หมื่นล.ช่วงระบายข้าว"ยิ่งลักษณ์"โดนสอบทุจริต
"สยามอินดิก้า"โชว์รายได้1.4 หมื่นล.ช่วงระบายข้าว"ยิ่งลักษณ์"โดนสอบทุจริต
"สยามอินดิก้า"แจ้งผลประกอบการธุรกิจ ช่วงโครงการระบายข้าวโครงการรับจำนำ รัฐบาล "ยิ่งลักษณ์" ถูกตรวจพบปัญหาทุจริต โกยรายได้ทะลุ 1.4 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 103 ล้าน - บ.ขายสว่านไฟฟ้า ถือหุ้นใหญ่เหมือนเดิม
จากกรณีบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ที่ปรากฎรายชื่อนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ “เสี่ยเปี๋ยง” นักธุรกิจชื่อดัง คนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ก่อตั้ง ถูกระบุว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาการทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และอยู่ระหว่างขั้นตอนการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ในขณะนี้นั้น
(อ่านประกอบ : เช็คชื่อเอกชน 91 ราย ในบัญชีแจ้งข้อกล่าวหา ป.ป.ช. คดีระบายข้าวจีทูจี! , เปิดไส้“สยามอินดิก้า” แบกหนี้ 3.3 พันล. - ก่อนเล่นกับ “ไฟ” (อีกครั้ง) ระบายข้าว จีทูจี)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลพบว่า เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ได้นำส่งงบดุลแสดงผลประกอบการธุรกิจ ในช่วงปี 2556 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเกี่ยวเนื่องจากที่ปัญหาโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ถูกตรวจพบความไม่ชอบมาพากล และปรากฎชื่อบริษัทฯ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ให้กรมพัฒนาธุรกิจรับทราบแล้ว
โดยบริษัทฯ แจ้งว่า มีรายได้จากการขายเป็นจำนวนเงิน 14,177,508,096.06 บาท รายได้อื่น 12,408,798.45 ทำให้มีรายได้รวมทั้งสิ้น 14,189,916,894.51 บาท
ส่วนรายจ่าย บริษัทฯ แจ้งว่า มีต้นทุนสินค้าที่ขาย 13,455,716,831.90 บาท ค่าใช้จ่ายในการขาย 140,375,418.83 บาท ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 383,196,252.93 บาท ทำให้มีรายจ่ายรวม 13,979,288,503.66 บาท
มีกำไร(ขาดทุน)ก่อนต้นทุนทางการเงิน 210,628,390.85 บาท ต้นทุนทางการเงิน 106,701,505.77 บาท
สรุปมีกำไรสุทธิ 103,926,885.08 บาท
ทั้งนี้ ผลประกอบการล่าสุดปี 56 ที่บริษัทฯ นำส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้ารับทราบดังกล่าว เป็นปีที่บริษัทฯ มีรายได้มากที่สุด รวมถึงกำไรสุทธิที่ได้รับ
โดยก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลงบดุลปี 2555 บริษัทฯ แจ้งว่ามีรายได้จากการขายสินค้า เป็นจำนวน 10,458,063,762.65 บาท มีรายได้อื่นอีกจำนวน 7,851,033.41 บาท
รวมรายได้ทั้งหมด 10,534,940,779.35 บาท
ส่วนรายจ่ายนั้น บริษัทฯ แจ้งว่ามีต้นทุนสินค้าที่ขาย 9,773,309,058.53 บาท มีค่าใช้จ่ายในการขาย 430,569,269.55 บาท และมีค่าใช้จ่ายในการบริหาร 107,310,643.64 บาท รวมรายจ่ายทั้งหมด 10,311,188,971.72 บาท ทำให้ตัวเลขกำไรสุทธิ อยู่ที่ 76,607,716.43 บาท
จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2556 บริษัท สยามอินดิก้า ได้แจ้งเพิ่มทุนจดทะเบียนใหม่ เป็นจำนวนเงิน 1,008,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมที่มีอยู่ 856,000,000 บาท
ขณะที่ผลการประกอบการปี 2554 บริษัทฯ ระบุว่า มีรายได้จากการขายและบริการสุทธิ 4,408,552,336.04 บาท ลดลงจากรายได้ปี 2553 จำนวน 4,694,320,393.74 บาท และ รายได้ปี 2552 จำนวน 5,495,111,405.57
ขณะที่การดำเนินกิจการในช่วงปี 2554 บริษัทฯ มีต้นทุน 4,316,957,105.09 บาท ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 148,273,737.46 บาท ตัวเลขขาดทุนและดอกเบี้ยต่างๆทำให้ มีตัวเลขขาดทุนสุทธิอยู่ที่ -150,347,471.90 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ถือเป็นตัวละครสำคัญในคดีทุจริตการระบายข้าวโครงการจำนำของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์
โดยภายหลังจากที่บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยสมัยรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ยุคนายวัฒนา เมืองสุข เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถูกระบุว่ามีส่วนเข้าไปเกี่ยวกับปัญหาการทุจริตในหลายกรณี ที่ถูกฟ้องล้มละลายไป
นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง อดีตกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เพรซิเดนท์ฯ ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ ชื่อว่า บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด โดยในช่วงแรก นายอภิชาติ ปรากฎชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด จำนวน 232,560 หุ้น
นายอนุ จารุศิลาวงศ์ และนางสาวเรืองวัน เลิศศลารักษ์ เคยถือหุ้นในบริษัท บริษัท เพรซิเดนท์ เกรนไซโล จำกัด ในเครือ บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง ก็เข้ามาร่วมถือหุ้นในบริษัท สยามอินดิก้า ด้วย
ก่อนที่บริษัทสยามอินดิก้า ได้ปรากฎชื่อเป็นผู้รับงานปรับปรุงสภาพข้าวและส่งมอบข้าว 15% จำนวน 300,000 ตัน ให้รัฐบาลอินโดนิเชีย ในช่วงปลายปี 2554 และมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย โดยเฉพาะขั้นตอนการประมูลที่ปิดลับ และใช้เวลาที่รวดเร็ว (ปัจจุบันอยู่ระหว่างการไต่สวนคดีของ ป.ป.ช.)
จากนั้น เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2552 บริษัท สยามอินดิก้า ได้แจ้งเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้ถือหุ้นใหม่ โดยมีชื่อ นางสุดา คุณจักร เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง จำนวน 655,359 หุ้น แทนที่ นายอนุ จารุศิลาวงศ์ ที่ลาออกไป เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2553 และถือเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ส่วนผู้ถือหุ้นรายอื่นยังเหมือนเดิม คือ นางสาวรัตนา แซ่เฮ้ง 95,639 หุ้น นางสาวเรืองวัน เลิศศลารักษ์ 69,999 หุ้น นางสาววิไลลักษณ์ สิทธิจันทร์เสน 1 หุ้น นายโจวเซียงดอง 35,000 หุ้น นางสาวจาสุรี นาจารย์ 1 หุ้น นายชนกชน ลิมเจริญ 1 หุ้น
ขณะที่กรรมการและผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัท คือ นางสาวเรืองวัน เลิศศลารักษ์ และนางสาวรัตนา แซ่เฮ้ง
ทั้งนี้ นางสุดา คุณจักร แจ้งข้อมูลที่อยู่ ไว้ที่ 248/15 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร เมื่อเดินทางไปตรวจสอบพบว่า เป็นคอนโดมีเนียม ในโครงการ บางกอกริเวอร์ มารีน่า อยู่ติดกับ ห้างเทสโก้ โลตัส ถนนจรัญสนิทวงศ์
จนกระทั่งล่าสุด ในช่วงปลายปี 2556 บริษัทฯ ได้แจ้งเปลี่ยนรายชื่อผู้ถือหุ้นบริษัทใหม่ อีกครั้ง และปรากฎชื่อบริษัท คาล เอเซีย เอ็นเตอร์ไพรเซส จำกัด เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แทนดังกล่าว
ทั้งนี้ รายชื่อ ผู้ถือหุ้นบริษัท ฯ ณ วันที่ 30 เมษายน 2557 มี 7 ราย
1 บริษัท คาล เอเซีย เอ็นเตอร์ไพรเซส จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด ไทย 655,359 หุ้น (มูลค่าหุ้นละ 1,000 บาท) คิดเป็นเงิน 655,359,000บาท
2 บริษัท จัสมิน เซอร์เวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จำนวน 152,001 หุ้น คิดเป็นมูลค่า 152,001,000 บาท
3 นางสาว รัตนา แซ่เฮ้ง จำนวน 95,639 หุ้น คิดเป็นมูลค่า 95,639,000 บาท
4 นางสาว เรืองวัน เลิศศลารักษ์ จำนวน 69,999 หุ้น คิดเป็นมูลค่า 69,999,000 บาท
5 นาย โจว เซียงดอง จำนวน 35,000 หุ้น คิดเป็นมูลค่า 35,000,000 บาท
6 นางสาว จาสุรี นาจารย์ จำนวน 1 หุ้น คิดเป็น มูลค่า 1,000 บาท
7 นางสาว วิไลลักษณ์ สิทธิจันทรเสน จำนวน 1 หุ้น คิดเป็น มูลค่า 1,000 บาท
อ่านประกอบ :
บริษัทนำเข้าสว่าน ย่านคลองเตย โผล่ถือหุ้นใหญ่"สยามอินดิก้า" 655 ล.
บ.ขายสว่านไฟฟ้า เปลี่ยนชื่อกก.-ผู้ถือหุ้นอุตลุด ก่อนโผล่ "สยามอินดิก้า"
"ผู้ทำบัญชี"ยัน บ.ขายสว่านไม่ทำธุรกิจ 2-3 ปี ก่อนโผล่ถือหุ้นใหญ่"สยามอินดิก้า"
หุ้นใหญ่ บริษัทสยามอินดิก้า 655 ล้าน! อยู่แฟลตเอื้ออาทร ย่านบึงกุ่ม
พบอีก!"จัสมินเซอร์เวย์" แจ้งรายได้หลักหมื่น-โผล่ถือหุ้นสยามอินดิก้า 152 ล.
ฮือฮา! "สยามอินดิก้า" ปิดออฟฟิตย่าน"รัชดา" ทิ้ง- ย้ายไปทำธุรกิจ "อ่างทอง"