- Home
- Investigative
- จัดซื้อจัดจ้าง
- "อนุดิษฐ์" มั่นใจผลสอบคดีคอมฉาว สธ. เป็นบวกต่อ “คุณหญิงหน่อย”
"อนุดิษฐ์" มั่นใจผลสอบคดีคอมฉาว สธ. เป็นบวกต่อ “คุณหญิงหน่อย”
"อนุดิษฐ์" มั่นใจผลสอบคดีคอมฉาว สธ. มูลค่ากว่า 900 ล้าน ผลเป็นบวกต่อ "คุณหญิงหน่อย" สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ชี้โครงการยังไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หลังถูกสั่งยกเลิกงบประมาณถูกส่งคืนคลังหลวงหมด -ชม ป.ป.ช. มี สปิริต เปลี่ยนตัวประธานสอบ จาก ภักดี โพธิศิริ เป็นคนอื่น
กรณี นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะผู้รับผิดชอบสำนวน คดียกเลิกการประกวดราคาซื้อและติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ของกระทรวงสาธารณสุขโดยมิชอบ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย ที่มีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ สมัยดำรงตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข กับพวก เป็นผู้ถูกกล่าวหา ระบุว่าจะเสนอสำนวนการไต่สวนคดีนี้ ให้ที่ประชุม ป.ป.ช. ชุดใหญ่ พิจารณาในวันที่ 30 เมษายน 2556 ที่จะถึงนี้
เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2556 น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที.) คนใกล้ชิดคุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า เท่าที่รับทราบแนวทางการต่อสู้คดีนี้ของคุณหญิงสุดารัตน์ รวมถึงข้อมูลเอกสารหลักฐาน ที่นำส่งให้ ป.ป.ช. พิจารณาในช่วงที่ผ่านมา เชื่อว่าผลการไต่สวนคดีนี้ที่ออกมาน่าจะเป็นบวกกับคุณหญิงสุดารัตน์ และการที่ ป.ป.ช. เปลี่ยนตัวกรรมการ ป.ป.ช. ผู้รับผิดชอบการสอบสวนจากนายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ เพราะเคยเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ ในสมัยที่เป็นรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และให้กรรมการ ป.ป.ช. คนอื่นมารับผิดชอบแทน ก็ถือเป็นการแสดงสปิริต ในการทำงานที่ดีของป.ป.ช.
เมื่อถามว่า อะไรที่ทำให้มั่นใจว่าผลสอบที่ออกมาจะเป็นบวกกับคุณหญิงสุดารัตน์ น.อ.อนุดิษฐ์ ตอบว่า “โครงการนี้ ยังมีไม่มีความเสียหายอะไรเกิดขึ้น เพราะในข้อเท็จจริงหลังการสั่งยกเลิกโครงการไป เงินงบประมาณก็มีการส่งคืนคลังเรียบร้อย ถือว่ายังไม่มีความเสียหายอะไรเกิดขึ้นกับราชการ ตามที่มีผู้ร้องเรียน และแตกต่างจากคดีอื่น ที่อยู่ระหว่างการสอบสวนของป.ป.ช. ”
เมื่อถามว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับราชการ อาจเป็นเพราะไม่สามารถดำเนินโครงการได้ ทำให้เสียประโยชน์ น.อ.อนุดิษฐ์ ตอบว่า "เหตุผลที่สั่งให้การยกเลิกโครงการในขณะนั้น เพราะเห็นว่ามีปัญหาเกิดขึ้น และโดยความเห็นส่วนตัวของผม มองว่า โดยปกติเครื่องมืออุปกรณ์ไอซี ที่ซื้อมาใช้งานกัน ไม่กี่ปีก็ตกรุ่น ต้องซื้อใหม่กันทั้งนั้น หากหน่วยงานที่รับผิดชอบต้องการจะจัดซื้อหรือดำเนินการใหม่ ก็สามารถทำได้"
เมื่อถามว่า การสั่งยกเลิกโครงการฯ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า ผู้มีอำนาจทางการเมืองต้องการที่จะเอาบริษัทพรรคพวกตนเองเข้ามารับงานแทน น.อ.อนุดิษฐ์ ตอบว่า “ไม่มีเรื่องแบบนั้น เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะหลังจากที่โครงการยกเลิกไป ก็ไม่ได้มีการดำเนินการต่อ”
เมื่อถามว่า คุณหญิงสุดารัตน์ อยู่ในต่างประเทศหรือไม่ น.อ.อนุดิษฐ์ ตอบว่า เข้าใจว่าเดินทางไปปฏิบัติภารกิจส่วนตัวในต่างประเทศอยู่ในขณะนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับคดีการยกเลิกประมูลเช่าคอมพิวเตอร์ของกระทรวงสาธารณสุข มูลค่ากว่า 900 ล้านบาท หรือที่รู้จักกันใน "คดีคอมพ์ฉาว" เกิดขึ้นในสมัยคุณหญิงสุดารัตน์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในปี 2547 โดยคดีดังกล่าวถือเป็นการต่อสู้กันระหว่างข้าราชการการเมือง ที่นำโดยคุณหญิงสุดารัตน์กับข้าราชการประจำที่นำโดย นพ.วัลลภ ไทยเหนือ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขในขณะนั้น ภายหลังจากคุณหญิงสุดารัตน์มีคำสั่งปลด นพ.วัลลภ ออกจากปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งคดีดังกล่าวมีการแฉกันไปมาทั้งสองฝ่าย เกี่ยวกับความไม่โปร่งใสในขั้นตอนการจัดหาบริษัทเอกชนเข้ามารับงาน กระทั่งมีการยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. และมีการแต่งตั้งนายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน
แต่ต่อมาคุณหญิงสุดารัตน์ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนว่านายภักดีมีส่วนได้ส่วนเสีย เพราะเคยเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวสมัยเป็นรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ขณะที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทยในขณะนั้น ซึ่งเป็นคนสนิทของคุณหญิงสุดารัตน์เองก็ยื่นถอดถอดนายภักดีด้วย แต่ปรากฏว่าวุฒิสภามีมติไม่ถอดถอนนายภักดีออกจากกรรมการ ป.ป.ช. ทว่าที่ประชุม ป.ป.ช.ก็มีมติถอดนายภักดีจากการรับผิดชอบสำนวนคดีดังกล่าว พร้อมแต่งตั้งให้นายวิชัย วิวิตเสรี และนายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้รับผิดชอบสำนวนคดีนี้แทน และสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมใน 1-2 ประเด็น
ล่าสุดนายวิชัย ออกมาระบุว่า ดำเนินการสอบสวนข้อมูลเพิ่มเติมเรียบร้อยแล้ว และเตรียมเสนอสำนวนการไต่สวนให้ที่ประชุม ป.ป.ช. ชุดใหญ่พิจารณา ในวันที่ 30 เมษายน 2556 นี้