- Home
- Investigative
- จัดซื้อจัดจ้าง
- คสช.โละทิ้งบอร์ดทีโอทียกชุด "ปัญหาตีกอล์ฟ-สวาปามไวน์หรู"เอาไงต่อ?
คสช.โละทิ้งบอร์ดทีโอทียกชุด "ปัญหาตีกอล์ฟ-สวาปามไวน์หรู"เอาไงต่อ?
"..เพราะถ้าบอร์ดบริหาร ทีโอที ชุดใหม่ เข้ามานั่งบริหารงานแล้ว ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือมีอะไรดีไปกว่าเดิม โดยเฉพาะการจัดการปัญหาทุจริตคอรัปชั่น ที่กัดกิน ทีโอทีมาช้านาน .."ทีโอที" ก็คงไม่มีวันหลุดพ้นวงวันสภาพความเป็น "ขุมสมบัติล้ำค่า" ที่นอนรอคอยผู้คนแวะเวียนมาชื่นชม มาตักต้วงผลประโยชน์ .."
นับเป็นเวลายาวนานแรมเดือน ที่ปัญหาความไม่ชอบมาพากลในการบริหารงานของคณะกรรมการบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ถูกเปิดโปง และ ขุดคุยขึ้นมา ให้สังคมได้รับทราบผ่านหลักฐาน "เชิงประจักษ์" จำนวนมาก
ไล่เรียงมาตั้งแต่ ปัญหาการใช้จ่ายเงินรับรองบอร์ดทีโอทีของอดีตบอร์ดทีโอทีรายหนึ่ง เพื่อความบันเทิงในกีฬากอล์ฟที่สโมสรราชพฤกษ์ (บริษัทนอร์ธ ปาร์ค กอล์ฟแอนสปอร์ตคลับ จำกัด) เป็นเงินทะลุหลักล้านบาท
(อ่านประกอบ : อัยการ"ประสิทธิ์"ยันใช้เมมเบอร์ทีโอทีตีกอล์ฟ ยอดแค่ 4 แสน ไม่ถึง1.2 ล.)
ตามติดมาด้วยการจัดประชุมติดตามความคืบหน้างานการให้บริหารระบบ 3 จี ที่ร้านไวน์สุดหรู ของบอร์ดทีโอที หลายครั้งรวมเป็นเงินกว่าครึ่งล้านบาท ซึ่งส่อว่าจะมีปัญหาความไม่ชอบมาพากลในทำเอกสารเบิกจ่ายเงินที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากบอร์ดหลายคน ยืนยันตรงกันว่า ไปร่วมงานไม่กี่ครั้ง และลักษณะงานที่จัดก็เป็นรูปแบบงานเลี้ยงสังสรรค์ ไม่ได้เป็นการประชุมหารือเรื่องงาน 3 จี ตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด
แถมเรื่องนี้ยังพ้วงด้วยปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน เนื่องจากหุ้นส่วนใหญ่ร้านไวน์หรูดังกล่าว มีนามสกุลเดียวกับบอร์ดทีโอทีที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดหาร้านแห่งนี้ โดยตรง
(อ่านประกอบ : เปิดหลักฐานเท็จ? ใบเสร็จสวาปามไวน์หรู 7 แสน อ้างประชุมบอร์ดทีโอที , คำให้การ"บิ๊กอัยการ":ประชุม 3 จี"ทีโอที"ร้านไวน์หรู!ร้ายแรงกว่าตีกอล์ฟ )
นี่ยังไม่นับร่วมข้อมูลการบริหารงานของบอร์ดที่มีลักษณะเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทผู้ให้บริการมือถือรายยักษ์รายหนึ่งของประเทศอย่างชัดเจน และการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ เพื่อเรียกร้องให้คณะผู้บริหารทีโอทีสะสางปัญหาเรื่องผลประโยชน์ที่ทีโอทีต้องสูญเสียไปคืนกลับมาโดยเร็ว
(อ่านประกอบ : "บิ๊กอัยการ" เอาคืน! แฉผู้บริหารทีโอที จ้อง"ลักไก่"ประเคนคลื่นให้ "เอกชน" , สหภาพทีโอที ร้อง "ประยุทธ์ -ไอซีที-คลัง" ทวงเงิน 9 หมื่นล. "เอไอเอส")
แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง ดูเหมือนข้อมูลและหลักฐานเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลเหล่านี้ จะไม่ได้รับการตอบสนองจาก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีอำนาจการบริหารประเทศแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และชิงชังปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากนัก
ขณะที่ผู้บริหารระดับสูงของทีโอที ก็ไม่ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงอะไรเกี่ยวกับปัญหาความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้น ต่อสังคมให้ได้รับความกระจ่างมากนัก
คำตอบที่สื่อได้รับตอบกลับมา มักจะมีเพียงแค่คำพูดที่ว่า "เรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ไปแล้ว ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรด้วย ปล่อยให้เรื่องเป็นไปตามกระบวนการ"
ฟังดูมันช่างขัดแย้งและสวนทางกับ คำสั่ง คสช. ฉบับที่ 69/2557 เรื่องมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ ที่กำชับให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ กำหนดมาตรการหรือแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบในส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ ยิ่งนัก
โดยเฉพาะในข้อที่ 2 ที่ระบุไว้ชัดเจนว่า ในกรณีที่มีการกล่าวหาหรือพบเหตุอันควรสงสัยว่าข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทำการหรือเกี่ยวข้องกับการทุจริตประพฤติมิชอบ ทั้งในฐานะตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุน ให้หัวหน้าส่วนราชการและหัวหน้าหน่วยงานของรัฐดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ภายใต้พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์วิธีการบริหารการเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ประกอบกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคล โดยให้บังคับใช้มาตรการทางวินัย มาตรการทางปกครอง และมาตรการทางกฎหมายอย่างเฉียบขาดและรวดเร็ว
ขณะที่ข้อ 4 ระบุว่า กรณีหัวหน้าส่วนราชการหรือผู้บังคับบัญชาปล่อยปละละเลย ไม่ดำเนินการให้ถือเป็นความผิดวินัยหรือความผิดทางอาญาแล้วแต่กรณี
ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ส.ค.57 ที่ผ่านมา คสช. ได้อนุมัติการแต่งตั้งคณะกรรมการบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ชุดใหม่ ตามที่กระทรวงการคลังได้เสนอมาให้พิจารณา ประกอบด้วย
พลเอกสุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ (รองเสนาธิการทหาร และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ)
นายสุรนันท์ วงศ์วิทยกำจร (อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ : กทช.)
นายธันวา เลาหศิริวงศ์ (อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไอบีเอ็ม)
นายอนุพันธ์ กิจนิจชีวะ (หุ้นส่วนอาวุโส บจก.สำนักกฎหมายสากลธีรคุปต์)
นายมนตรี ศรไพศาล (ประธานบริหารบริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง)
นายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ (อดีตผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ และอดีตผู้บริหารฝ่ายธุรกิจทรู อินเทอร์เน็ต)
นางศิริพร เหลืองนวล (รองผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ)
นายวรพัฒน์ ทิวถนอม (อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา)
นางอุไร ร่มโพธิหยก (ที่ปรึกษา กรมบัญชีกลาง)
นายพิพัฒน์ ขันทอง (ที่ปรึกษา กรมสรรพากร)
นายชิต เหล่าวัฒนา (อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี)
นายพงศ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข (ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์)
พันเอกสมเกียรติ สัมพันธ์ (ผอ.กองแผนและงบประมาณโครงการ กรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม)
นายกฤษฎา บุณยสมิต (รองอธิบดีอัยการ สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย)
หากพิจารณาถึงรายชื่อคณะกรรมการบริหารใหม่ ต้องบอกว่าเป็นการแต่งตั้งยกชุด โละทิ้งบอร์ดชุดเก่าทั้งหมด
คำถามที่น่าสนใจ คือ บอร์ดบริหาร ทีโอที ชุดใหม่ ที่จะเข้ามารับงานต่อไป ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาความไม่ชอบมาพากลในการบริหารงานของคณะกรรมการบริหารชุดเก่า ในเรื่องที่มีการระบุไปข้างต้นบ้างหรือไม่
และจะมีนโยบายอะไรในการจัดการปัญหาเหล่านี้อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม มากกว่าแค่คำพูดที่ว่า "เราจะไม่ยุ่งกับเรื่องก้าว เราจะมุ่งไปข้างหน้า" ตามสคริปท์ คำพูดของผู้บริหารชุดใหม่ชอบพูดกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะหรือมีปัญหากับผู้บริหารชุดเก่า
เพราะถ้าบอร์ดบริหาร ทีโอที ชุดใหม่ เข้ามานั่งบริหารงานแล้ว ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือมีอะไรดีไปกว่าเดิม โดยเฉพาะการจัดการปัญหาทุจริตคอรัปชั่น ที่กัดกิน ทีโอทีมาช้านาน
"ทีโอที" ก็คงไม่มีวันหลุดพ้นวงวันสภาพความเป็น "ขุมสมบัติล้ำค่า" ที่นอนรอคอยผู้คนแวะเวียนมาชื่นชม มาตักต้วงผลประโยชน์ เมื่อเสร็จสมอารมณ์หมาย แล้วก็เดินจากไป คนแล้วคนเล่า โดยไม่เคยต้องรับผิดชอบอะไรกับผลการกระทำของตนเองในอดีต
ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป จนกลายเป็นความเคยชินและชา ในสายตาของคนในองค์กรหรือสังคมทั่วไป แบบที่เห็นและเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้!