ตามไปดูบ.เอวิเอ หลังแพ้คดีขายจีที200 -รปภ.ปัดไม่รู้จักผู้บริหารโดนโทษจำคุกคนเดียว19 ปี

เขียนวันที่

วันศุกร์ ที่ 28 กันยายน 2561 เวลา 20:00 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

จัดซื้อจัดจ้าง | Isranews | Investigative | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา | ข่าวเด่นสืบสวน

Tags

"...สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2561 ที่ผ่านมา ได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ นายสุทธิวัฒน์ วัฒนกิจ เกี่ยวกับข้อเท็จจริงการซื้อขายเครื่องจีที 200 และแนวทางการต่อสู้คดี แต่ไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ จึงเดินทางไปติดต่อที่บริษัท เอวิเอ แซทคอม ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คือ เลขที่ 19 ถนนพหลโยธิน แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร เมื่อเดินทางไปถึงพบว่า ที่อยู่ดังกล่าวเป็นที่ตั้งอาคารสูงประมาณ 6 ชั้น ที่บริเวณหน้าอาคารมีเสาขนาดใหญ่มีโลโก้บริษัท SAAB อยู่ มีการติดตั้งประตูเหล็กระบบอัตโนมัติป้องกันเข้มงวด..."

Saab500300

สืบเนื่องจาก นายสุทธิวัฒน์ วัฒนกิจ ผู้บริหารบริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด ถูกศาลตัดสินโทษจำคุกคนเดียวในคดีอาญาขายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดและสารเสพติด GT200 จากการฟ้องร้องของ 2 หน่วยงาน คือ กรมราชองครักษ์ และ กรมสรรพาวุธทหารบก รวมจำนวน 19 ปี ส่วนบริษัท เอวิเอ แซทคอม จากัด เสียค่าปรับคดีอาญาและแพ่งชดใช้เงินรวมจำนวนทั้งสิ้น 9,090,000 บาท (อ่านประกอบ : ข้อมูลธุรกิจล่าสุด สุทธิวัฒน์ วัฒนกิจ ผู้บริหารบ.ขายจีที200 โดนโทษจำคุกคนเดียว 19 ปี)

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2561 ที่ผ่านมา ได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ นายสุทธิวัฒน์ วัฒนกิจ เกี่ยวกับข้อเท็จจริงการซื้อขายเครื่องจีที 200 และแนวทางการต่อสู้คดี แต่ไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ จึงเดินทางไปติดต่อที่บริษัท เอวิเอ แซทคอม ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คือ เลขที่ 19 ถนนพหลโยธิน แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร

เมื่อเดินทางไปถึงพบว่า ที่อยู่ดังกล่าวเป็นที่ตั้งอาคารสูงประมาณ 6 ชั้น ที่บริเวณหน้าอาคารมีเสาขนาดใหญ่มีโลโก้บริษัท SAAB อยู่ มีการติดตั้งประตูเหล็กระบบอัตโนมัติป้องกันเข้มงวด

ต่อมาสำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อสอบเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำอาคาร เพื่อแจ้งความประสงค์จะขอสัมภาษณ์ นายสุทธิวัฒน์

แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยระบุว่าไม่รู้จัก นายสุทธิวัฒน์ วัฒนกิจ แต่อย่างใด

และแจ้งว่า ในอาคารหลังนี้ซึ่งชื่อว่าอาคาร 19 มีบริษัทอยู่หลายแห่ง และไม่ทราบรายละเอียดบริษัทอะไรมาก มีหน้าที่แค่รักษาความปลอดภัยเท่านั้น แต่ถ้าหากผู้ใดประสงค์จะเข้าไปในตัวอาคารจะต้องนัดก่อนล่วงหน้า

จากนั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้โทรศัพท์ติดต่อไปภายในตัวอาคารเพื่อติดต่อประสานงานให้สำนักข่าวอิศรา ก่อนจะแจ้งให้ทราบภายหลังว่า เจ้าหน้าที่ภายใน ขอให้ฝากข้อมูลไว้แล้วจะติดต่อกลับมาในภายหลัง

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า จากการสังเกตป้ายรายชื่อที่ติดอยู่บริเวณป้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พบว่า มีรายการระบุชื่อบริษัทที่ตั้งอยู่ในอาคารแห่งนี้ประกอบไปด้วย บริษัทเอวีเอ แซทคอมจำกัด บริษัท เอวิเอ ซินเนอยี จำกัด บริษัท ลิบราเวย์ จำกัด และ บริษัท วิช-วี จํากัด

อนึ่งก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานข้อมูลไปแล้วว่า บริษัทเอวิเอ แซตคอม จำกัด มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือบริษัท ลิบราเวย์ จำกัด

ขณะที่ โครงการการบริหารงานของ บริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าล่าสุด ไม่ปรากฏชื่อ นายสุทธิวัฒน์ วัฒนกิจ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจบริษัท หรือมีรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นแต่อย่างใด

โดยกรรมการผู้มีอำนาจในปัจจุบัน คือ นางมณฑิรา วัฒนกิจ ส่วน น.ส. พัลลภา พจน์ชพรกุล นาง นัทธภัทร คงเจริญ นาย ดอน อ๊อคเก เอียนสเต็ด นาง มารี หลุยส์ เอ็ททามา นาย ศรายุทธ ทุมทา ร่วมเป็นกรรมการ

รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 2 พ.ค.61 บริษัท ลิบราเวย์ จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด 67.3161% บริษัท ซาบ เอบี จำกัด (มหาชน) สวีเดน ถืออยู่ 25.1000% หุ้นที่เหลือกระจายอยู่ในชื่อ นาย พสิษฐ ตงศิริ นาย พีรพล ตระกูลช่าง นาย แมนเฟรด แม็กซิมิเลียน เกอร์ฮาร์ด คาร์เก้ พล.อ. อภิชิต กานตรัตน์ นางสาว อรุณี ธารินเจริญ นาย ณทัต ราชเวชชพิศาล นางสาว นาฎวดี วัฒนกิจ นางสาว พัลลภา ศรีเชียงหวาง นาย พิพัฒน์ ถาวรโลหะ นางสาว สุทธาวรรณ รักษาจันทร์ นาย บรรณกร เพชรทวีธรรม นาย ศรายุทธ ทุมทา นาย สุรัตน์ แจ่มศรี นาย สันติ เกลี้ยงเกิด

อย่างไรก็ดี นายสุทธิวัฒน์ วัฒนกิจ ยังปรากฎชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ลิบราเวย์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ่นใหญ่ บริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด อยู่

ส่วนบริษัท เอวิเอ ซินเนอยี จำกัด เป็นธุรกิจที่เคยปรากฎชื่อ นาย สุทธิวัฒน์ วัฒนกิจ ร่วมเป็นกรรมการ มีบริษัท ลิบราเวย์ จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด

นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ล่าสุด ณ 31 ธันวาคม 2560 มีรายได้รวม 765,078,652.13 บาท รวมรายจ่าย 680,556,802.06 บาท กำไรสุทธิ 64,385,997.75 บาท

นับเป็นตัวเลขรายได้ที่สูงมากตามที่ระบุไปก่อนหน้านี้