เรื่องสะเทือนใจ “สูญหาย-ซ้อมทรมาน-ข่มขืน” ระหว่าง นปช.ชุมนุม ปี 53
ซอกหลืบหนึ่งของรายงานฉบับสมบูรณ์ คอป.ที่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ ไปเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา ยังมีเรื่องสะเทือนใจที่สังคมไทยควรได้รับรู้เกี่ยวกับการ “สูญหาย-ซ้อมทรมาน-ข่มขืน” ระหว่างการชุมนุมของ นปช.ในเดือน เม.ย.-พ.ค.ปี 2553
และเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงครบถ้วน “สำนักข่าวอิศรา” จึงขอยกถ้อยคำในรายงานของ คอป.มาถ่ายทอดต่อชนิดทุกตัวอักษร
ทั้งนี้ เรื่องราวที่กระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนดังกล่าว อยู่ในหัวข้อ “2.7 ข้อค้นพบเกี่ยวกับกรณีผู้สูญหาย การซ้อมทรมาน และการข่มขืน” ในรายงานฉบับสมบูรณ์ของ คอป.ระหว่างหน้า 193-196
(อ่าน รายงานคอป.ฉบับสมบูรณ์ (กรกฎาคม ๒๕๕๓ – กรกฎาคม ๒๕๕๕) จากสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org)
2.7.1 กรณีผู้สูญหายระหว่างเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองช่วงเดือนเมษายน –พฤษภาคม 2553 โดย คอป. ได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีผู้สูญหาย 1 คน คือ “นายอดิลักษณ์ อินสันเทียะ” อายุ 24 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ โดยนางสาวสมมาตร ช่วยพิมาย มารดาของนายอดิลักษณ์ เข้าให้ข้อมูลกับ คอป. เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2555 ว่า นายอดิลักษณ์หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2553 โดยมีความเชื่อว่านายอดิลักษณ์ไปร่วมชุมนุม นปช.กับเพื่อน อย่างไรก็ตาม เพื่อนที่ไปด้วยกันได้กลับบ้านมาหมดแล้ว แต่นายอดิลักษณ์ไม่ได้กลับมาด้วย โดยตนได้ร้องเรียนไปยังพรรคเพื่อไทย มูลนิธิกระจกเงา และได้รับความช่วยเหลือจากศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมกรณี เม.ย.-พ.ค. 53 (ศปช.)
ทั้งนี้ มูลนิธิกระจกเงารายงานจำนวนผู้สูญหาย ณ วันที่ 7 มิถุนายน 2553 โดยได้รับเรื่องร้องเรียนจำนวน 74 คน ยังติดตามไม่พบจำนวน 51 คน [394] ทั้งนี้ จากการตรวจสอบกับมูลนิธิกระจกเงาและศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมกรณี เม.ย.-พ.ค. 53 ถึงข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม พบว่าได้พบบุคคลตามรายชื่อแล้วหลายคนและยังเหลือผู้สูญหายที่ติดตามไม่พบอีกจานวน 3 คน
2.7.2 กรณีการซ้อมทรมานเกี่ยวกับเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองเมษายน – พฤษภาคม 2553 โดย คอป. ได้รับรายงานกรณีการซ้อมทรมานจำนวน 2 กรณี
2.7.2.1 กรณี “นายกฤษณะ ธัญชัยพงศ์” แกนนำนักศึกษากลุ่มเสรีปัญญาชน ซึ่งร่วมเคลื่อนไหวชุมนุมกับ นปช. และเคยขึ้นเวทีปราศรัยของ นปช. นายกฤษณะให้ข้อมูลกับ คอป. ว่าถูกซ้อมทรมานพร้อมกับเพื่อนนักศึกษาและเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี (นักเรียนมัธยม) อีก 2 คน โดยเจ้าหน้าที่ทหารขณะเดินทางออกจากพื้นที่ชุมนุมเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2553
นายกฤษณะให้ข้อมูลว่าระหว่างเดินทางกลับจากแยกราชประสงค์ โดยออกจากแยกราชประสงค์มาด้วยรถจักรยานยนต์มาถึงแยกปทุมวันซึ่งจอดรถยนต์ไว้ แล้วจึงขับรถยนต์มาถึงซอยจุฬาฯ 12 หลังสนามศุภชลาศัย เวลาประมาณ 19.00 น. พบด่านของเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ทหารได้มัดมือตนไพล่หลัง ให้นั่งคุกเข่า หันหน้าเข้าหากำแพง และปิดตา เจ้าหน้าที่ทหารซักถามว่าในที่ชุมนุมแกนนำอยู่ที่ไหน ใครอยู่ที่ไหน มีอาวุธซ่อนที่ไหน หัวหน้าซุ่มอยู่จุดใดบ้าง ตนตอบไปว่าไม่ทราบ เพราะเพิ่งมาร่วมชุมนุม โดยขณะที่สอบถาม ตนถูกเตะ และถูกปิดตาโดยมีปืนจ่ออยู่ เพื่อนอีกสองคนถูกปิดตาเช่นเดียวกัน หลังจากนั้นยี่สิบนาทีจึงเปิดตา และสอบถามเช่นเดิมหลายครั้ง นอกจากนี้ยังถูกทุบตีและถูกขู่ว่าหากไม่บอกเดี๋ยวจะเจอขาโหด หลังจากนั้นมีคนนั่งรถกระบะมาสอง-สามคน ใส่ชุดทหารหรือชุดสีดำสวมโม่ง ตนถูกชายดังกล่าวเตะและบีบคอจนหายใจไม่ออกจึงปล่อย คนเหล่านั้นใช้น้ำมันราดแล้วแกล้งจ่อไฟแช๊คเพื่อขู่ว่าจะเผา และตนถูกฟาดด้วยแส้ เพื่อให้ตอบคำถาม และมีการพูดว่าจะทำเหมือนกับสามจังหวัดภาคใต้ด้วย
ตนและเพื่อนอยู่บริเวณดังกล่าวโดยถูกซักถามประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นจึงมีนักข่าวมาสัมภาษณ์ แต่ไม่ได้แจ้งนักข่าวว่าถูกซ้อมทรมาน ขณะที่นักข่าวมามีคนเอาของมากองข้างหน้าทำเป็นของกลาง มีสนับมือและหนังสติ๊กซึ่งถูกอ้างว่าเป็นของตน โดยถูกควบคุมตัวอยู่ประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจมานำตัวไปที่ สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ปรึกษาทนายความและไม่ได้รับอนุญาตให้ติดต่อญาติ ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สถานีตำรวจนครบาลปทุมวันจนถึงเช้าวันที่ 17 พฤษภาคม 2553 จึงถูกนำตัวมายังศาลแขวงปทุมวัน ส่วนเยาวชน 1 คนถูกนาตัวไปศาลเยาวชนฯ [395]
โดยนายกฤษณะและเพื่อนนักศึกษาถูกดำเนินคดีข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งตาม พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 และในวันเดียวกันศาลชั้นต้นตัดสินลงโทษจาคุก 1 ปี โดยศาลมิได้สอบถามใดๆ ต่อมาศาลอุทธรณ์ลดโทษจาคุกเหลือ 6 เดือน [396]
2.7.2.2 กรณีมีรายงานข่าวว่ามีการซ้อมทรมานผู้ต้องหาในเหตุการณ์เผาศาลากลางจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดมุกดาหาร[397] จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 โดยควบคุมตัวไว้ในรถบรรทุกผู้ต้องหา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เป็นกรณีการควบคุมตัวตาม พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งมาตรา 11 ห้ามมิให้ควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจ แต่ไม่ได้มีการจัดเตรียมสถานที่ควบคุมตัวอื่นไว้ อย่างไรก็ตามการนำไปควบคุมตัวไว้ในรถบรรทุกผู้ต้องหา เป็นการกระทำที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของพระราชกำหนดฯ ซึ่งห้ามไม่ให้ปฏิบัติต่อผู้ถูกควบคุมตัวในลักษณะเป็นผู้กระทำความผิด และการกระทาดังกล่าวยังเป็นการละเมิดศักดิ์ศรีของผู้ถูกควบคุมตัว
2.7.3 กรณีการข่มขืน ระหว่างเหตุการณ์เมษายน – พฤษภาคม 2553 โดย คอป. ได้รับรายงานกรณีผู้ชุมนุมถูกทำร้ายร่างกายและข่มขืน โดยจากการสัมภาษณ์เหยื่อผู้ถูกข่มขืน ได้ความว่าเป็นผู้เข้าร่วมชุมนุม โดยมีภูมิลาเนาอยู่กรุงเทพฯ เข้าร่วมชุมนุมตั้งแต่ช่วงการชุมนุมบนถนนราชดำเนิน และได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากแก๊สน้ำตาและถูกทุบตีในเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน
ต่อมาได้มาชุมนุมที่แยกราชประสงค์ จนกระทั่งวันที่ 15 พฤษภาคม 2553 ได้เดินทางออกจากแยกราชประสงค์เพื่อกลับบ้าน โดยนั่งรถจักรยานยนต์ออกมาทางแยกปทุมวัน ใกล้ๆ ห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง แล้วเดินมุ่งหน้าออกไปทางด่านของเจ้าหน้าที่ทหาร โดยเจ้าหน้าที่ทหารได้ขอตรวจค้นกระเป๋าและได้ยึดรูป พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล และบัตร นปช.ไว้ แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ แต่ทหารไม่ปล่อยตัวกลับบ้าน ประกอบกับเป็นช่วงเวลาค่ำแล้ว ตนจึงโมโหและด่าเจ้าหน้าที่ทหาร จึงถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวไปไว้หลังป้ายรถประจำทาง แต่ก็ยังไม่ปล่อยตัว ตนจึงด่าเจ้าหน้าที่ทหารอีกรอบ จึงถูกนำตัวไปไว้ข้างอาคารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย แล้วเจ้าหน้าที่ทหาร 5 – 7 คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทหารประจำด่านทางเข้าออกศูนย์การค้า รุมทำร้ายร่างกายตน ด้วยการต่อยท้อง จนตนสลบหมดสติไป
ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในคืนวันเดียวกัน พบว่ากางเกงในถูกดึงลงไปอยู่ที่ขา เสื้อและเสื้อในถูกถอดออก และมีน้าอสุจิเปรอะเปื้อนบริเวณขาและช่องคลอด มดลูกไหลออกมานอกช่องคลอด ใบหน้ามีรอยฟกซ้ำ เจ็บรอบๆ ศีรษะ และหน้าอกเป็นรอยช้า แต่ไม่เห็นว่ามีใครเฝ้าอยู่แล้ว เหตุเกิดเวลาประมาณ 21.00 – 22.00 น. ตนจึงวิ่งออกมาทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและเรียกรถตุ๊ก ๆ สามล้อให้ไปส่งที่สนามหลวง ต่อมาตนได้เดินทางไปที่พรรคเพื่อไทยเพื่อร้องเรียนขอความช่วยเหลือ และพรรคได้ให้การ์ดพาตนไปแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตารวจที่ สถานีตารวจนครบาลปทุมวัน พนักงานสอบสวนจึงส่งตนไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลกลาง [398]
พนักงานสอบสวนเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมความว่า ผลการตรวจชันสูตรบาดแผล พบคราบอสุจิทั้งภายในช่องคลอดและภายนอกช่องคลอด แต่ไม่สามารถระบุเวลาการมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่โดยปกติแล้วจะไม่สามารถตรวจพบได้หากมีเกินกว่า 72 ชั่วโมง บริเวณสถานที่เกิดเหตุมีด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ทหารอยู่ติดกับซอยจุฬา 12 และแยกเจริญผล ผู้เสียหายคนนี้เดินมาเจอด่านทหารที่หัวมุมถนนตรงข้ามมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย โดนเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งแต่งเครื่องแบบและมีปืนทำการตรวจค้น และผู้เสียหายมีการด่าทอเจ้าหน้าที่ทหารตามเหตุการณ์ที่กล่าวข้างต้น
ต่อมามีบุคคลกลุ่มหนึ่งแต่งกายคล้ายทหารสวมชุดลายพรางแต่ไม่มีปืน คนกลุ่มนี้เข้าไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ทหารที่ด่าน และนำผู้เสียหายเดินออกมาทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย แล้วจึงโดนทำร้ายร่างกายจนหมดสติ ผู้เสียหายตื่นมาพบตนเองนอนอยู่ข้างอาคารภาควิชาออกแบบอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขต อุเทนถวาย ซึ่งอยู่ติดกับรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เลยจากด่านของเจ้าหน้าที่ทหารออกมาประมาณ 100 เมตร
คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ตรวจสถานที่เกิดเหตุทันที แต่ผู้เสียหายนำชี้สถานที่เกิดเหตุหลังเหตุการณ์สงบลงแล้วประมาณ 1 เดือน ผลการสอบสวนเชื่อว่าถูกข่มขืนจริง และได้สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการแล้ว โดยได้สเก็ตภาพผู้ต้องหาและออกหมายจับแล้ว แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนได้ขอความร่วมมือไปยังเจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อขอให้นำตัวเจ้าหน้าที่ประจำด่านมาให้ผู้เสียหายชี้ตัว โดยได้ทำหนังสือไปที่ผู้บัญชาการทหารบก แต่ไม่ได้รับการตอบกลับแต่อย่างใด จึงไม่ทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารผู้ใดปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณดังกล่าว [399]
ทั้งนี้ ผู้เสียหายได้ร้องเรียนเพื่อขอรับการเยียวยาไปยังกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยได้รับแจ้งว่า ไม่สามารถเยียวยากรณีถูกข่มขืนได้ จึงเยียวยาเป็นกรณีบาดเจ็บเล็กน้อย และได้ยื่นเรื่องขอเยียวยาผู้เสียหายในคดีอาญาไว้กับกรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ผู้เสียหายยังให้ข้อมูลว่า หลังเหตุการณ์ที่ตนถูกข่มขืนได้รับรายงานข่าวในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ มีบุคคลคอยติดตามและถูกดักทาร้าย ซึ่งผู้เสียหายเชื่อว่าน่าจะเป็นคนเดียวกับที่ข่มขืนตน
โดยได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้กับพนักงานสอบสวนด้วย [400]
-เชิงอรรถ
[394] หายลึกลับเหตุการเมือง แจ้งหายแล้ว 75 ราย, ไทยรัฐ, 8 มิถุนายน 2553 http://www.thairath.co.th/content/pol/88061
[395] นายกฤษณะ ธัญชัยพงษ์ เข้าให้ข้อมูลกับ คอป. เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2555
[396] เปิดใจเหยื่อสลายชุมนุมแดงทั้ง"โหด-หิน-อยุติธรรม" ถึงข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล"ยิ่งลักษณ์"ในการเยียวยา , มติชนทีวี, 18 สิงหาคม 2554 http://www.matichon.co.th/play_clip.php?newsid=1313668033
[397] เปิดใจเหยื่อสลายชุมนุมแดงทั้ง"โหด-หิน-อยุติธรรม" ถึงข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล"ยิ่งลักษณ์"ในการเยียวยา, มติชนทีวี, 18 สิงหาคม 2554 http://www.matichon.co.th/play_clip.php?newsid=1313668033
[398] บันทึกคำบอกเล่า (Statement Taking) เลขที่ 1010001
[399] การเข้าให้ข้อมูลของ พ.ต.ท.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ พนักงานสอบสวนคดี วันที่ 8 มิถุนายน 2555
[400] บันทึกคำบอกเล่า (Statement Taking) เลขที่ 1010001