ถ้าทุจริตคงไม่ร่วมมือ อสมท สอบ! คำต่อคำ‘สรยุทธ’หลังศาลอุทธรณ์จำหน่ายคดีปลอมเอกสาร
“ถ้าผมมีเจตนาไม่ดี เจตนาทุจริตผมก็คงไม่ส่งต้นฉบับไปให้ หรือ ผมก็คงต้องลบให้มันเหมือนกัน แต่นี่มันก็แสดงให้เห็นถึงความสุจริตที่เกริ่นไว้แต่ต้นว่า เขาขอดูผมก็ส่งให้ตรงตามความเป็นจริง ขณะที่การที่เจ้าหน้าที่คนนี้ไปลบในใบนี้อย่างที่ผมอธิบายไป น้อง ๆ ที่อยู่ในวงการทีวีจะทราบ ผู้ผลิตเขาจะส่งคิวว่า เขาต้องการออกอากาศอะไร สถานีก็จะเอาไปจัดลำดับ ในกรณีนี้ ใบที่เขาลบก็คือสำเนาที่ผมส่งไปต้องนานแล้ว แล้วเขามาลบในภายหลังเมื่อมีการตรวจพบแล้ว”
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : เป็นคำให้สัมภาษณ์ของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรนักเล่าข่าวชื่อดัง กรณีศาลอุทธรณ์ให้จำหน่ายคดีที่อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด หรือชนาภา บุญโต อดีตพนักงานบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา น.ส.มณฑา ธีระเดช พนักงานบริษัท ไร่ส้ม จำกัด และบริษัท ไร่ส้ม จำกัด เป็นจำเลยที่ 1-4 กรณีปลอมเอกสารสิทธิ์ โดยศาลอุทธรณ์เห็นว่า พนักงานอัยการยื่นฟ้องซ้ำกับคดีโฆษณาเกินเวลาทำให้ อสมท เสียหาย 138 ล้านบาท ที่ศาลอุทธรณ์นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 29 ส.ค. 2560 (อ่านประกอบ : ศาลอุทธรณ์ตัดสินคดี‘สรยุทธ’โฆษณาเกินเวลา 29 ส.ค.-ยืนชั้นต้นจำหน่ายคดีปลอมเอกสาร)
----
ขอบคุณศาลอุทธรณ์ที่เมตตาให้ความเป็นธรรม พิพากษายืนยกฟ้องในคดีนี้ ด้วยเหตุว่าเป็นคดีที่กล่าวหาในเรื่องเดียวกันกับคดีก่อน จึงเป็นการฟ้องซ้ำ อย่างที่ผมได้เคยร้องกับอัยการมาแล้ว
ในข้อเท็จจริง คดีนี้ผมถูกกล่าวหาว่าร่วมกับเจ้าหน้าที่ อสมท คนหนึ่ง ปลอมแปลงเอกสาร เป็นข้อกล่าวหาซึ่งถ้าจะอธิบายสั้น ๆ คือเอกสารที่ว่านี้ ถ้าน้อง ๆ อยู่ในวงการโทรทัศน์ก็จะเข้าใจว่า มันคือเอกสารใบคิวโฆษณาที่บริษัท ไร่ส้มฯ ที่ทุกวันก่อนจะออกอากาศก็จะส่งไปที่ อสมท เพื่อให้เขาเอาไปจัดทำใบคิวโฆษณาเพื่อจะออกอากาศ
บริษัท ไร่ส้มฯ ส่งไปทุกวันตามปกติเป็นเวลา 1-2 ปีเศษ กระทั่งเดือน ก.ค. 2549 อสมท มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดคิว ปรากฎว่า ผู้บริหารคนใหม่ที่เข้ามา ระบุว่า พบบริษัท ไร่ส้มฯ มีโฆษณาเกิน ผู้บริหาร อสมท คนใหม่คนนี้ก็สั่งให้มีการตรวจสอบ ทำเป็นสองทาง ทางหนึ่งคือให้ แผนกหรือฝ่ายที่รับผิดชอบโดยตรง ไปตรวจสอบว่า บริษัท ไร่ส้มฯ มีโฆษณาเกินเท่าไหร่
“ตรงนี้แหละที่มันเกิดปัญหาขึ้น เพราะมีเจ้าหน้าที่ อสมท คนหนึ่ง ไปใช้ลิควิดหรือใช้น้ำยาลบคำผิดไปป้ายลบรายการโฆษณาบางรายการของใบคิวบริษัท ไร่ส้มฯที่ส่งไปให้ตั้งนานแล้ว แต่เดือน ก.ค. 2549 จู่ ๆ ก็ไปลบ เพราะฉะนั้นมันก็ได้ตัวเลขอย่างหนึ่ง”
ขณะที่อีกทางหนึ่ง ผู้บริหารขอให้บริษัท ไร่ส้มฯ ส่งใบคิวต้นฉบับที่เราเคยส่งไปแล้ว ทั้งหมดต้นฉบับจริงเราก็ให้ความร่วมมือส่งไปให้ อสมท ตามที่ขอ ปรากฎว่า ฝ่ายนี้ก็ยืนยันว่า ต้นฉบับที่เราส่งไปมันไม่มีการลบ ไม่มีการปกปิด มันเป็นรายการจริง เหมือนที่เราส่งไปตั้งแต่ต้น ตรงกับเอกสารต่าง ๆ ทุกประการ ก็คือ ไม่ได้ลบ
“ข้อนี้ผมก็พยายามที่จะทำให้เห็นว่า ในขณะที่เราถูกขอให้ส่งเอกสารไปให้ อสมท ตรวจสอบทางหนึ่ง ขณะนั้นเราไม่ได้รู้ว่า เจ้าหน้าที่คนนี้ในการตรวจสอบอีกทางหนึ่งไปใช้ลิควิดลบ ทางบริษัท ไร่ส้มฯ ก็ส่งไป”
“ถ้าผมมีเจตนาไม่ดี เจตนาทุจริตผมก็คงไม่ส่งต้นฉบับไปให้ หรือ ผมก็คงต้องลบให้มันเหมือนกัน แต่นี่มันก็แสดงให้เห็นถึงความสุจริตที่เกริ่นไว้แต่ต้นว่า เขาขอดูผมก็ส่งให้ตรงตามความเป็นจริง ขณะที่การที่เจ้าหน้าที่คนนี้ไปลบในใบนี้อย่างที่ผมอธิบายไป น้อง ๆ ที่อยู่ในวงการทีวีจะทราบ ผู้ผลิตเขาจะส่งคิวว่า เขาต้องการออกอากาศอะไร สถานีก็จะเอาไปจัดลำดับ ในกรณีนี้ ใบที่เขาลบก็คือสำเนาที่ผมส่งไปต้องนานแล้ว แล้วเขามาลบในภายหลังเมื่อมีการตรวจพบแล้ว”
แต่ว่ากระบวนการที่เอาไปจัดทำคิวทั้งหมด ในแต่ละวันจะออกมาเป็นเอกสารอย่างน้อย 16 ชุด ซึ่งมีโฆษณาครบหมด มีข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ มีเอกสารยืนยัน 16 ชุด เพราะฉะนั้น การไปลบใบสำเนาที่ว่านี้ มันจึงไม่มีผลที่จะไปปกปิดอะไรได้เลย มันผิดปกติเลย มันปกปิดอะไรไม่ได้เลย ซึ่งอันนี้เป็นที่มาที่ไปของคดีนี้
ส่วนเรื่องอื่น ๆ ผมขออนุญาต เพราะว่า อย่างเรื่องคงจะมีคนถามว่า แล้วทำไมโฆษณาเกิน คือเรื่องโฆษณาเกิน ในข้อเท็จจริง อสมท ก็มีโฆษณาเกินเช่นเดียวกัน อันนี้เป็นข้อเท็จจริง มันเป็นเรื่องที่พิพาทกันอยู่ในทางแพ่งก็เห็นไม่ตรงกัน เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ผมไม่ขอกล่าวเรื่องเพราะกำลังอยู่ในการพิจารณาของศาล
----
หลังจากนั้น เป็นคำถาม-ตอบ ของผู้สื่อข่าวกับนายสรยุทธ
@เรื่องการปลอมเอกสาร หรือการใช้ลิควิดลบมันจะทำให้มีผลอีกศาลหนึ่งด้วยไหม
ตอบ มันเป็นดุลยพินิจของศาล ผมก็ได้ทำเต็มที่ในการจะชี้แจงถึงความบริสุทธิ์ อย่างที่ผมบอกว่า ถ้าผมไป ทุจริต ประพฤติมิชอบ ทำไมผมถึงจะส่งตัวจริงไปให้ตรวจสอบทันที ทั้งที่ผมก็ไม่รู้ว่า อีกด้านหนึ่งอีกทางหนึ่งที่เขาตรวจสอบคู่ขนานเขาไปลบกันเพื่ออะไร
@ในการเขียนอุทธรณ์มีการสู้ประเด็นนี้ด้วยหรือเปล่า
ตอบ ในการอุทธรณ์ก็ทำเต็มที่เขียนทุกประเด็น
@ประเด็นนี้เราได้นำเสนอมาตั้งแต่ศาลชั้นต้นไปด้วยหรือเปล่า
ตอบ ในศาลชั้นต้นก็จะเป็นการสืบพยาน อันนี้คงพูดได้ เป็นเรื่องในศาลชั้นต้น ก็เป็นการสืบพยานที่ทำให้เห็นว่า บริษัท ไร่ส้มฯ ส่งคิวตรงตามความเป็นจริง พยานก็ยืนยันอย่างนั้น ใบคิวที่เราส่งศาลชั้นต้น แต่ อสมท ตอนที่เราสืบชั้นต้น ท่านก็ยอมรับว่า เมี่อเขาเรียกให้เราส่งต้นฉบับ เราก็ส่งตามความเป็นจริง ไม่ได้มีรอยลบ เขาก็บอกว่า สามารถเอาไปตรวจ ว่าเราไม่ได้ลบอะไรเลย
@ในวันที่ 29 ส.ค. ที่จะต้องมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธณ์ มีการเตรียมตัวอย่างไร เพราะโทษก็หนักอยู่
ตอบ ก็ได้ทำเต็มที่ เท่าที่ผมจะทำได้แล้ว ก็ใช้เวลา พยายามที่จะทำให้ศาลท่านเมตตา ให้ความเป็นธรรม ได้เห็นว่า ข้อเท็จจริงมันเกิดอะไรขึ้นอย่างไร แต่ข้อเท็จจริง เป็นดุลยพินิจของศาลซึ่งเราต้องให้ความเคารพ
@ช่วงนี้ทำอะไรอยู่
ตอบ ช่วงนี้ก็ คนมีคดีนะครับ จะมาบอกว่า สบายใจก็คงไม่ใช่ ฉะนั้นก็คงบอกแต่ว่า ทุกอย่างที่เราได้ทำมา เราได้ทำเต็มที่ สิ่งที่เราทำมาก็น่าจะเป็นประโยชน์ที่ทำให้สังคมได้เห็นบ้าง และน่าจะได้เห็นเจตนาเราว่า มันเกิดอะไรขึ้นอย่างไร ก็อยู่ว่าง ๆ ครับ
อ่านประกอบ :
ชัด ๆ คำพิพากษาศาล! คดี‘สรยุทธ-พวก’โฆษณาเกินเวลา 138 ล.
ไม่รอลงอาญา! ศาลสั่งจำคุก‘สรยุทธ-พวก’ 13 ปี 4 เดือนคดีไร่ส้ม
ช่อง 3 โยน บ.ไร่ส้ม ตัดสินใจ เปลี่ยนพิธีกร 'เรื่องเล่าเช้านี้'
ย้อนข้อมูล 10 ปี! คดี‘สรยุทธ-ไร่ส้ม’ก่อนศาลนัดอ่านคำพิพากษา
กดติดตามข้อมูลข่าวสาร สำนักข่าวอิศรา ได้ที่ แฟนเพจ Friends of isranews https://www.facebook.com/Friends-of-isranews-454413327930010/
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายสรยุทธ จาก voicetv