ย้อนบันทึก ร.ศ.234 เสด็จสู่ฟ้าสุราลัย คนไทยอาดูร
...เสียงร่ำไห้เริ่มดังขึ้น ๆ ทันทีที่ทราบประกาศสำนักพระราชวัง บางคนถึงกับเป็นลมล้มพับทั้งยืน น้ำตาเปื้อนอาบใบหน้า หลายคนไม่เชื่อเขย่าตัวผู้สื่อข่าว ถามซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ไม่จริงใช่ไหม” ไม่มีคำตอบ มีเพียงโอบกอดให้กำลังใจซึ่งกันและกัน...
1.
13 ต.ค. 2559 (ร.ศ. 234)
บ่ายวันนั้น ท้องฟ้าครึ้ม มีเมฆมาก ประชาชนใส่เสื้อสีชมพู สีเหลือง สดใส พากันหลั่งไหลมายังลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบรมราชชนก และภายในศาลาศิริราช 100 ปี รพ.ศิริราช เพื่อร่วมกันสวดมนต์บทโพชฌังคปริตร ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงหายจากพระอาการประชวร
เสียงบทสวดมนต์กึกก้องไปทั่วบริเวณ...จบแล้วจบเล่า...และยังคงสวดมนต์ต่อเนื่องจนกระทั่งตะวันคล้อยลอยลับขอบฟ้า แทนที่ด้วยความมืด
จนกระทั่งช่วงเย็น คลื่นประชาชนเริ่มทยอยเดินทางมายัง รพ.ศิริราช มากขึ้นเรื่อย ๆ ไกลสุดลูกหูลูกตาพากันเดินข้ามสะพานพระปิ่นเกล้า หลังมีกระแสข่าวร้ายแพร่สะพัดออกไปในวงกว้าง โดยเฉพาะทางโซเซียลมีเดีย ‘วันนี้ฟ้าดูเศร้า’
หลายคนไม่เชื่อ หลายคนสับสน และภาวนาไม่ให้ข่าวร้ายนั้นเป็นจริง เสียงบทสวดมนต์ยังคงดำเนินต่อไป...ต่อไป...โดยที่ในมือของทุกคนถือพระบรมฉายาลักษณ์ชูเหนือหัว เฝ้าติดตามพระอาการอย่างใจจดจ่อ เหมือนกับสื่อมวลชนที่เฝ้าทำหน้าที่รายงานข่าวอย่างใกล้ชิด
จากเสียงบทสวดมนต์เปลี่ยนเป็นเสียงขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและสดุดีมหาราชา พร้อมจุดเทียนสีเหลืองนวล อย่างพร้อมเพรียงกัน เปล่งเสียง ‘ทรงพระเจริญ’ กึกก้องกังวานเป็นระยะ ไม่มีเสียงอื่นเล็ดลอดให้ได้ยิน แม้กระทั่งเสียงลมพัด สองดวงตาเริ่มเปื้อนน้ำใสแหงนมองไปบนชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.ศิริราช
เป็นความรู้สึกร่ำไห้ในใจที่ปิ่มจะขาด จนกระทั่ง 19.00 น. สำนักพระราชวัง ประกาศพระบาทสมเด็จพระปริมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทรธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคต
เสียงร่ำไห้เริ่มดังขึ้น ๆ ทันทีที่ทราบประกาศสำนักพระราชวัง บางคนถึงกับเป็นลมล้มพับทั้งยืน น้ำตาเปื้อนอาบใบหน้า หลายคนไม่เชื่อเขย่าตัวผู้สื่อข่าว ถามซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ไม่จริงใช่ไหม” ไม่มีคำตอบ มีเพียงโอบกอดให้กำลังใจซึ่งกันและกัน คราวนี้เสียงขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและสดุดีมหาราชาดังขึ้นมากขึ้นกว่าเดิม เสมือนต้องการให้พระราชาผู้ทรงประเสริฐได้ยินเสียงพสกนิกรของพระองค์
ขณะที่ด้านนอก รพ.ศิริราช ประชาชนยังคงหลั่งไหลมามากขึ้นอีก จนเจ้าหน้าที่ต้องปิดประตูทุกด้าน ไม่ให้คนเข้า เพราะด้านในเริ่มแออัดและจะสร้างความลำบากให้แก่ผู้ป่วยได้ แต่นั่นไม่เป็นอุปสรรค ขอเพียงได้ก้มลงกราบและยืนเฝ้ามองไปบนชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ เพียงพอแล้ว แม้จะดึกดื่นแค่ไหนก็ตาม
2.
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี เป็นพระโอรสในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก กับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงมีพระเชษฐภคินี 1 พระองค์ คือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และพระเชษฐาธิราช 1 พระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร รัชกาลที่ 8
ตลอด 70 ปี แห่งการครองราชย์ พระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกายเพื่อบำรุงสุขประชาราษฎรให้อยู่ดีกินดี โดยไม่ทรงเหน็ดเหนื่อย แม้จะต้องเสด็จพระราชดำเนินไปยังท้องถิ่นทุรกันดาร ซึ่งพระองค์ทรงยอมรับว่า การตั้งพระราชหฤทัยจะเป็นมหากษัตริย์ใกล้ชิดกับราษฎรนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงมีอิทธิพลเป็นอย่างมาก ในการเป็นพระมหากษัตริย์ยุคใหม่
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการได้รับการพัฒนา เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และพึ่งพาตนเองได้ ไม่ว่าจะเป็น โครงการกังหันน้ำชัยพัฒนา โครงการฝนหลวง ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการอ่างเก็บน้ำเขาเต่าอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
นอกจากนี้ ‘เศรษฐกิจพอเพียง’ นับเป็นปรัชญาที่พระองค์พระราชทานให้พสกนิกรชาวไทย นับตั้งแต่ปี 2517 ให้อยู่อย่างพอประมาณ มีเหตุผล ไม่สุดโต่ง จนได้รับการเชิดชูจากองค์การสหประชาชาติและสนับสนุนให้ประเทศต่าง ๆ ในโลกน้อมนำเป็นแนวทางปฏิบัติเพื่อความยั่งยืน
ด้วยประจักษ์ในคุณูปการที่มีต่อประเทศชาติ นายโคฟี อันนัน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ในขณะนั้น จึงทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ ของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ เมื่อปี 2549 ซึ่งจัดทำขึ้นเป็นครั้งแรก ในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์นักพัฒนา
************
365 วัน แล้ว ที่พระมหากษัตริย์ผู้ประเสริฐ ผู้เป็นดั่งเทพเทวาศูนย์รวมใจคนไทยทั้งชาติเสด็จสู่สรวงสวรรค์ชั้นฟ้า แต่เชื่อว่า ศาสตร์พระราชา ที่ทรงมอบไว้ให้นั้น พสกนิกรทุกหมู่เหล่าพร้อมที่จะน้อมนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน อยู่ดีกินดี สมดังที่พระองค์ตั้งพระราชหฤทัยไว้ .