ตัวเลขลวงตาบนเส้นทางมอเตอร์เวย์ : เรื่องเล็กแต่ต้องแก้ไข
ตัวเลขลวงตาดังกล่าวจะว่าเป็นความบกพร่องของกรมทางหลวงก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะผู้เขียนเชื่อว่ากรมทางหลวงเองมีหลักเกณฑ์และความเชี่ยวชาญการกำหนดที่หมายของเส้นทางต่างๆในประเทศไทยได้ดีกว่าใครๆ แต่จะด้วยเหตุผลใดที่กำหนดป้ายบอกทางลักษณะนี้ ผู้เขียนไม่อาจทราบได้ แต่ด้วยประสบการณ์ของคนใช้ทางทั่วไปเห็นว่าการบอกระยะทางปลายทาง ควรกำหนดให้ชัดเจนบนด้านใดด้านหนึ่งของถนนหรือถ้าจะใช้ป้ายบอกทาง 2 ด้านของถนนก็ควรให้ตัวเลขบอกระยะทางสัมพันธ์กันและไม่หลอกตาสลับกันไปมาเหมือนเช่นปัจจุบัน
ถ้าใครใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์จากพัทยาเข้ากรุงเทพฯ เดี๋ยวนี้สะดวกมาก จากพัทยากลางหรือพัทยาใต้ขึ้นสะพานลอยเลี้ยวขวาก็เข้าสู่มอเตอร์เวย์ได้เลย มารยาทการขับรถบนถนนสายนี้เป็นไปตามมาตรฐานของคนขับรถในทุกถนนของประเทศไทย เพราะไหล่ทางจะกลายเป็นช่องทางใหม่ทันทีเพื่อไปเบียดเข้าข้างหน้าเสมอเมื่อทางบางช่วงถูกบีบกลายเป็นคอขวด สิ่งอำนวยความสะดวกบนเส้นทางถือว่าอยู่ในขั้นใช้ได้ สภาพถนนถือว่าดีระดับหนึ่ง เว้นแต่บางช่วงเส้นแบ่งเลนหายไป เช่น ช่วงใต้ถนนข้าวหลาม ขาเข้ากรุงเทพฯ เป็นต้น
ยามค่ำคืนถนนสายนี้มักจะมีพวกรถแรง ๆ มาประลองความเร็วกันให้เห็นเป็นครั้งคราว ถ้าเป็นไปได้ผู้รับผิดชอบน่าจะมีคำเตือนถึงกติกามารยาทการขับรถบนทางพิเศษที่ใช้ความเร็วสูงเพิ่มเติมจากตัวเลขจำกัดความเร็วก็จะดีมากเพราะแม้ว่าการขับด้วยความเร็วเกินกำหนดจะต้องไปเสียค่าปรับในภายหลังแต่อุบัติเหตุบาดเจ็บและเสียชีวิตมักเกิดขึ้นก่อนแล้วเสมอ
เส้นทางจากพัทยามุ่งหน้าไปสนามบินสุวรรณภูมิจะมีป้ายบอกระยะทางถึงสนามบินเป็นระยะ ๆ ทั้งด้านซ้ายมือและด้านขวามือของถนน มีทั้งแบบรูปเครื่องบินและตัวหนังสือ แต่ดูเหมือนว่าป้ายบอกระยะทางด้านซ้ายและด้านขวามีตัวเลขไม่สัมพันธ์กันเลยตลอดหลายสิบกิโลเมตรจนถึงสนามบิน (ต่างจากเส้นทางบางปะอิน- สุวรรณภูมิ ซึ่งมีป้ายบอกระยะสัมพันธ์กันทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของถนน) เป็นต้นว่า
เมื่อถึงป้ายสีฟ้าตัวหนังสือสีขาวบอกระยะทางอีก 60 ก.ม. จะถึงสุวรรณภูมิที่ อยู่ด้านซ้ายของถนน แปลว่าถ้าขับด้วยความเร็ว 60 ก.ม.อีก 1 ชั่วโมงก็จะถึงสนามบิน ที่น่าแปลกคือเมื่อเลยจุดนี้ไปประมาณ 400 เมตรก็จะเห็นป้ายบอกระยะ 61 ก.ม. ถึงสุวรรณภูมิอีกป้ายหนึ่ง อยู่ด้านขวาของถนน ตอนแรกผู้เขียนตกใจคิดว่าตัวเองขับรถผิดทาง แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้เพราะเพิ่งผ่านจุด 60 ก.ม. มาหยกๆและไม่ได้ออกนอกเส้นทางไปไหนด้วย แปลว่าต้องมีอะไรไม่ถูกสักอย่าง เช่นผู้เขียนตาฝาดเองหรือป้ายบอกระยะทางซ้ายมือและขวามือไม่สัมพันธ์กัน ผู้เขียนจะไม่แปลกใจเลยถ้าป้ายขวามือตรงจุดนี้เป็นเลข 60 ก.ม. เพราะป้ายบอกระยะด้านซ้ายกับด้านขวามักจะอยู่เยื้องกันเล็กน้อยเสมอแต่จะต้องเป็นตัวเลขที่สัมพันธ์กัน
เมื่อมุ่งหน้าต่อไปยังสนามบินก็จะพบป้ายลักษณะเดียวกันอีก เช่น ป้าย 25 ก.ม.ถึงก่อนป้าย 26 ก.ม. ป้าย 20 ก.ม. ถึงก่อนป้าย 21 ก.ม. ป้าย 15 ก.ม.ถึงก่อนป้าย 16 ก.ม. สลับซ้ายและขวาไปตลอดทาง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าป้ายบอกระยะทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ ที่มีตัวเลขน้อยกว่า ถึงก่อนป้ายที่มีตัวเลขมากกว่าอยู่หลายจุด
นอกจากนี้ป้ายบางป้ายทั้งซ้ายและขวายังบอกระยะที่คลาดเคลื่อนด้วยเช่นกันเป็นต้นว่า เมื่อเลยป้ายสุวรรณภูมิ 55 ก.ม.ซึ่งอยู่ขวามือ ไปราว 400 เมตร ก็จะพบป้ายสุวรรณภูมิ 53 ก.ม. ทางซ้ายมือ (เชิงสะพาน) ซึ่งความจริงไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะจุดนี้เป็นจุดที่แสดงว่าอยู่ใกล้สุวรรณภูมิมากกว่า แต่ที่แปลกคือป้าย 55 ก.ม. ทางขวากับ 53 ก.ม. ทางซ้ายอยู่ใกล้กันแค่ 400 เมตร ซึ่งหากดูตามตัวเลขกิโลเมตรแล้วควรจะอยู่ห่างกัน 2 ก.ม.
เมื่อเข้าใกล้สนามบินจะมีป้ายบอกระยะ 5 ก.ม.ถึงสนามบินอยู่สองป้าย ป้ายแรกอยู่ด้านซ้ายมือและป้ายที่สองอยู่ขวามือซึ่งปกติจะไม่ใช่เรื่องแปลกของป้ายเส้นทางบนถนนทั่วไปเพราะเป็นตัวเลขเดียวกันและมักอยู่เยื้องกันด้วยระยะทางที่ไม่ไกลมาก แต่ที่แปลกคือป้ายทั้งสองอยู่ห่างกันเกือบสองกิโลเมตรและเมื่อขับเลยป้าย 5 ก.ม. ด้านขวาก็จะเจอป้ายสุวรรณภูมิ 2 ก.ม. อยู่ถัดไปแค่ 400 เมตรทั้งๆที่สองป้ายควรห่างกัน 3 ก.ม. ป้ายบอกระยะทางที่เห็นจึงเป็นป้ายบอกระยะทางที่คลาดเคลื่อนจนผู้ขับขี่รถสามารถรับรู้ได้ เป็นการย้ำว่าป้ายบอกทางซ้ายมือและขวาของถนนไม่สัมพันธ์กัน รวมทั้งมีการบอกระยะทางที่คลาดเคลื่อน
ตัวเลขแสดงจุดหมายปลายทางที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด สามารถมองเห็นได้ตลอดเส้นทางจนถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ผู้เขียนเองเป็นคนใช้รถใช้ถนนที่ไม่มีความรู้เรื่องมาตรฐานการจราจร แต่สามัญสำนึกของผู้เขียนเห็นว่าบนถนนสายเดียวกัน ไม่ว่าป้ายบอกทางจะอยู่ด้านซ้ายของถนนหรือด้านขวาของถนนจะต้องสอดคล้องกันเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนต่อผู้ใช้ทาง
ความไม่สัมพันธ์กันระหว่างจุดบอกทางไปสุวรรณภูมิด้านซ้ายมือกับด้านขวามือยังมีอีกหรือไม่ผู้เขียนไม่แน่ใจ แต่เท่าที่ผู้เขียนนำมาบอกกล่าวเป็นแค่ตัวอย่างที่สังเกตเห็น ซึ่งสร้างความรำคาญใจให้กับผู้เขียนเสมอเมื่อเหลือบไปเห็นและน่าจะสร้างความงุนงงให้กับผู้ใช้ทางคนอื่นๆด้วย
สาเหตุที่เกิดตัวเลขลวงตาดังกล่าวผู้เขียนเดาเอาเองในฐานะผู้ใช้ทางธรรมดาคนหนึ่งว่า น่าจะเกิดจาก
1.การวัดระยะไปสนามบิน วัดที่จุดเริ่มต้นที่ต่างกันทำให้เกิดความไม่สัมพันธ์กันของป้ายบอกทางด้านซ้ายและด้านขวา
2.การกำหนดจุดหมายปลายทางของสนามบินคนละจุด เช่น ด้านหนึ่งกำหนดถึงตัวสนามบิน แต่อีกด้านหนึ่งกำหนดแค่ทางเข้าสนามบิน
3.ถนนด้านขวามีระยะทางมากกว่าด้านซ้ายเนื่องจากอาจมีส่วนโค้งของถนนเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ประเด็นนี้ผู้เขียนเองไม่แน่ใจเพราะมอเตอร์เวย์ช่วงนี้ส่วนใหญ่เป็นเส้นตรงและ เมื่อสังเกตหลัก กม. หลายๆหลักทั้งด้านซ้ายมือและด้านขวามือตรงกันเป๊ะ
4.ผู้รับเหมาสร้างป้ายบอกระยะทางด้านขวามือกับด้านซ้ายมือเป็นคนละบริษัทกัน เป็นต้น
นอกจากข้อสมมุติฐานข้างต้นของผู้เขียนเองแล้ว ผู้ทำป้ายบอกทางอาจมีเหตุผลอื่นๆที่ต้องกำหนดระยะทางเช่นนั้นซึ่งผู้เขียนไม่ทราบได้ แต่ในมุมมองของผู้ใช้ถนน ผู้เขียนเห็นว่าป้ายบอกระยะทางที่ดีควรมีความชัดเจน ไม่กำกวมจนทำให้ตีความหมายไปในทางอื่นซึ่งสร้างความสับสนต่อผู้ใช้ทาง ที่สำคัญคือผู้รับผิดชอบควรให้ข้อมูลที่ชัดเจนต่อผู้ใช้ทางทั่วไปเพราะอย่างน้อยก็ได้เสียเงินค่าผ่านทางไปแล้วและกำลังจะเสียเงินเพิ่มในอีกไม่ช้า
ตัวเลขลวงตาดังกล่าวจะว่าเป็นความบกพร่องของกรมทางหลวงก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะผู้เขียนเชื่อว่ากรมทางหลวงเองมีหลักเกณฑ์และความเชี่ยวชาญการกำหนดที่หมายของเส้นทางต่างๆในประเทศไทยได้ดีกว่าใครๆ แต่จะด้วยเหตุผลใดที่กำหนดป้ายบอกทางลักษณะนี้ ผู้เขียนไม่อาจทราบได้ แต่ด้วยประสบการณ์ของคนใช้ทางทั่วไปเห็นว่าการบอกระยะทางปลายทาง ควรกำหนดให้ชัดเจนบนด้านใดด้านหนึ่งของถนนหรือถ้าจะใช้ป้ายบอกทาง 2 ด้านของถนนก็ควรให้ตัวเลขบอกระยะทางสัมพันธ์กันและไม่หลอกตาสลับกันไปมาเหมือนเช่นปัจจุบัน
ความจริงเรื่องนี้แม้ว่าจะไม่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุใหญ่บนถนน แต่ถ้าดูถึงมาตรฐานการบำรุงทางของผู้รับผิดชอบแล้วน่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ควรปล่อยผ่านไป เพราะเส้นทางนี้เป็นหน้าตาของประเทศ เป็นเส้นทางที่ทั้งคนไทยและต่างชาติต่างก็ใช้เดินทางสู่สุวรรณภูมิและไปยังส่วนอื่นๆของประเทศในแต่ละวันนับหมื่นคน
อย่างไรก็ตามถ้าผู้รับผิดชอบเห็นว่าตัวเลขการบอกระยะทางต่างๆที่กล่าวมาแล้วถูกต้องตามหลักสากลและเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปแล้ว ผู้เขียนขอยอมรับในความบกพร่องและความเข้าใจผิดของตัวเองที่ไม่เข้าใจกฎเกณฑ์การบอกเส้นทางที่ลึกซึ้งเพียงพอที่จะเข้าใจเจตนาของผู้ทำป้ายบอกเส้นทางมอเตอร์เวย์ พัทยา- สุวรรณภูมิได้