รัฐลุกลี้ลุกลน เร่งรีบแก้น้ำท่วม “รอง ปธ. หอการค้าไทย” หวั่นผลงานออกมาไม่ดี
“ฉัตรชัย” จี้ รัฐเดินหน้าป้องน้ำท่วม-ดูแลประตูระบายน้ำ ชี้เสร็จทันใน 5 เดือน บรรเทาปัญหาได้กว่าครึ่ง ระบุ ไม่ห่วงเรื่องงบฯ เชื่อไทยมีศักยภาพพอ แต่กังวลเรื่องการรั่วไหล ใช้เงินเกินจำเป็น
วันที่ 13 มกราคม นายฉัตรชัย บุญรัตน์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวถึงมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องการอนุมัติงบประมาณ ตามที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) เสนอว่า ในรายละเอียดพบว่า การอนุมัติงบฯ เป็นไปเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วม และเพื่ออำนวยความสะดวกลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในอนาคต ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ประเทศไทยควรดำเนินการนานแล้ว
“ที่ผ่านมาคนไทยค่อนข้างเฉื่อยชากับเรื่องการจัดการน้ำ บ้านเรามีแผนการป้องกันน้ำที่แท้จริงตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ตั้งแต่ปี 2543 แต่ไม่เคยนำไปปฏิบัติ ขณะที่ปัจจุบัน ทุกโครงการเพื่อการบริหารจัดการน้ำกลายเป็นเรื่องเร่งด่วน ฉะนั้นถามว่า “ความสมดุลอยู่ตรงไหน” นายฉัตรชัย กล่าว และว่า ประเทศไทยมีศักยภาพในการหางบประมาณในการพัฒนาประเทศได้ เรื่องงบประมาณจึงไม่น่าเป็นห่วงเท่ากับการทำงานที่เร่งรีบเร่งด่วน เพราะความลุกลี้ลุกลน อาจทำให้ผลงานออกมาไม่ดี ใช้งบประมาณเกินกว่าความจำเป็น ซึ่งภาคเอกชนมีความกังวลอย่างมากในเรื่องความรั่วไหล
นายฉัตรชัย กล่าวถึงแนวทางการบริหารจัดการน้ำในระยะ 5-6 เดือนต่อจากนี้ ต้องดูว่า แผนที่รัฐบาลออกมาจะสามารถทำอะไรได้บ้าง และจะทำได้มากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ เรื่องใดที่มีความเร่งด่วนก็ควรต้องลงมือทำทันที เช่น การดูแลประตูระบายน้ำให้มีความแข็งแรง สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่เหมือนกับปีที่ผ่านมา เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก ซึ่งถ้าทำได้จะทำให้ปัญหาเรื่องน้ำทุเลาลงไปกว่าครึ่ง และผลกระทบที่เกิดขึ้นจะน้อยลงไปด้วย
“สำหรับในส่วนของนิคมอุตสาหกรรมนั้นอยู่ผิดที่ผิดทางมาตั้งแต่ต้น เพราะเข้าไปตั้งอยู่ในพื้นที่การเกษตรที่น้ำท่วมถึง แต่ทั้งนี้ เมื่อไม่สามารถย้ายโรงงานได้ สิ่งที่ทำได้คือการป้องกัน ลงทุนในด้านสิ่งก่อสร้างเพื่อสร้างความมั่นใจ และในส่วนของนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ประมาณ 6-7 แห่งนั้น ก็เชื่อว่า มีศักยภาพ มีเม็ดเงินในการลงทุนได้ด้วยตนเอง โดยที่รัฐไม่ต้องเข้าไปช่วยเหลือแต่อย่างใด”