แฉ! นสพ. ฟุตบอลรับเงินธุรกิจพนันแลกโฆษณา องค์กรสื่อเตรียมดันออกจริยธรรมคนข่าวกีฬา

วงเสวนา แฉชัด! สื่อฟุตบอลหมิ่นเหม่จริยธรรมสื่อมวลชน เผย รับเงินธุรกิจพนันบอลแลกโฆษณา ด้าน “สภาการหนังสือพิมพ์ฯ” เผยคนทำงานระดับปฏิบัติทำใจยากต้องฝืนรับคำสั่งฝ่ายบริหาร ชี้ทางออก ต้องเร่งออกประกาศจริยธรรมสื่อกีฬา เน้นสำนึกและความรับผิดชอบต่อสังคม  เตรียมนัดทุกฝ่ายถกร่างจริยธรรมนักข่าวกีฬาด่วนต้น ก.พ. นี้

วันนี้ (13 ม.ค.) ที่ ห้องประชุมสมาคมนักข่าวนักหนังสื่อพิมพ์แห่งประเทศไทย ในงานเสวนา “การพากย์ฟุตบอลและการเขียนคอลัมน์ฟุตบอลอย่างสร้างสรรค์บนความรับผิดชอบต่อสังคม”  จัดโดย มูลนิธิสดศรี – สฤษดิ์วงศ์ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน มูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)

ในงานดังกล่าวมีการเปิดเผยผลวิจัย “บทบาทและอิทธิพลของนักพากย์ฟุตบอลและคอลัมนิสต์ฟุตบอลที่มีต่อการเล่นพนันฟุตบอลของเยาวชน” โดยผลวิจัยระบุว่า นักพากย์ฟุตบอลไม่ได้มีบทบาทโน้มน้าวชักจูงใจหรือส่งสัญญาณให้เล่นพนันฟุตบอล  แต่มีบทบาทมากที่สุดในด้านการแจ้งข้อมูลข่าวสาร การให้ความบันเทิง ขณะที่คอลัมนิสต์ฟุตบอล มีบทบาทโน้มน้าวชักจูงใจมากที่สุด เพราะมีการส่งสัญญาณที่เกี่ยวข้องกับการเล่นพนันฟุตบอล มีการวิเคราะห์วิจารณ์เกม อัตราการต่อรอง และการทายผลการแข่งขัน จากนั้นจึงได้มีการเสวนาถึงหัวข้อดังกล่าวอย่างกว้างขวาง  

นายพิริยะ ทองสอน มูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชนระบุว่า บทบาทของนักพากย์ฟุตบอลและคอลัมนิสต์ฟุตบอลมีความสำคัญอย่างมากและความคึกคะนองของผู้พากย์บางคนได้ชักนำไปสู่การเล่นพนันโดยไม่รู้ตัว ปัจจุบันนี้หนังสือพิมพ์กีฬาก็คือคู่มือการแทงบอลดี ๆ นี้เอง เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุย ว่าหนังสือพิมพ์กีฬา จะมีความรับผิดชอบอย่างใดต่อสังคม

“หนังสือพิมพ์กีฬาคือแหล่งโฆษณาสินค้าใต้ดินดี ๆนี้เอง เท่าที่ผมสำรวจพบในท้องตลาด หนังสื่อฟุตบอลหลายฉบับเต็มไปด้วย ธุรกิจใต้ดิน เช่น ธุรกิจการพนันได้แก่ เว็บไซต์แทงพนันฟุตบอลออนไลน์ ถามว่าเจ้าของหนังสือเขารู้ไหม แต่มันคือรายได้หลักของเขาหรือเปล่า มันก็เลยเป็นอย่างนี้” นายพิริยะกล่าว

นายบุตรดา  เลิศศรีชัย อนุกรรมการจริยธรรม สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติกล่าวว่า  ในทุกกลุ่มอาชีพจะทำอะไรให้ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์คงไม่มี วงการสื่อมวลชนก็เช่นกัน แต่หลักของสื่อถือว่า ถ้าเป็นข่าวห้ามใช้ความรู้สึกลงไปในข่าว การเติมสีสัน และนำมาซึ่งการไร้คุณธรรมของสื่อมวลชนและคอลัมน์นิสต์บางคนอาจเป็นการทำร้ายสังคมโดยไม่รู้ตัว

“คุณต้องเข้าใจว่าในแต่ละองค์กรสื่อแบ่งเป็นฝ่ายปฏิบัติและฝ่ายบริหาร บางทีคนทำงานระดับปฏิบัติก็เข้าใจเรื่องจรรยาบรรณสื่อมวลชนเป็นอย่างดี แต่บางทีระดับนโยบายก็มุ่งในเรื่องรายได้และความอยู่รอดของธุรกิจ เรื่องนี้ทางองค์กรวิชาชีพสื่อ ก็ให้ความสำคัญและติดตามมาโดยตลอดเมื่อปี 52 สภาการหนังสือพิมพ์ได้ออกแนวปฏิบัติ 5 ข้อในการรายงานข่าวเรื่องการเสนอข่าวกีฬา หนึ่งในนั้นระบุว่าต้องไม่เป็นการรายงานข่าวในทิศทางซึ่งโน้มเอียง หรือชี้นำ หรือชักจูง การกีฬาไปเกี่ยวข้องกับการพนัน หรือคล้อยตามไปในทางที่ไม่ดีงาม

“ที่สำคัญวันที่ 3-5 กุมภาพันธ์ นี้ ทางสภาการหนังสือพิมพ์จะนัดประชุมสื่อมวลชนด้านกีฬาและผู้เกี่ยวข้องทุกวงการทุกภาคส่วนที่มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อร่วมถกร่างจริยธรรมสื่อกีฬาโดยเน้นสำนึกและความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นจุดใหญ่หวังว่าจะเป็นก้าวย่างสำคัญที่จะช่วยเหลือในการส่งเสริม พฤติกรรมบวกและควบคุมพฤติกรรมลบของสื่อกีฬาได้ตามสมควร” นายบุตรดา กล่าว