รองปลัดส่งศาลยุติธรรมสอบปมร้องเอกสารขอทุเลาบังคับคดีหลุดจากสำนวน
รองปลัด ก.ยุติธรรม ส่งเรื่อง สนง.ศาลยุติธรรม สอบข้อเท็จจริง กรณีนักธุรกิจร้อง เอกสารคำร้องขอทุเลาบังคับคดี หลุดจากสำนวนหรือไม่ เหตุเกิดที่ จ.กาญจน์ ถูกภรรยาคู่กรณีนำไปใช้จนถูกออกหมายจับ
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ม.ค.2560 นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ปฏิบัติราชการแทน ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้ส่งเรื่องให้ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมกรณี นางพรทิพย์ ญาณศิริ จำเลยในคดีแพ่ง ได้ร้องเรียนว่า ภรรยาของโจทก์ซึ่งเป็นผู้ร้องสอดได้นำคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีที่มีคำสั่งศาลออกไปจากสำนวนคดีจนนำไปสู่การออกหมายขับไล่และหมายจับจำเลยให้ออกจากที่ดินพิพาท ในขณะที่คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาและศาลฎีกามีคำสั่งงดการบังคับคดีแก่จำเลยไว้เป็นการชั่วคราว
ทั้งนี้ เนื้อหาของหนังสือฉบับดังกล่าวระบุว่า
ด้วยกระทรวงยุติธรรมได้รับ เรื่องร้องทุกข์ของ นางพรทิพย์ ญาณศิริ ผู้ร้อง ว่า ผู้ร้องเป็นจำเลยในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 539 / 2555 หมายเลขแดงที่ 376 / 2556 และคดีอาญา หมายเลขดำที่ 4234 / 2558 หมายเลขแดงที่ 513 / 2559 ของศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้มีหนังสือขอความเป็นธรรมกรณีศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้มีหนังสือที่ ศย 307.002 /007514 ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2558 เรื่องงดการบังคับคดีไว้ชั่วคราว เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2558 ให้งดการบังคับคดีแก่จำเลยเพื่อรอฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ต่อมาผู้ร้องสอดซึ่งเป็นภรรยาของโจทก์นำหมายขับไล่ไปติดในที่ดินพิพาทและ ผู้ร้องถูกจับกุมในข้อหาขัดหมายบังคับ เนื่องจากคดีดังกล่าวศาลฎีกาได้มีคำสั่งงดการบังคับคดีไว้ก่อนจนกว่าจะมีการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา แต่ผู้ร้องสอดสามารถนำคำร้องขอทุเลาการบังคับคดี ที่มีคำสั่งศาลออกไปจากสำนวนคดีจนนำไปสู่การออกหมายขับไล่และหมายจับและคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีมีข้อความว่า “ ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาแล้วจึงไม่จำต้องสั่ง คำร้องนี้ลงวันที่ 13 กันยายน 2558 ” พร้อมลงลายมือชื่อผู้พิพากษาโดยผู้ร้องอ้างว่าศาลได้มีคำพิพากษาในวันที่ 3 เมษายน 2558 ซึ่งไม่สอดคล้องกับคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีที่ผู้ร้องสอดนำมาบังคับคดีกับผู้ร้องเป็นเหตุทำให้ผู้ร้องไม่ได้รับความเป็นธรรมและได้รับความเดือดร้อนจึงได้ยื่นร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมเพื่อขอให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการตรวจสอบ ข้อเท็จจริงดังกล่าวต่อไปรายละเอียดปรากฎตามสิ่งที่ส่งมาด้วย
หนังสือระบุว่า กระทรวงยุติธรรมได้พิจารณาพิจารณาแล้วเห็นว่าผู้ร้องมีความประสงค์ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในกระบวนการพิจารณาคดีของศาลกรณีคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีได้ยื่นต่อศาลไม่ถูกต้องตรงกันกับของโจทก์และของผู้ร้องสอดที่นำไปยื่นต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีและคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีที่มีคำสั่งศาลเพิ่มเติม ดังนั้นเพื่อประโยชน์ในการความยุติธรรมให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของผู้ร้องจึงขอส่งเรื่องมายัง สำนักงานที่ทำเพื่อพิจารณาดำเนินการให้ความเป็นธรรมในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาวันที่ 3 ก.พ.2560 นางพรทิพย์ ได้ยื่นหนังสืออีกฉบับถึง พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี จ.กาญจนบุรี ในกรณีดังกล่าวอีกฉบับ ก่อนหน้านี้นางพรทิพย์ได้ยื่นเรื่องร้องขอความเป็นธรรมต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ด้วย
กล่าวสำหรับ นางพรทิพย์ เป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และรับเหมาก่อสร้าง
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพรทิพย์ ได้ยื่นฟ้อง น.ส.เสาวลักษณ์ เอี่ยมอร่ามศรี ร่วมกับพวก เป็นจำเลย คดีหมายเลขดำที่ 2430/2559 ในความผิดเกี่ยวกับเอกสาร ร่วมกันปลอมคำสั่งศาลฎีกาในคำร้องขอทุเลาการบังคับฉบับลงวันที่ 23 มิ.ย.2557 ในคดีที่โจทก์ (นางพรทิพย์) ถูกนายศุภชัย สิริงามวรกุล ฟ้องเป็นคดีแพ่ง ขอให้เพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายที่ดิน น.ส.3 ก. อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และขอให้นางพรทิพย์ออกจากที่ดินพิพาท สำหรับคดีที่นางพรทิพย์ฟ้อง น.ส.เสาวลักษณ์ นั้น ปรากฎว่า เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2559 ศาลจังหวัดกาญจนบุรีมีคำพิพากษายกฟ้อง