แม่น้ำเจ้าพระยาถูกขึ้นทะเบียน1ใน28 โลก พื้นที่เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ห่วงทางเลียบทำลาย
แม่น้ำเจ้าพระยาถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นหนึ่งใน28 พื้นที่ทรงคุณค่าที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ต่างชาติห่วงโครงการทางเลียบ ทำลายพื้นที่ทรงคุณค่า ทัศนียภาพเมือง แนะยุติโครงการ เปลี่ยนแบบ ปรับโครงสร้างให้เข้าบริบทชุมชน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงาน เมื่อวันที่ 16 ต.ค.60 ที่ผ่านมา องค์กร World Monuments Watch ซึ่งทำงานในการจับตาเฝ้าระวังพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ที่จำเป็นต้องดูเเลเป็นพิเศษประจำปี 2018 ได้เปิดเผย 25 พื้นที่ขึ้นทะเบียนดูเเล โดยหนึ่งในนั้นมีแม่น้ำเจ้าพระยา เข้าข่ายด้วย
โดยทางองค์กร World Monuments Watch ระบุว่า แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ เป็นลุ่มน้ำสำคัญของประเทศ แต่ปัจจุบันพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยากำลังถูกรุกล้ำอย่างหนักจากโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ ซึ่งกำลังเปลี่ยนความผูกพันของคนกับสายน้ำที่มีมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะโครงการทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ที่รัฐประกาศสร้างโดยอ้างว่าจะช่วยให้เกิดการเข้าถึงแม่น้ำได้ง่ายขึ้น
ทางองค์กรฯ ยังระบุอีกว่า โครงการทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาหากมีการก่อสร้างขึ้นจริง จะก่อให้เกิดการบดบังทัศนียภาพของแม่น้ำออกไป และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของเมือง ขณะเดียวกันโครงการยังส่งผลต่อการต้องเวนคืนที่ดินและการย้ายผู้คนออกจากพื้นที่ริมน้ำเดิม ทั้งยังมีความเสี่ยงว่าจะยิ่งทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมได้ง่ายขึ้น
การขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ทรงคุณค่าที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้เรียกร้องให้มีการเปิดพื้นที่แสดงความเห็นของทุกภาคส่วนที่มีส่วนได้ส่วนเสีย และต้องไม่มีการก่อสร้างใดๆ ลงในแม่น้ำก่อนที่จะมีการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจนก่อน หรือการออกแบบดีไซน์พื้นที่ให้เหมาะสมกับบริบท เช่น การอาจปรับเป็นสวนลอยน้ำ ทางเดินลอยน้ำ พร้อมทั้งพัฒนาชุมชนริมฝั่งแม่น้ำ เปิดโอกาสให้ชุมชนที่ก่อตั้งมานานแล้วสามารถใช้โอกาสตรงนี้เพื่อจัดตั้งความเป็นชุมชนอย่างถูกกฎหมาย ก่อนที่จะเปลี่ยน ราชาแห่งแม่น้ำ แห่งนี้โปรเจ็คนี้จำเป็นต้องหยุดและกลับมาคิดใหม่
ทั้งนี้ การขึ้นทะเบียนพื้นที่ทรงคุณค่าของWorld Monuments Watch จะจัดทำขึ้นทุกๆ 2 ปี เพื่อเรียกร้องการดูเเลพื้นที่มรดกทางวัฒนธรรมทั่วโลก โดยเริ่มตั้งแต่ปี 1996 โดยการสนับสนุนของบริษัท อเมริกัน แอ็กซ์เพรส โดยการจัดตั้งเกิดจาการมองเห็นว่ามีพื้นที่กว่า 814 แห่งที่กำลังถูกรุกรานและเสี่ยงต่อการสูญสลาย ที่ผ่านมามีการอัดฉีดงบประมาณราว 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯในการลงทุนเพื่อดูเเลรักษาพื้นที่เหล่านี้
สำหรับพื้นที่ทั้ง 25 แห่งที่ถูกขึ้นทะเบียนในปี2018 ได้แก่
- ทำเนียบรัฐบาล เมือง St. John's, Antigua and Barbuda
- อาคารซิริอุส(Sirius) เขต Millers Point ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
- Ramal Talca-Constiticion เมือง Talca Province ประเทศชิลี
- โรงมหรสพกลาง ในพระราชวังของเจ้าชาย Kung เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน
- Eliyahu Hanavi Synagogue เมือง อเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์
- Takiyyat Ibrahim al-Gulshani เมืองไคโร ประเทศอียิปต์
- Potager Du Roi แวร์ซายน์ ประเทศฝรั่งเศส
- Post-Independence Architecture of Delhi กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย
- Al-Hadba’ Minaret เมืองโมซูล ประเทศอิรัค
- Lifta กรุงเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล
- Amatrice เมือง Amatrice ประเทศอิตาลี
- ยิมเนเซียมประจำจังหวัดคากาวะ ประเทศญี่ปุ่น
- Jewish Quarter of Essaouira เมือง Essaouira ประเทศโมร็อคโค
- Sucker Cultural Landscape เขตเมือง Madagali Local Government ประเทศไนจีเรีย
- Historic Karachi เมืองการาจี ประเทศปากีสถาน
- Cerro de Oro เมืองCañete Valley ประเทศเปรู
- Tebaida Leonesa เมือง El Bierzo, León ประเทศสเปน
- Souk of Aleppo เมือง อเล็ปโป ประเทศซีเรีย
- แม่น้ำเจ้าพระยา กรุงเทพฯ ประเทศไทย
- ท่าเรือ แบล็คพูล เมือง Blackpool สหราชอาณาจักร
- สถานีขนส่งกลางบัฟฟาโล่ เขตบัฟฟาโล่ รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
- Alabama Cicil Rights sites รัฐอาลาบาม่า สหรัฐอเมริกา
- เมืองเก่า Ta’izz เมือง Ta’izz ประเทศเยเมน
- หน้าผามาโตโบ (Matobo Hills Cultural Landscape) เมือง Matobo, Matabeleland South ประเทศซิมบับเว
- พื้นที่ประสบภัยแห่งคาริบเบียน อ่าวเม็กซิโก ประเทศเม็กซิโก (Disaster Sites of the Caribbean, the Gulf, and Mexico)