สั่งย้ายทั้งคน-พระ! โวยนโยบายบิ๊กคตง. ล้วงลูกฝ่ายบริหารใช้อำนาจคุม 'สตง.' เบ็ดเสร็จ

ปมออกหนังสือแจ้งเวียน 'ปิดปาก' จนท.สตง.ห้ามเผยแพร่ข้อมูลตรวจสอบโครงการบานปลาย! ขรก.ออกโรง โวย นโยบายบิ๊ก คตง. ล้วงลูกฝ่ายบริหารใช้อำนาจคุมเบ็ดเสร็จ สั่งย้าย ผอ. สำนักตรวจสอบสำคัญเพียบ ไม่เว้นแม้กระทั่งที่ประดิษฐาน 'พระพุทธธรรมาภิบาล' 

สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอรายงานเรื่อง สดจากสตง.! ว่าด้วยยุคมืดแห่งการตรวจสอบทุจริต-เมื่อจนท.ถูกขู่เล่นงานโทษวินัยปมเอกสารหลุด ซึ่งมีเนื้อหาสำคัญอยู่ทีเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบริหารใหม่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ภายหลังจากที่คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ชุดใหม่ ที่มี พลเอก ชนะทัพ อินทามระ ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) เข้ามาบริหารงานเป็นทางการ พร้อมปรากฎชื่อ นายพรชัย จํารูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้มีอาวุโสสูงสุดในตําแหน่งรองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน) เข้ามารับหน้าที่เป็นผู้รักษาการตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่มุ่งเน้นการทำงานเชิงรุก เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบปัญหาการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน อันเป็นปรัชญาขั้นพื้นฐานที่สำคัญในการทำงานของข้าราชการสตง. ที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบปกป้องรักษาผลประโยชน์เงินแผ่นดินที่มาจากภาษีประชาชน อย่างเต็มรูปแบบ

ขณะที่ล่าสุด นายพรชัย จํารูญพานิชย์กุล รักษาการผู้ว่าฯ สตง. ได้ลงนามในบันทึกแจ้งเวียนคำสั่งเรื่องการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบของ สตง. ถึงผู้บริหารทุกหน่วยงานในสตง. ให้ถือปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และคำสั่งโดยเคร่งครัด โดยอ้างว่ามีผู้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบของ สตง. ให้สาธารณชนทราบโดยมิได้รับมอบหมายจาก คตง. หรือผู้ว่าฯ สตง. พร้อมระบุว่า หากใครฝ่าฝืนอาจได้รับโทษตามที่กฎหมายกำหนดรวมทั้งอาจมีความผิดทางวินัยข้าราชการด้วย นั้น 

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการเปิดเผยข้อมูลจากข้าราชการใน สตง. ว่า นอกเหนือจากการลงนามในคำสั่งขู่เล่นงานลงโทษทางวินัยผู้บริหาร ข้าราชการ ที่นำข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบของสตง.ไปเผยแพร่ต่อสาธารณชนแล้ว สิ่งที่กำลังทำให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สตง. รู้เสียขวัญและเสียกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างมาก คือ หลังจากที่คตง.เข้ามารับงานไม่เท่าไร ผู้บริหาร สตง.ชุดใหม่ ก็ออกคำสั่งโยกย้ายข้าราชการระดับผู้อำนวยการสำนักที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการสอบสวนหลายตำแหน่ง  อาทิ สำนักกฎหมาย สำนักคดี สำนักนโยบาย เป็นต้น ทั้งที่ บุคคลเหล่านี้ปฎิบัติหน้าที่ในตำแหน่งด้วยดีมาโดยตลอด 

แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า แต่เรื่องใหญ่และเป็นเรื่องสำคัญที่ทำร้ายจิตใจคนในสตง. เป็นอย่างมากในขณะนี้ คือ การที่ผู้บริหารคตง.บางราย ได้สั่งให้มีการย้ายพระพุทธธรรมาภิบาล ซึ่งเป็นพระพุทธรูปประจำ สตง. ออกจากศาลา ไปประดิษฐานที่อาคารชั้นล่างใต้ห้องสมุด ระหว่างรอย้ายมาประดิษฐานจุดที่ตั้งใหม่บริเวณร้านค้าสวัสดิการใต้อาคาร ที่กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุง โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร และยังถือเป็นการใช้จ่ายงบประมาณโดยไม่จำเป็นด้วย

" พระพุทธรูปประจำสตง.องค์นี้ เป็นศูนย์รวมใจของคนในสตง. มายาวนานหลายปี ข้าราชสตง.ทั้งรุ่นใหม่รุ่นเก่าได้แสดงจิตศรัทธาร่วมสร้างกันมา และอันเชิญมาประดิษฐานที่ศาลาบริเวณด้านข้างอาคาร ให้เป็นสัดเป็นส่วนเหมาะสม เป็นสิริมงคลแก่ข้าราชการสตง. ในการทำหน้าที่ตรวจสอบเงินของแผ่นดิน แต่อยู่ๆ ใครไม่รู้เข้ามา ก็มีคำสั่งให้ย้ายพระพุทธรูปเข้าไปอยู่ในอาคาร ไปประดิษฐานตรงบริเวณร้านค้าสวัสดิการเดิมแทน ทั้งที่ จุดที่ตั้งเดิมก็เป็นสิริมงคลดีอยู่แล้ว" 

แหล่งข่าวยังกล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าผิดหวังมากกว่าก็ คือ ผู้บริหารสตง.ชุดใหม่ ก็ยินยอมทำตามโดยไม่มีความเห็นคัดค้านอะไรกับเรื่องนี้เลย ชี้ให้เห็นว่า คตง.มีอำนาจมากกว่าคนสตง.ในเวลานี้ แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด 

อนึ่ง สำหรับชื่อ พระพุทธธรรมาภิบาล มีความหมายว่า พระพุทธเจ้าผู้ปกครองโดยธรรม โดยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ได้ถวายนามนี้ ให้เป็นที่สักการะ เป็นสิริมงคลแก่ข้าราชการ สตง. มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 ส.ค.2554