ฮีโร่กำปั้นเหรียญทองแดงโอลิมปิก ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด บสก.เจ้าหนี้

อดีตฮีโร่ กำปั้นเหรียญทองแดงโอลิมปิก ‘ผจญ มูลสัน’ ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด บสก. โจทก์ พบเคยทำธุรกิจร้านหมูกระทะ

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ราชกิจจานุเบกษาวันที่ 27 มี.ค.2561 เผยแพร่ ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่อง คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด น.ส.ชนัญญา รื่นอารมย์ และ นายผจญ มูลสัน มี บริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โจทก์ (คดีหมายเลขแดงที่ ล.3653/2560) ระบุว่า
ด้วยบริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โจทก์ (บสก.หรือ BAM) ได้ยื่นฟ้อง ต่อศาลล้มละลายกลางขอให้จำเลยล้มละลาย และศาลได้มีคำสั่งลงวันที่ 22 ส.ค.2560 ให้พิทักษ์ทรัพย์ของ น.ส.ชนัญญา รื่นอารมย์ จำเลยที่ 1, นายผจญ มูลสัน จำเลยที่ 2 เด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 แล้ว

จำเลยที่ 1 อาชีพ รับจ้าง มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 189/191 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร จำเลยที่ 2 อาชีพ รับจ้าง มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 36/619 หมู่ที่ 6 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ดังนั้น นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียว มีอำนาจจัดการเกี่ยวกับกิจการ และทรัพย์สินของจำเลย ตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 (http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/E/072/40.PDF)

นายผจญ มูลสัน เดิมมีว่าชื่อ ‘รำพัน’ เกิดเมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2511 ต.ด่านช้าง อ. บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ เป็นลูกคนที่ 5 ของนายสนิท และนางบาง มูลสัน จากจำนวนพี่น้องทั้งหมด 6 คน หลังจากเรียนจบ ป.6 จากโรงเรียนบ้านวงฆ้องแล้ว ผจญได้หนีออกจากบ้านไปเรียนหนังสือที่จ.ตาก เมื่ออายุได้ 12 ปี และเริ่มชกมวยไทยเพื่อหาเงินเรียน เมื่อเห็นว่าตนพอมีฝีมือในการชกมวยอยู่บ้างจึงเดินทางเข้ากรุงเทพฯ สังกัดค่ายมวยโอสถสภาซึ่งอยู่ในการควบคุมของ ร.ต.ไฉน ผ่องสุภา ผจญ ได้เข้าเรียนในโรงเรียนบางกะปิ พร้อมกับขึ้นชกมวยไทยในชื่อ ‘พุฒ เกียรติลานสาง’ จากนั้นได้ขึ้นชกมวยสากลสมัครเล่นนักเรียนให้โรงเรียนบางกะปิ และชนะเลิศมา จึงอาสาขึ้นชกมวยสากลสมัครเล่นในนามทีมโอสถสภา จนติดทีมชาติ รุ่นแบนตั้มเวท ขึ้นชกในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 14 ที่อินโดนีเซีย ได้เหรียญทองแดง เช่นเดียวกับในคิงส์คัพ ครั้งที่ 14 ปีเดียวกัน จึงถูกจัดให้เก็บตัวเพื่อเข้าแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก 1988 ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ รอบแรกจับสลากผ่าน รอบสองชนะคะแนน มาร์คัส พรีอัลคซ์ (ออสเตรเลีย) 5-0 รอบสามชนะคะแนน อับราฮัม ทอร์เรส (เวเนซุเอลา) 3-2 รอบสี่ชนะคะแนน อัลตัน คูห์ยัก (มองโกเลีย) 5-0 ได้เหรียญทองแดง แต่ในรอบรองชนะเลิศพ่ายแพ้ เคนเนดี้ แมคคินนีย์ (สหรัฐอเมริกา-ต่อมาได้กลายเป็นแชมป์โลกมวยสากลอาชีพในรุ่นแบนตั้มเวท สหพันธ์มวยนานาชาติ หรือ IBF) แบบ RSC. (Referee Stop Contest) หรือ กรรมการผู้ห้ามบนเวทียุติการชก ผจญจึงกลายเป็นนักกีฬาไทยเพียงคนเดียวที่ได้เหรียญรางวัลจากการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนั้น ทั้ง ๆ ที่ ไม่ได้เป็นนักมวยที่เป็นตัวเต็ง จากนั้นได้แขวนนวม และได้ศึกษาจนจบปริญญาตรี ร่วมแสดงละคร (ข้อมูลจากวิกิพีเดีย)

ต่อมาทำธุรกิจหมูกระทะ เมื่อปี 2547 ชื่อ 'ผจญ มูลสัน ย่างเกาหลี' จ.นนทบุรี (ข้อมูลจาก http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9490000051032) แต่ไม่มีข้อมูลว่าเลิกกิจการแล้วหรือไม่