ถึงคิว! เปิดข้อมูลรถขยะฟันส่วนต่าง7.9ล.-ปปป.สาวลึกบ.กลุ่มเดียวดูดโคลน-ได้งานค่อยขอ มอก.

ถึงคิว! เปิดข้อมูลจัดซื้อรถขยะ ฟันส่วนต่าง 7.9 ล้าน  'กมล เหรียญราชา' ผู้บังคับการ ปปป. ชี้บ.กลุ่มเดียวจัดซื้อรถดูดโคลน  อิศรา เคยนำเสนอข้อมูลแล้วเช่นกัน แถมเจอกลุ่มใหม่ เผยพฤติการณ์กระทำความผิดตั้งแต่ปี 50 มีปัญหา มอก. ได้งานแล้วไปขอย้อนหลัง ประสานงานร่วมมือหน่วยงานในสังกัดมหาดไทยยากมาก 

จากกรณี  พล.ต.ต. กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีการจัดซื้อรถดูดโคลน ว่ามีการฮั้วประมูลเกิดขึ้นจริง โดยบริษัทที่ชนะการประมูลการจัดซื้อรถดูดโคลนจำนวน 3 บริษัทนั้นมีความเกี่ยวข้อง เป็นตัวแทนมาจากโรงงานอุตสาหกรรมแห่งเดียวกัน ถือว่าผิดระเบียบเพราะตามกฎหมายระบุว่า ต้องมี 3 โรงงานมาประมูลแข่งกัน ไม่ใช่มาจากโรงงานเดียวกัน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลในช่วง 3 ปี ย้อนหลัง พบว่า โรงงานดังกล่าว ได้รับสัญญาการประมูลงานรัฐไปถึงพันล้านบาท นั้น (อ่านประกอบ : โยงข้อมูลอิศราปี58! ปปป.ชี้พฤติการณ์ 3 บ.คดีรถดูดสิ่งปฏิกูลรง.เดียวกันหมด-โกยงานรัฐพันล.)

ล่าสุด พ.ต.ต.กมล เหรียญราชา เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีรถขยะอัดท้ายว่า มีปัญหาในการฮั้วประมูลเช่นกัน เนื่องจากมีระเบียบสำนักงบประมาณว่ารถขยะที่มีปริมาตร 10 ลบม,12 ลบม. และ 14 ลบม. นั้นอยู่ในคำจำกัดความเดียวกันคือต้องมีราคากลางไม่เกิน 2.3 ล้านบาท แต่จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าทางบริษัทและ อปท.นั้นมีการทำเงื่อนไขกำหนดราคาระบุว่ารถขยะไม่น้อยว่า 12 ลบม. กำหนดราคาไว้ที่ 4.2 ล้านบาท ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า มี อปท.อย่างน้อย 7 พื้นที่ ที่พบว่ามีความผิดปกติ มีส่วนต่างอยู่ที่ 7.9 ล้านบาทต่อการจัดซื้อรถ 1 คัน ถือเป็นความเสียหายแก่รัฐ

"มีการจัดซื้อรถขยะดังกล่าวนี้เป็นจำนวนนับร้อยคัน ส่วนรายชื่อของบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายรถขยะนั้นก็เป็นกลุ่มบริษัทเดียวกับที่ทางสำนักข่าวอิศราได้เคยเปิดเผยข้อมูลไปเมื่อปี 2558 หรือเป็นกลุ่มเดียวกับบริษัทที่ทำ E-Auction รถดูดโคลนนั่นเอง ซึ่งจากการทำหน้าที่ของ ปปป. ก็พบข้อมูลเพิ่มเติมว่ามีพฤติการณ์กระทำความผิดตั้งแต่ปี 2550 

พล.ต.ต.กมล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังพบว่ามีการทุจริตรถสิบล้อดูดโคลนอีกกลุ่มหนึ่ง โดยจะมีบริษัท สมมุติว่าเป็นบริษัท A และ บริษัท B ที่ร่วมกันไปแข่งประมูลสิบล้อดูดโคลนในหลายๆที่ และมีการนำเอาบริษัทอื่นๆมาเป็นคู่เทียบเพื่อให้ครบจำนวนตามที่กฎหมายกำหนด แต่จากการตรวจสอบพบว่าบริษัททั้งหมดนั้น มีปัญหาไม่ได้มาตรฐานองค์การอุตสาหกรรม (มอก.) เลย แม้แต่บริษัท A และบริษัท B ที่มักจะได้งานตลอดและพอหลังจากที่ได้งานแล้วถึงไปขอ มอก.ในภายหลัง

"เป็นที่น่าสังเกตว่าในพื้นที่กระทำความผิดนั้น ถ้าหากบริษัทพื้นที่ที่มีบริษัทฮั้วการทำ E-Auction รถดูดโคลน จะไม่พบบริษัท A และ B เข้าไปประมูลงาน แต่พอพื้นที่ไหนที่บริษัท A และ B เข้าไปประมูลงาน ก็จะไม่พบบริษัทที่ฮั้วการทำ E-Auction เหมือนกับมีการแบ่งพื้นที่กันชัดเจนแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบพบข้อมูลว่าทั้งบริษัท A และ B นั้นมีพฤติการณ์ดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2540 แล้ว แต่เนื่องจากเป็นเรื่องที่เก่ามากเลยไม่สามารถจะหาเอกสารที่เกี่ยวข้องในช่วงเวลานั้นได้" พล.ต.ต.กมลระบุ 

เมื่อถามต่อถึง หลักการกำหนดข้อกําหนดของผู้ว่าจ้างหรือทีโออาร์ ว่าปล่อยให้บริษัทที่ไม่ได้รับ มอก.ให้เข้ามาประมูลได้อย่างไร พล.ต.ต.กมล ตอบว่า "เขากำหนดทีโออาร์กันกว้างมาก ไม่ได้มีอะไรที่ชัดเจน ดังนั้นทาง ปปป.จะต้องไปดำเนินคดีกับทางคณะกรรมการที่กำหนดทีโออาร์ด้วย และก็มีบางกรณีที่กำหนดทีโออาร์เหมาะสมแต่ปรากฎว่าคณะกรรมการที่จัดการประมูลนั้นกลับไม่เข้าไปตรวจบริษัทว่าถูกต้องตามทีโออาร์หรือไม่ ซึ่งเรื่องเหล่านี้นั้น ทาง ปปป.จะเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วและคาดว่าจะส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ดำเนินการได้ในเดือน พ.ค. ส่วนชื่อของบริษัท A บริษัท B รวมไปถึงบริษัทคู่เทียบนั้น ขอปิดชื่อไว้ก่อนเพราะอาจกระทบการสืบสวนได้"

เมื่อถามถึงกรอบความร่วมมือระหว่าง ปปป.กับ อปท.หรือสำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.)  พล.ต.ต.กมล ตอบว่า "เคยขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงมหาดไทยเหมือนกัน ก็อยากให้เขามีความร่วมมือช่วยเหลือตรวจสอบหน่วยงานในสังกัดเองด้วย ถ้าเขาทำแบบนี้ งานของ ปปป.ก็จะง่ายขึ้นมาอีกเยอะ แต่ที่ผ่านมา ทั้งการประสานงานและการขอความร่วมมือไปทางนั้นกลับเป็นเรื่องที่ยากมาก"  

อ่านประกอบ:

โยงข้อมูลอิศราปี58! ปปป.ชี้พฤติการณ์ 3 บ.คดีรถดูดสิ่งปฏิกูลรง.เดียวกันหมด-โกยงานรัฐพันล.

ดูชัดๆ จัดซื้อรถดูดสิ่งปฏิกูล อปท.16 แห่ง คันละ 14-18.9 ล. เอกชนกลุ่มเดียวกัน