‘สุเทพ’ยันบริสุทธิ์ปมโรงพักโยน'รบ.ปู' ต่อสัญญา-อ้าง ป.ป.ช.อคติ ท้าส่งศาลตัดสิน

‘สุเทพ’ แจงหน 3 คดีก่อสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่ง 5.8 พันล้าน ยืนยันหนักแน่นบริสุทธิ์ ลั่นปฏิบัติตามระเบียบทุกอย่าง แก้ไขสัญญาให้เป็นไปตามกฎหมายงบประมาณปี’53 ก่อสร้างล่าช้าเป็นเรื่องของผู้ควบคุมงาน ปัดเปิดช่องฮั้ว โยน รบ.ยิ่งลักษณ์ ต่อสัญญาเพิ่มอีก 3 ครั้ง อ้าง ป.ป.ช. อคติ ท้าส่งเรื่องให้ศาลฎีกานักการเมืองตัดสิน ถ้าผิดเอาชีวิตไปได้เลย ถ้าไม่ผิดอนุฯ ป.ป.ช. ต้องขอโทษประชาชน

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2561 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) พร้อมนายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ทนายความ เดินทางมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเป็นครั้งที่ 3 ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีถูกแจ้งข้อกล่าวหาในการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่ง วงเงินกว่า 5.8 พันล้านบาท

นายสุเทพ กล่าวก่อนเข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาว่า เตรียมเอกสารชุดเดิมจำนวน 94 หน้า โดยเป็นข้อมูลชุดเดียวกับที่เคยชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2558 มาประกอบกับที่จะให้ถ้อยคำด้วยตัวเองครั้งนี้ มั่นใจว่าไม่มีความผิด เพราะทำตามระเบียบ มีหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ทุกอย่าง ส่วนที่มีการระบุว่า มีการฮั้วประมูลเพื่อให้บางบริษัทชนะประมูลนั้น คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. มีอคติ ถ้าอ่านเอกสารทั้งหมด คนธรรมดาก็เข้าใจได้ ไม่ต้องเป็นนักกฎหมาย

“สิ่งที่ ป.ป.ช. ระบุเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2561 ที่ผ่านมา ทำให้สังคมเข้าใจผิด ผมได้รับความเสียหาย ป.ป.ช. พูดเช่นนี้หลายครั้ง ผมก็แจงหลายรอบ แต่เรื่องยังไม่หยุด จึงต้องชี้แจงอีกครั้งให้ชัดเจนเพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน” นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า กรณีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญา และบริษัทที่ชนะการประมูลไม่สามารถสร้างสถานีตำรวจทั้ง 396 แห่งได้ทันตามกำหนดเวลานั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสัญญา หรือการอนุมัติเปลี่ยนแปลงวิธีการประมูล เพราะการทำสัญญาว่าจ้างดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบงบประมาณแผ่นดินของสำนักนายกรัฐมนตรีทุกขั้นตอน แต่เรื่องการก่อสร้างล่าช้าเสร็จไม่ทันกำหนด เป็นเรื่องของผู้ควบคุมงานก่อสร้าง ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้

เมื่อถามว่า มีข้อสงสัยเรื่องการเปลี่ยนวิธีประมูลแบบรายภาคมาเป็นแบบรวมศูนย์ นายสุเทพ กล่าวว่า ชี้แจงไปหลายรอบแล้วว่า ตอนอนุมัติโครงการครั้งแรก พิจารณาตามที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ขณะนั้น เสนอมา เห็นว่ามีเหตุผลเรื่องการแยกสัญญาออกเป็น 9 ภาค จึงอนุมัติให้ดำเนินการ แต่ต่อมาสมัย พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ เป็น ผบ.ตร. ได้เสนอแก้ไขสัญญาว่าจ้างใหม่เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายงบประมาณปี 2553 ที่ออกมาจากหลังการอนุมัติโครงการครั้งแรกแล้ว โดยระบุว่า หากเป็นโครงการเดียวกันไม่สามารถแยกเป็นหลายสัญญาได้ จึงเป็นที่มาของการแก้ไขสัญญาใหม่ให้ถูกต้องตามระเบียบงบประมาณปี 2553 ทุกโครงการก็ทำตามระเบียบดังกล่าว

ต่อมานายสุเทพ กล่าวภายหลังชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงว่า นำเอกสารหลักฐานทั้งหมดชี้แจงให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบแล้ว เพราะที่ประชุมยังไม่เคยเห็นเอกสารเหล่านี้ พร้อมอธิบายว่า สิ่งที่ดำเนินการไปทำโดยสุจริต ด้วยหลักการและเหตุผลตามที่ สตช. อนุมัติมา ทุกขั้นตอนทำถูกต้องตามกฎหมาย หลังจากมีการเซ็นสัญญาก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว ตนพ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ต่อมาโครงการเสร็จไม่ทันกำหนด และรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาต่อสัญญาให้ 3 ครั้ง กระทั่งมีการยกเลิกสัญญาในที่สุด

“จากนั้นเริ่มมีกระบวนการใส่ร้ายผม คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. ตั้งข้อหาแปลก ๆ มีอคติ ขณะนี้ผมกำลังตั้งพรรคการเมือง ต้องรวบรวมศรัทธาจากประชาชน จึงจำเป็นต้องเปิดเผยต่อสาธารณชนว่า วิธีการไต่สวนของคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. และดีเอสไอไม่ชอบด้วยกฎหมาย คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. ไม่ควรตกเป็นเครื่องมือใคร ยินดีหาก ป.ป.ช. ส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสิน ถ้าผิดก็เอาชีวิตผมไป หากไม่ผิดคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. ควรขอโทษประชาชน ความยุติธรรมหมายถึงความรวดเร็วด้วย ป.ป.ช. จะวินิจฉัยอย่างไรไม่ติดใจ ดีกว่าปล่อยให้เรื่องยืดยาวต่อไป” นายสุเทพ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพเดินทางมาให้ถ้อยคำเป็นครั้งที่ 3 โดย 2 ครั้งแรกมาให้ถ้อยคำช่วงเป็นพระสุเทพเมื่อปี 2558 สำหรับคดีสร้างสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่ง วงเงินกว่า 5.8 พันล้านบาทนั้น มีการแยกเป็น 2 สำนวน สำนวนแรกคือการกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ กรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) อย่างไรก็ดีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติตีตกข้อกล่าวหานายอภิสิทธิ์ไปแล้ว เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ และดำเนินการไต่สวนเฉพาะกรณีนายสุเทพ ส่วนอีกสำนวนหนึ่งมีการกล่าวหาอดีตนายตำรวจระดับสูงหลายราย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริง (อ่านประกอบ : 5ปีไม่คืบ!ป.ป.ช.ยังไม่สรุปคดีโรงพักทดแทน5.8พันล.-สำนวนไม่สมบูรณ์สั่งสอบต่อ)

อ่านประกอบ : พลิกคดีโรงพักฉาวในมือ ป.ป.ช. สูญเสียพันล. 5ปียังไร้บทสรุป-‘สุเทพ’ แจงหน 3

หมายเหตุ : ภาพประกอบนายสุเทพ จาก bangkokbiznews