พิพากษายืนคุก1ปี แต่รอลงโทษ อดีตนายกอบต.ดอนมะสังข์สุพรรณฯ คดีเบิกจ่ายเงินให้ผู้รับเหมา

เขียนวันที่

วันจันทร์ ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 11:37 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

ข่าว | Isranews | จัดซื้อจัดจ้าง | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน จำคุก 1 ปี ปรับ 1 หมื่น แต่รอการลงโทษ 3 ปี 'ประคอง ป้อมสถิตย์' อดีตนายก อบต. ดอนมะสังข์ อ.เมือง สุพรรณบุรี พร้อมกก.ตรวจรับ กรณีเบิกจ่ายเงินให้ผู้รับจ้างโครงการก่อสร้างถนนดินลงลูกรัง ม. 2 ทั้งที่ งานก่อสร้างไม่เป็นไปตามแบบแปลนมีส่วนได้ส่วนเสียโดยอ้อมในสัญญา ส่วนจำเลยที่ 3 ให้การมีปย.ลดโทษเหลือ 1 ปี 4 เดือน

pickdkdkdkdk16

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าการฟ้องร้องคดีกล่าวหา นายประคอง ป้อมสถิตย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร และนายก อบต.ดอนมะสังข์ อ.เมือง จว.สุพรรณบุรี จำเลยที่ 1 นายบุญเหลือ พลายสถิตย์ กรรมการบริหารในฐานะกรรมการตรวจการจ้าง จำเลยที่ 2 นางสาวปราณีหรือปารณีย์ เตียบฉายพันธุ์ หัวหน้าส่วนโยธาในฐานะผู้ควบคุมงานและกรรมการตรวจการจ้าง จำเลยที่ 3 ฐานตรวจรับและเบิกจ่ายเงินให้ผู้รับจ้างโครงการก่อสร้างถนนดินลงลูกรัง ม. 2 ทั้งที่ งานก่อสร้างไม่เป็นไปตามแบบแปลนและมีส่วนได้ส่วนเสียโดยอ้อมในสัญญาดังกล่าว

ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิด เมื่อวันที่ 10 พ.ย.2558 ว่า นายประคอง ป้อมสถิตย์ มีมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 มาตรา 157 ส่วนนายบุญเหลือ พลายสถิต นางสาวปราณีหรือปารณีย์ เตียบฉายพันธุ์ มีมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบมาตรา 83

ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางว่า จำเลยทั้ง 3 มีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 ลงโทษจำคุกจำเลย ที่ 1 , 2 คนละ 2 ปี และปรับคนละ 20,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 3 ลงโทษจำคุก 2 ปี

อย่างไรก็ดี จำเลยที่ 1 และ 2 ให้การรับสารภาพลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่ง ตามมาตรา 78 คงจำคุก จำเลยที่ 1 และ 2 คนละ 1 ปี และปรับคนละ 10,000 บาท รอการลงโทษจำคุก จำเลยที่ 1 และ 2 มีกำหนด 3 ปี ขณะที่ทางนำสืบของจำเลยที่ 3 มีประโยชน์แก่การพิจารณาเห็นควรลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามมาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 1 ปี 4 เดือน ข้อหาอื่นให้ยก จำเลยที่ 3 อุทธรณ์

ขณะที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเมื่อวันที่ 3 ม.ค.2562 เห็นชอบตามความเห็นอัยการสูงสุดที่จะไม่ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

(ดูกฎหมายประกอบ ที่นี่ https://www.nacc.go.th/more_news.php?cid=39&filename=info)

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/