เป็นอำนาจหน้าที่! กกต.ปัดเร่งคดี‘ธนาธร’ -สอบอีกปมรู้ว่าขาดคุณสมบัติแต่ยังสมัคร ส.ส.

เขียนวันที่

วันศุกร์ ที่ 24 พฤษภาคม 2562 เวลา 16:37 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

Tags

กกต. ออกโรงแจงปมชงศาล รธน.วินิจฉัย ‘ธนาธร’ ถือครองหุ้นสื่อ ยันไม่ได้เร่งรัดหรือมีมูลเหตุทางการเมือง แต่เป็นอำนาจหน้าที่ ตั้ง กก.สอบอีกชุด กรณีรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติ หากผิดจริงชงศาล ติดคุก 1-10 ปี ปรับ 2 หมื่น-2 แสนบาท เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี

PIC kkt 24 5 62 2226

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2562 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่เอกสารข่าวชี้แจง กรณี กกต. ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัย กรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ถือครองหุ้นสื่อว่า ไม่ได้เป็นการเร่งรัดหรือมีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง

สำนักงาน กกต. ชี้แจงว่า กรณีส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนมูญวินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส. ของนายธนาธร เป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนมูญ มาตรา 82 กรณีที่ กกต. เห็นว่า สมาชิกภาพของ ส.ส. คนใดคนหนึ่งสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ โดยกรณีของนายธนาธร เมื่อมีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏว่าสมาชิกภาพ ส.ส. มีเหตุสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) กกต. จึงส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของ กกต.

สำนักงาน กกต. ชี้แจงอีกว่า กรณีมีการไต่สวนนายธนาธรว่า เป็นบุคคลผู้ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. เป็นการไต่สวนว่า มีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 151 กรณีผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม หรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ หรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนที่ กกต. แต่งตั้งขึ้น ดังนั้นการดำเนินการทั้ง 2 กรณี จึงเป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของ กกต. และเป็นไปตามขั้นตอนที่กฎหมายบัญญัติ โดยไม่มีการเร่งรัดหรือมีมูลจูงใจทางการเมืองแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งฯ ส.ส. มาตรา 151 หากพบว่า บุคคลใดกระทำความผิด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น มีกำหนด 20 ปี ในกรณีที่ผู้กระทำผิดเป็นผู้ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้นั้นคืนเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่ได้รับมาเนื่องจากการดำรงตำแหน่งดังกล่าวให้แก่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรด้วย

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/