คุก1ปี! อดีตปลัดอบต.น้ำบ่อหลวง เชียงใหม่ เบิกจ่ายค่าอาหารที่พักโครงการอบรมศึกษาดูงานปี 55

เขียนวันที่

วันเสาร์ ที่ 29 มิถุนายน 2562 เวลา 09:47 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

ข่าว | Isranews | ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวสืบสวน | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

แพร่คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 5 สั่ง จำคุก 1 ปี 'ตะวัน อินต๊ะวงค์' อดีตปลัดอบต. น้ำบ่อหลวง อ.สันป่าตอง เชียงใหม่ คดีเบิกจ่ายค่าอาหารที่พักโครงการอบรมศึกษาดูงานเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารให้แก่คณะผู้บริหาร สมาชิกสภา พนักงานส่วนตำบลและผู้นำชุมชน ประจำปี 55 เป็นเท็จ หลังโดนเต็ม 2 ปี ให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง

picdmdmdmdmd6 29 19

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่คำพิพากษา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติ มิชอบภาค 5 สั่งจำคุก 1 ปี นายตะวัน อินต๊ะวงค์ อดีตปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) น้ำบ่อหลวง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ในคดีเบิกจ่ายค่าอาหารและค่าเช่าที่พักโครงการอบรมและศึกษาดูงานเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารให้แก่คณะผู้บริหาร สมาชิกสภา พนักงานส่วนตำบล และผู้นำชุมชน ประจำปีงบประมาณ 2555 เป็นเท็จ

ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิด เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2558 ว่า นายตะวัน อินต๊ะวงค์ มีความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 , 157 และมาตรา 162 (1) , (4)

โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2562 ว่า นายตะวัน อินต๊ะวงค์ ผิดตามมาตรา 157 มาตรา 162 (1), (4) การกระทําของจําเลย เป็นการกระทํากรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทลงโทษ ตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ตาม มาตรา 90 จําคุก 2 ปี ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามมาตรา 78 คงจําคุก 1 ปี

ทั้งนี้ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนมาตรา 162 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการดังต่อไปนี้ในการปฏิบัติการตามหน้าที่

(1) รับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ

(2) รับรองเป็นหลักฐานว่า ได้มีการแจ้งซึ่งข้อความอันมิได้มีการแจ้ง

(3) ละเว้นไม่จดข้อความซึ่งตนมีหน้าที่ต้องรับจด หรือจดเปลี่ยนแปลงข้อความเช่นว่านั้น หรือ

(4) รับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2562 มีมติเห็นชอบตามความเห็นของอัยการสูงสุดที่จะไม่อุทธรณ์คําพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/