‘ปธ.บอร์ดกทพ.’ คาดเซ็นสัญญาต่อสัมปทานทางด่วน BEM ในสัปดาห์นี้

‘สุรงค์’ คาดกทพ.ลงนามต่อสัญญาอายุสัมปทานทางด่วน BEM แลกยุติข้อพิพาท 17 คดี ได้ภายในสัปดาห์นี้ ระบุสิทธิการต่ออายุสัมปทานให้ยึดสัญญาเดิม โดยให้สิทธิเอกชนรายเดิมต่ออายุได้แค่ 4 ปี 4 เดือนเท่านั้น

เมื่อวันที่ 19 ก.พ. นายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดกทพ.มีมติแต่งตั้งนายดำเกิง ปานขำ รองผู้ว่าการฝ่ายปฏิบัติการ ให้ดำรงตำแหน่งรักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กทพ. โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.2563 เป็นต้นไป ทั้งนี้ นายดำเกิงจะทำหน้าที่เป็นผู้ลงนามในสัญญาต่ออายุสัญญาสัมปทานทางด่วน 15 ปี 8 เดือน กับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM

พร้อมกันนั้น บอร์ดกทพ.มีมติยับยั้งการลาออกจาก กทพ.ของนายวิชาญ เอกรินทรากุล และแต่งตั้งนายวิชาญให้ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา กทพ. เพราะนายวิชาญยังเป็นบุคลากรที่เป็นประโยชน์กับกทพ. แต่เนื่องจากนายวิชาญมีปัญหาด้านสุขภาพ จึงให้โยกย้ายนายวิชาญไปเป็นที่ปรึกษา และทำงานตามคำสั่งของรักษาการผู้ว่าการ กทพ. คนใหม่ โดยนายวิชาญ ซึ่งอยู่ในที่ประชุมด้วย ได้ตอบตกลงด้วยสมัครใจว่าจะยังอยู่กับกทพ.ต่อไป

“ท่านวิชาญยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เพียงแต่ว่าท่านไม่พร้อมที่จะทำหน้าที่ในตำแหน่งรักษาการผู้ว่าการ กทพ. บอร์ดจึงมีความเห็นให้ยับยั้งการลาออกของนายวิชาญ และมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาฯ ซึ่งท่านวิชาญมีความสมัครใจและพร้อมจะทำหน้าที่ที่ปรึกษาฯอยู่ ส่วนการสรรหาผู้ว่าการ กทพ.คนใหม่นั้น คณะกรรมการสรรหาที่มีนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง และกรรมการกทพ. เป็นประธาน กำลังเร่งดำเนินการอยู่”นายสุรงค์กล่าว

นายสุรงค์ ยังกล่าวถึงการลงนามต่อสัญญาสัมปทานกับ BEM ว่า การเตรียมการเรื่องร่างสัญญายังอยู่ระหว่างดำเนินการ และเมื่อมีความพร้อมก็ลงนามได้ทันที โดยเมื่อวานนี้ (19 ก.พ.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และกระทรวงคมนาคมสั่งการให้ลงนามในสัญญาโดยเร็ว จึงคาดว่าจะมีการลงนามสัญญาได้ภายในสัปดาห์นี้ และเมื่อลงนามสัญญาแล้ว BEM จะต้องถอนฟ้องข้อพิพาททั้ง 17 คดีก่อน จากนั้นสัญญาจึงจะมีผลบังคับใช้

“ขณะนี้ยังมีรายละเอียดที่ต้องดำเนินการให้ครบสมบูรณ์ก่อนที่จะลงนามสัญญา เช่น กทพ. กับ BEM จะต้องเตรียมหนังสือขอไปยื่นขอถอดถอนคดีพิพาททั้ง 17 คดี โดยท่านอัยการสูงสุดได้เตรียมบุคลากรให้เข้ามาช่วยถอนคดี เรามีคดีกันมา 30 ปี ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ภาย 1-2 วัน ซึ่งรวมถึงการตรวจร่างสัญญาต่างๆให้เรียบร้อย ทั้งนี้ เราจะทำโดยเร็วที่สุด ทุกชั่วโมงมีความหมาย และทุกอย่างจะทำเสร็จก่อนวันที่ 29 ก.พ.2563 แน่นอน” นายสุรงค์กล่าว

สำหรับร่างสัญญา 2 ฉบับที่ กทพ.จะลงนามกับ BEM นั้น ได้ตัดเงื่อนไขเกี่ยวกับการห้ามสร้างทางแข่งขันทิ้งทั้งหมดแล้ว ทำให้ต่อไปนี้รัฐบาลจะสร้างทางด่วนที่ไหนและเมื่อไหร่ก็ได้ อีกทั้งมีการกำหนดเงื่อนไขการปรับค่าผ่านทางให้ชัดเจน คือ จะมีการปรับเพิ่มค่าผ่านทางเพียงครั้งเดียวในปี 2571 ที่อัตรา 10 บาท

นายสุรงค์ ชี้แจงถึงสิทธิการต่ออายุสัญญาสัมปทานของ BEM จำนวน 2 ครั้งๆละ 10 ปี ว่า การต่ออายุสัญญาดังกล่าวจะยึดตามสัญญาเดิม โดยจะให้สิทธิ BEM ก่อน แต่การนับระยะเวลานั้น ให้ยึดตามสัญญาเดิม คือ เมื่อ BEM ได้รับการต่อสัญญาไปแล้ว 15 ปี 8 เดือน ก็เท่ากับว่า BEM มีสิทธิได้รับการพิจารณาต่อสัญญาได้เพียง 4 ปี 4 เดือน และไม่ใช่เป็นการต่ออัตโนมัติ แต่ต้องมาเจรจากัน เมื่อถึงตอนนั้นส่วนแบ่งค่าผ่านทางจะเป็น 80 : 20 ก็ได้ ไม่ใช่ 60 : 40

“BEM ได้สิทธิต่อสัญญาเป็นรายแรก แต่ต้องมาเจรจากัน ถ้าเจรจาไม่ได้ก็หมดสิทธิไป ส่วนการนับเวลาให้ยึดตามสัญญาเดิม คือ เมื่อ BEM ได้สิทธิต่อสัญญาไปแล้ว 15 ปี 8 เดือน ก็จะเหลือเวลาที่จะต่อสัญญาได้อีกเพียง 4 ปี 4 เดือน รวมถึงส่วนแบ่งรายได้ต้องเปลี่ยนด้วย และแน่นอนว่ากทพ.จะต้องได้ส่วนแบ่งรายได้เพิ่มขึ้น”นายสุรงค์กล่าว

ส่วนการก่อสร้างทางด่วนชั้นที่ 2 (Double Deck) นายสุรงค์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ไปศึกษา และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม บอกว่า ไหนๆก็จะสร้างแล้ว ก็ขอให้ไปศึกษาทั้งระบบเลย เช่น การเชื่อมตอน N1 และ N2 ทางเชื่อมท่าเรือฯ และทางขึ้น-ลงยมราช เป็นต้น ทั้งนี้ กทพ.จะว่าจ้างที่ปรึกษาฯมาศึกษาให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี และภายใต้ข้อตกลงตามร่างสัญญาใหม่ BEM ต้องลงทุนสร้างทางขึ้น-ลงบริเวณสถานีกลางบางซื่อเอง

“Double Deck เป็นการเพิ่มผิวทางจราจร ไม่ใช่เป็นโครงการใหม่ แต่เมื่อเพิ่มแนวนอนไม่ได้ จึงต้องเพิ่มแนวตั้ง เพราะเราไม่มีที่ ซึ่งในเรื่องนี้มีเรื่องต้องพิจารณาใน 2 ประเด็น คือ 1.หากขึ้นทางด่วนแล้วรถยังติด ถือเป็นการตอบโจทย์ประชาชนไม่ครบ จึงเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องอำนวยความสะดวกให้ประชาชน และ2.ในเรื่องรายได้ เพราะด่านเก็บเงินยังเป็นด่านเดิมของ BEM อยู่ แต่ตรงนี้ไม่ใช่ปัญหา เพราะกทพ.ก็ยังได้ส่วนแบ่ง 60% เหมือนเดิม”นายสุรงค์กล่าว

อ่านประกอบ : 

‘วิษณุ-ศักดิ์สยาม’ ร่ายยาว แจงเหตุครม.ไฟเขียวต่อสัมปทานทางด่วน BEM

ครม.ไฟเขียวต่ออายุสัมปทานทางด่วน BEM เป็นเวลา 15 ปี 8 เดือน

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/