หุ้นไทยดิ่งหนัก 72.69 จุด กังวลไวรัสระบาดทั่วโลก-พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในไทย

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยร่วงหนัก 72.69 จุด ลดลง 5.05% นักลงทุนต่างชาติเทขาย 4.49 พันล้านบาท 'ภากร' ระบุตั้งแต่ต้นปีหุ้นไทยตก 8.9% เชื่อหลังสถานการณ์คลี่คลายหุ้นไทยฟื้นตัวเร็ว

วันนี้ (26 ก.พ.) ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดตลาดที่ 1,366.41 จุด ลดลง 72.69 จุด หรือลดลง 5.05% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 93,189.41 ล้านบาท เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ลุกลามนอกประเทศจีน โดยเฉพาะในเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และอิตาลี และล่าสุดพบการติดเชื้อรายใหม่ในประเทศไทย 3 ราย และมีกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังในไทยกว่า 100 คน

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยสุทธิ 4,494.27 ล้านบาท บัญชีโบรคเกอร์เทขายสุทธิ 833.93 ล้านบาท กองทุนซื้อสุทธิ 507.00 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 4,821.20 ล้านบาท

สำหรับหุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. AOT ราคาปิด 62.50 (-2.25) มูลค่าซื้อขาย 5,292.64 ล้านบาท 2.CRC ราคาปิด 32.50(-4.75%) มูลค่าซื้อขาย 4,673.96 ล้านบาท 3.KBANK ราคาปิด 115.50 (-12.50%) มูลค่าซื้อขาย 4,416.40 ล้านบาท 4. PTT ราคาปิด 41.50 (-1.00%) มูลค่าซื้อขาย 3,841.76 ล้านบาท และ 5.BAM ราคาปิด 27.25 (-1.25%) มูลค่าซื้อขาย 3,742.35 ล้านบาท

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงแรงและลงมาต่ำกว่า 1,400 จุด เป็นไปตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นยุโรปและเอเชีย เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในหลายประเทศ และขอให้นักลงทุนศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ และอย่าตื่นตระหนก

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงขณะนี้ ดัชนีหุ้นไทยลดลง 8.91% และเมื่อควบคุมสถานการณ์การระบาดของไวรัสฯได้ ก็จะทำให้ตลาดหุ้นฟื้นตัว โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยที่มีความแข็งแกร่งด้านสภาพคล่อง นอกจากนี้ หากเทียบกับกรณีโรคซาร์ส ตลาดหุ้นไทยสามารถฟื้นตัวได้ในเวลา 1 เดือนครึ่ง ส่วนเหตุการณ์ระเบิดราชประสงค์ใช้เวลาฟื้นตัว 2-3 เดือน

นายภากร ระบุว่า เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลายเชื่อว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยตามเดิม เนื่องจากยังมีหุ้นไทยที่น่าสนใจอยู่ในดัชนี MSCI ถึง 40 ตัว และหลาย Sector ที่สามารถทนต่อสภาวะแวดล้อมได้เป็นอย่างดี

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/