ปูดกรมสรรพากรดอง 5 ปีสอบภาษีเอกชนคดีปล่อยกู้แบงก์กรุงไทย 2,100 ล้าน

ดีเอสไอร่อนหนังสือทวงข้อมูลกรมสรรพากร หลังไม่ยอมรายงานผลตรวจสอบภาษีเอกชน 5 รายกลุ่มบริษัท แชลเลนจ์ คดีปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทยกว่า 2,124 ล้านบาท ปล่อยเวลาล่วงกว่า 5 ปี

 กรมสรรพากรไม่ยอมรายงานผลการตรวจสอบภาษีเอกชนกรณีปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทยกว่า 2,000 ล้านบาทให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หลังเวลาล่วงเลยกว่า 5 ปี

สำนักข่าวอิศรา www.isranew.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2556 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมสรรพากร เพื่อขอทราบผลการดำเนินการกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษส่งเรื่องให้กรมสรรพากรตรวจสอบการเสียภาษีเอกชน 5 รายในกลุ่มบริษัท แชลเลนจ์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด ที่ได้รับสินเชื่อจากธนาคารกรุงไทยรวม 2,124 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ยุค พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็นอธิบดี ส่งหนังสือถึงกรมสรรพากรตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2549 กระทั่งล่าสุดกรมสอบสวนคดีพิเศษยังไม่ได้รับการแจ้งกลับจากกรมสรรพากรแต่อย่างใด

ทั้งนี้ หนังสือของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ฉบับลงวันที่ 31 ก.ค.2556 ระบุว่า

“จากการตรวจสอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษพบว่ามีการเบิกจ่ายเงินกู้ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้แก่นิติบุคคลต่างๆ ได้แก่ ๑)บริษัท เมเปิล แอนด์ บีช จำกัด ๒) บริษัท ฟิจิคอนสตรัคชั่น จำกัด ๓) บริษัท มิล-คอม จำกัด ๔) บริษัท พูนลาภ คอนสตรัคชั่น จำกัด ๕) บริษัท ซี.เอฟ.ไอ.(ประเทศไทย) จำกัด จึงส่งข้อมูลมายังท่านเพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ความละเอียดแล้วนั้น

บัดนี้ได้ล่วงเลยระยะเวลามาพอสมควรแล้ว กรมสอบสวนคดีพิเศษยังไม่ได้รับทราบผลการดำเนินการแต่อย่างใด จึงเรียนมายังท่านเพื่อกรุณาแจ้งผลการดำเนินการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษทราบโดยด่วนด้วย”

ผู้ส่งหนังสือฉบับดังกล่าวคือนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกรมสรรพากรได้รับหนังสือฉบับดังกล่าวในวันเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมสรรพากรในช่วงปี 2549 มีนายศานิต ร่างน้อย เป็นอธิบดี