ผู้ว่าประปาฯ สั่งลุย 1,000 ล้าน ร่วมประมูลตั๋วสัญญา"คลัง" โปะหนี้จำนำข้าว
เปิดหนังสือ "กระทรวงการคลัง" ชวน "รัฐวิสาหกิจ" ร่วมประมูลออกตั๋วสัญญาใช้เงิน 2 หมื่นล้าน โปะหนี้จำนำข้าว "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" ขีดเส้นยื่นซองเสนออัตราดอกเบี้ย 27 ก.พ.57 นี้ ผู้ว่าการประปานครหลวง สั่งลุย 1,000 ล้าน
จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เตรียมที่จะหาแหล่งเงินทุนจากรัฐวิสาหกิจมาใช้ในการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าว แทนการให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เงินกู้จากธนาคารออมสิน ที่ถูกล้มเลิกไปก่อนหน้านี้
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ได้ทำหนังสือแจ้งไปถึงผู้บริหารรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง เพื่อแจ้งให้ทราบถึงหลักเกณฑ์และแนวทางการเข้าร่วมประมูลตั๋วสัญญาใช้เงิน วงเงินไม่เกิน 2 หมื่นล้านบาท อายุเงินกู้ 8 เดือน โดยกำหนดวันยื่นซองเสนออัตราดอกเบี้ย วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557 นี้
ทั้งนี้ ในหนังสือดังกล่าว ระบุข้อความว่า "ด้วยกระทรวงการคลังมีความประสงค์จะจัดหาเงินกู้ให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ตามมติคณะรัฐมนตรีที่ได้อนุมัติไว้แล้ว โดยวิธีการกู้เงินแบบตั๋วสัญญาใช้เงิน โดยกระทรวงการคลังค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย และรัฐบาลรับภาระชำระคืนต้นเงินและดอกเบี้ย"
จากการตรวจสอบพบว่า การประปานครหลวง เป็นรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง ที่ได้รับหนังสือเชิญชวนให้เข้าร่วมประมูบตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวจากกระทรวงการคลังด้วย
เบื้องต้น นายธนศักดิ์ วัฒนฐานะ ผู้ว่าการประปานครหลวง ได้เห็นชอบและสั่งการให้การประปานครหลวงเข้าร่วมประมูล ในวงเงิน 1,000 ล้านบาท
(ดูรายละเอียดในหนังสือที่ สบน.ทำถึงผู้ว่าการประปานครหลวง )
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวระดับสูงใน สตง. ว่า ขณะนี้ สตง. อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลกรณีรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ออกคำสั่งให้รัฐวิสาหกิจพิจารณาย้ายเงินลงทุนในหน่วยงานของตนเอง มาช่วยโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลแห่งละหลายหมื่นล้านบาท โดยเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมได้สั่งให้บริษัทการท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. พิจารณาอนุมัติเงินจำนวน 4 หมื่นล้านบาท มาใช้แล้ว
" ขณะนี้ สตง.กำลังตรวจสอบว่ารัฐบาลใช้อำนาจอะไรในการสั่งการเรื่องนี้ เนื่องจากอยู่ในช่วงรักษาการ และคำสั่งดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะแผนงานลงทุนต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการให้บริการประชาชนในอนาคตหรือไม่ โดยสตง.จะทำหนังสือแจ้งสอบถามข้อมูลไปยังรัฐบาล รวมถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจอย่างเป็นทางการด้วย" แหล่งข่าวระบุ