ศาลฎีกาฯฟัน‘สุธี’บอร์ดการบินพลเรือน - 9 นักการเมืองท้องถิ่น จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ

ศาลฎีกาฯฟัน 9 นักการเมืองท้องถิ่น - สุธี จุลชาติ ก.ก.สถาบันการบินพลเรือน ‘จงใจ’ซุกบัญชีฯทรัพย์สิน รอลงโทษจำคุกรวด ติดจริง 1 คน ‘ราเชนทร์’รองนายกฯ อบต.บ้านหีบ จ.พระนครศรีอยุธยา เหตุต้องโทษคดีความผิดต่อชีวิต 16 ปี 6 เดือน

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อ 14 ม.ค.59 สำนักงานศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้เผยแพร่คำพิพากษาคดีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้อง ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยกรณีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองท้องถิ่น (ผู้คัดค้าน) จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน จำนวน 10 คดี (ราย) ปรากฏว่าศาลฎีกาฯพิพากษาให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดังกล่าวมีความผิดทั้งหมด ในจำนวนนี้เป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ 1 คดี คือ เรืออากาศเอก สุธี จุลชาติ กรรมการสถาบันการบินพลเรือน รัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคม

ศาลฎีกาฯวินิจฉัยว่า เรืออากาศเอก สุธี จุลชาติ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 39 วรรคหนึ่ง (15) ประกอบมาตรา 32 และ 33

ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐเฉพาะตำแหน่งตามมาตรา 39,40 เป็นเวลา 5 ปี นับจากวันที่ 30 เม.ย.53 ซึ่งเป็นวันพ้นตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 41 กับ มีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท

ผู้คัดค้านให้รับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56

(คดีหมายเลขแดงที่ อม.80/2558 -26 ต.ค.58)

ส่วนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 9 คดีที่ศาลฎีกาฯวินิจฉัยให้มีความผิด ประกอบด้วย

1.นายโอภาส ฉิวพันธ์ สมาชิกสภาเทศบาลนครศรีธรรมราช
2.นายเอกสิทธิ์ จุลสุคนธ์ สมาชิกสภาเทศบาลเมืองศรีราชา จ.ชลบุรี
3.นายราเชนทร์ โฉมจิตร์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหีบ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
4.นายบารมินทร์ นครชัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตอกแป้น อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์
5. นายสิทธิโชค พันฤทธิ์ดำ เลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลเขาชัยสน จ.พัทลุง
6.นายจตุพล ปักเข็ม เลขานุการนายกเทศมนตรีนครศรีธรรมราช
7.นายบัวลำ วังคีรี เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบลตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว
8.นายวิชล แก้วถาวร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางพระ จ.ฉะเชิงเทรา
9.นายยอดยิ่ง ใจมูล สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตาก (ส.อบจ.ตาก)

ทั้ง 9 คนมีความผิด ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี และโทษจำคุกคนละ 1 -3 เดือน ปรับ 4,000- 12,000 บาท ตามจำนวนกระทงความผิด โทษจำคุกให้รอการลงโทษคนละ 1 ปี ยกเว้น นายราเชนทร์ โฉมจิตร์ มีความผิด รวม 3 กระทง เป็นจำคุก 6 เดือน รับการสารภาพ ศาลฯลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน ไม่รอการลงโทษ (คดีหมายเลขแดงที่ อม.68/2558 -22 ก.ย.58)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบัน นายราเชนทร์ ถูกจำคุกมีกำหนด 16 ปี 6 เดือน ในคดีความผิดต่อชีวิต พยายาม และ พ.ร.บ.อาวุธปืน ตามคำพิพากษาคดีถึงที่สุดคดีหมายเลขดำที่ 805/1551 หมายเลขแดงที่ 1652/2552 ของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา