ไร้หลักฐานซ้อมทรมาน! สตช.ยันผลตรวจ DNA มัดจำเลยฆ่านักท่องเที่ยวเกาะเต่า

ครม. มีมติรับทราบรายงานผล ยธ. ปมร้องเรียนซ้อมทรมาน 2 ผู้ต้องหาฆ่านักท่องเที่ยวเกาะเต่า สตช. ยันไร้หลักฐาน ไม่ต้องตั้ง คกก.สอบฯ ชี้ผลตรวจ DNA มัด-คำพิพากษาศาลพิจารณารอบด้านแล้ว ‘บิ๊กตู่’ สั่งทำความเข้าใจ ‘เมียนมา’

จากกรณีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีขอให้คุ้มครองสิทธิผู้ต้องสงสัยชาวเมียนมาในคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เกาะเต่า อ.พะงัน จ.สุราษฎร์ธานี โดยผู้ต้องสงสัยกล่าวอ้างว่าถูกซ้อมทรมานให้รับสารภาพ โดยสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้แจ้งให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการตรวจสอบนั้น

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า กระทรวงยุติธรรม โดย พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมในเรื่องดังกล่าวแล้ว

โดยประเด็นสำคัญคือ กสม. มีข้อเสนอให้ สตช. พิจารณาตั้งคณะกรรมการสอบสวนว่าบุคคลใดได้กระทำการทรมานด้วยการทำร้ายร่างกายอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนนายวินพิว และนายซอลิน (สองจำเลย) จนมีการบาดเจ็บทางร่างกายหรือไม่

สตช. ยืนยันในที่ประชุมว่า คดีนี้ได้มีการให้แพทย์ตรวจและบันทึกสภาพร่างกายของผู้ต้องสงสัยไว้เป็นหลักฐาน และได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งจากสำนวนคดี คำพิพากษา รวมทั้งข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีการทรมาน จึงไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่ในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้เพื่อความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

นอกจากนี้ อสส. ได้ยืนยันว่าคำพิพากษาในคดีนี้มีความชัดเจนแล้ว อีกทั้งผลการตรวจพิสูจน์ DNA โดยนักนิติวิทยาศาสตร์ปรากฏว่าถูกต้องตรงกับจำเลยทั้งสองคน คำพิพากษาของศาลจึงมาจากการพิเคราะห์พยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างรอบด้าน ไม่ได้นำคำรับสารภาพของจำเลยมาพิจารณาเพียงอย่างเดียว

ส่วนข้อเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือคณะกรรมการ ป.ป.ท. พิจารณาดำเนินการไต่สวนให้ปรากฏว่าข้อเท็จจริงว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้น

สำนักงาน ป.ป.ช. แจ้งว่า ไม่มีข้อขัดข้องต่อข้อเสนอดังกล่าว เพราะมีอำนาจตามกฎหมายที่จะตรวจสอบได้อยู่แล้ว อย่างไรก็ดีกรณีนี้ยังไม่ปรากฏว่า มีเหตุอันควรสงสัย หรือมีคนกล่าวหา จึงไม่ได้ทำการไต่สวนแต่อย่างใด ส่วนสำนักงาน ป.ป.ท. นั้น ปัจจุบันมีหนังสือสั่งการไปยังสำนักงาน ป.ป.ท. ภาค 8 แล้ว เพื่อให้ตรวจสอบว่ากรณีนี้มีเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการทุจริตหรือไม่ แต่ยังไม่ได้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนเพราะยังไม่ทราบผลการตรวจสอบที่ชัดเจน

ทั้งนี้คณะรัฐมนตรีได้มีมติรับทราบการรายงานผลดังกล่าวแล้ว และส่งรายงานให้สำนักงาน กสม. ต่อไป นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ มีข้อสั่งการถึงกระทรวงยุติธรรมด้วยว่า ให้ดำเนินการสร้างความเข้าใจประเด็นข้อกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ให้รวมถึงกรณีประเทศอื่น ๆ เช่น ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นจังหวัดเกาะสมุยมีคำพิพากษาเมื่อปลายปี 2558 ให้ประหารชีวิตจำเลยทั้ง 2 ราย โดยพิเคราะห์แล้ว เห็นทำนองว่า ผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอย่อมสามารถเชื่อมโยงและพิสูจน์ได้ว่า คนร้ายเป็นผู้ใด จากการตรวจพิเคราะห์วัตถุพยานดังกล่าวเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของจำเลยทั้งสองพบว่า ดีเอ็นเอที่ตรวจพบจากคราบอสุจิบริเวณช่องคลอดผู้ตายที่ 2 ตรงกับดีเอ็นเอ ของจำเลยที่ 2 ส่วนดีเอ็นเอที่ตรวจพบจากครอบอสุจิบริเวณช่องทวารหนักผู้ตายที่ 2 ตรงกับดีเอ็นเอของจำเลยทั้งสอง รายงานผลการทดสอบเปรียบเทียบอีเอ็นเอของคนร้ายกับดีเอ็นเอของจำเลยทั้งสอง ตามเอกสาร จ.17 มีค่าตำแหน่งดีเอ็นเอตรงกันทั้ง 16 ตำแหน่ง จึงสามารถพิสูจน์เอกลักษณ์ของบุคคลได้อย่างแน่ชัดเจนตามหลักมาตรฐานสากล ส่งผลให้การตรวจพิสูจน์มีน้ำหนักและมีความน่าเชื่อถือได้โดยสนิทใจ

พยานโจทก์ผู้ทำการตรวจเก็บและนำเนื้อเยื้อของจำเลยทั้งสองส่งตรวจพิสูจน์เบิกความยืนยันว่า ได้จัดส่งไปตรวจพิสูจน์ทันทีทันใด ดังนั้นย่อมไม่มีโอกาสที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์ผู้ตรวจผ่าศพและนักวิทยาศาสตร์ผู้ตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของคนร้านจะสามารถนำอสุจิหรือสารประกอบน้ำอสุจิซึ่งอยู่ในร่างกายส่วนลึกของจำเลยทั้งสองไปใส่ไว้ในช่องคลอดและช่องทวารหนักของผู้ตายที่ 2 ได้ ทั้งโจทย์ก็ยังพยานบุคคลยืนวันว่าจำเลยที่2เป็นผู้นำโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางของผู้ตายที่1มามอบให้ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุไม่นาน อันเป็นหลักฐานยืนยันได้ส่วนหนึ่งว่าจำเลยที่ 2 ย่อม จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุคดีนี้ พยานหลักฐานโจทย์ที่นำสืบมาทั้งในส่วนผลการตรวจดีเอ็นเอของจำเลยทั้งสอง ที่ตรงกับดีเอ็นเอขอคนร้าน วัตถุพยานของกลางในที่เกิดเหตุ รวมทั้งพยานแวดล้อมกรณีก่อนและหลังเกิดเหตุ ล้วนมีน้ำหนักพิสูจน์เชื่อมโยงให้เห็นและรับฟังได้โดยพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลหมายอาญา คงให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสองสถานเดียว

หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก mthai