- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- "กนก"แย้งนโยบายแจก"แท็บเล็ตพีซี"กระทบเด็ก-ขาดทักษะ จี้นายกฯแจงผู้ปกครอง
"กนก"แย้งนโยบายแจก"แท็บเล็ตพีซี"กระทบเด็ก-ขาดทักษะ จี้นายกฯแจงผู้ปกครอง
วันที่ 24ส.ค. ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมรัฐสภาอภิปรายคำแถลงนโยบายของรัฐบาล โดยมีพล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุมนั้น นายกนก วงศ์ตระหง่าน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายถึงนโยบายเร่งด่วนข้อ 15 หรือการจัดหาแท็บเล็ตพีซีให้นักเรียนในชั้นประถมปีที่ 1 ว่า นโยบายดังกล่าวไม่ตรงกับนโยบายที่ใช้ในการหาเสียง หลังบอกว่า จะแจกแท็บเล็ตให้นักเรียนทุกคนจึงทำให้ผู้ปกครองเข้าใจว่าเด็กนักเรียนทุกคนจะได้แท็บเล็ตพีซีครบทุกคน ซึ่งเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้รับผิดชอบต้องอธิบายกับผู้ปกครองทุกคนให้ได้
"ตนยังคิดว่าการเลือกให้แท็บแล็ตกับเด็กป.1 เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะถือเป็นระดับที่ยังต้องการพัฒนา ในด้านทักษะการอ่านการเขียน หากมีการใช้แท็บเล็ต หรือแบบใช้มือสัมผัสแทนการอ่านการเขียน จึงไม่ถือเป็นการช่วยพัฒนาทักษะการอ่านการเขียน ขณะเดียวกัน เด็กในขั้นนี้ต้องการครูมากกว่าต้องการแท็บเล็ต ผลเสียที่ตามมาก็คือว่า การพัฒนาการทางด้านสายตาและการมองเห็น หรือแม้กระทั่งปัญหาและสิ่งยั่วยวนทางอินเทอร์เน็ต ก็จะมีผลต่อเด็กอายุ 6 ปี ทั้งที่ยังไม่มีความสามารถในการกลั่นกรองสิ่งที่พบในโลกอินเทอร์เน็ต ปัญหาเหล่านี้ล้วนแล้วเกิดผลกระทบกับโรงเรียนและสังคมไทยในที่สุด
ทั้งนี้ นายกนก ยังกล่าวอีกว่า ในอนาคตของเด็ก นอกจากจะติดเกมจะติดแท็บเล็ตเพราะมีโอกาสใช้แท็บเล็ตเล่นเกมได้ตลอดเวลาแล้วนั้น หากจำเป็นต้องแจกแท็บเล็ตตามที่หาเสียงควรแจกกับเด็กชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีความพร้อมและมีเหมาะสมมากกว่า ประเด็นสำคัญคือ เนื้อหาที่จะใช้ในแทบเล็ตยังไม่มีใครทำ การปฏิบัตินโยบายโดยการอบรมครูเพื่อการสอนโดยใช้แท็บเล็ตจะทำอย่างไร ถ้าครูไม่พร้อมจะทำอย่างไร และความไม่พร้อมของโรงเรียนในชนบทที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตไร้สายจะทำอย่างไร หากยังมีการทำต่อไป ตนก็เกรงว่าจะเกิด 2 มาตรฐานขึ้น ระหว่างเด็กในชนบทกับในเมือง
อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญในการจัดซื้อเพื่อให้ได้ในราคา 3 พันบาทนั้น ก็จะเกิดปัญหาในเรื่องของคุณภาพ เพราะการจัดซื้อต้องซื้อมาสต๊อกไว้เพื่อแจกในแต่ละปีจะทำอย่างไร โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป โดยภาพรวมแล้วสิ่งที่รัฐบาลหาเสียงกำลังเป็นสิ่งที่ไม่ตรงกับสิ่งที่จะทำได้ เพราะนโยบายนี้กำลังจะสร้างปัญหาและมีความเสี่ยง ที่อาจทำให้เกิดผลลบต่อเด็ก พ่อแม่ จนกลายเป็นภาระของสังคมในที่สุด
ที่มาจาก :