- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- อสส.เชื่อหากได้ทำความเข้าใจคดีหุ้นชินฯแล้วสังคมจะปรองดอง
อสส.เชื่อหากได้ทำความเข้าใจคดีหุ้นชินฯแล้วสังคมจะปรองดอง
ทีม กม.ปชป.บุกขอสำเนาอัยการสั่งไม่ฎีกาคดีภาษีหุ้นชินฯ "จุลสิงห์"แจงก.ม.เห็นต่างได้ หากพูดจาทำความเข้าใจแล้วสังคมจะเกิดปรองดอง
นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คณะทำงานด้านยุติธรรม ได้เข้าพบ นายจุลสิงห์ วสันต์สิงห์ อัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อยื่นหนังสือขอสำเนาเอกสารคดี หลังจากอัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฎีกาคดีการหลีกเลี่ยงภาษีหุ้น บริษัทชิน คอร์ปเปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) จำนวน 546 บาท
นายถาวร กล่าวตอนหนึ่งว่า คดีนี้เป็นคดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามคำฟ้องของอัยการโจทย์ ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยคดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชนและเป็นคดีที่มีความสำคัญ เพราะมีการหลีกเลี่ยงภาษีจำนวนมาก อีกทั้งจำเลยเป็นบุคคลที่เป็นชนชั้นนำของประเทศ เกี่ยวพันเป็นเครือญาติของผู้นำประเทศ ซึ่งการพิจารณาไม่ฎีกาถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่จะเป็นบรรทัดฐานของพนักงานอัยการต่อไป
นายถาวร กล่าวว่า สิ่งที่คณะทำงานด้านยุติธรรมต้องการ คือ สำเนาความเห็นสั่งฟ้องของพนักงานอัยการทุกระดับชั้น ทุกคนในการพิจารณาสั่งฟ้องคดี สำเนาความเห็นคำสั่งไม่ฎีกาของพนักงานอัยการทุกระดับชั้น ทุกคนและอัยการสูงสุด สำเนาความเห็นการเขียนรายงานของพนักงานอัยการเมื่อรับทราบคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ของทุกคน ทุกระดับชั้น
สำเนาคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ รวมทั้งสำเนาหนังสือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ที่แจ้งให้อัยการสูงสุดยื่นฎีกา โดยขอให้อัยการสูงสุดรับรองสำเนาเอกสารทุกแผ่นและขอให้แจ้งภายในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ว่า จะอนุญาตหรือไม่ และหากให้ตามที่ร้องขอในวันที่ 11 ตุลาคมนี้ ตนจะมารับด้วยตนเอง
"หลังจากได้เอกสารแล้วคณะทำงานฯจะนำข้อมูลทุกคำสั่งมาวิเคราะห์ตั้งแต่ต้นกระบวนการ จนจบถึงชั้นอัยการสูงสุด ว่าถูกต้องตามหลักพิจารราคดีหรือไม่อย่างไร มีเหตุมีผลอย่างไร เพราะคำสั่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ แตกต่างกันมาก เพราะคดีการหลีกเลี่ยงภาษีนั้นส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศด้วย ซึ่งจำเป็นต้องมีบรรทัดฐาน ที่ผมมาเพราะคือผู้พิทักษ์ความเป็นธรรมให้ประชาชน ซึ่งอัยการต้องรักษาศักดิ์ศรีตรงนี้ไว้" นายถาวร กล่าว
ขณะที่นายจุลสิงห์ กล่าวว่า พร้อมให้ความร่วมมือกับคณะทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าความเห็นทางกฎหมายแตกต่างกันได้ และหากได้พูดจาทำความเข้าใจกันแล้วก็สามารถทำให้เกิดความปรองดองได้ โดยการขอสำเนาเอกสารต่างๆนั้นตนไม่ขัดข้อง และจะให้คำตอบได้ภายในสัปดาห์หน้าซึ่งคงไม่ช้าเกินไป เพราะในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ทางคณะกรรมาธิการองค์กรอิสระของวุฒิสภาได้เชิญตนให้ไปชี้แจง และให้เหตุผลถึงคำสั่งไม่ฎีกาคดีภาษีหุ้นชินคอร์ปในประเด็นที่หลายคนยังสงสัยอยู่ ซึ่งตนก็พร้อมจะไปชี้แจงเพื่อแสดงความบริสุทธิ์และความโปร่งใส