- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- ฮึ่ม!ใช้กฎหมายปรามนศ. เต้นอ้างภาพคอนกรีตร้าว
ฮึ่ม!ใช้กฎหมายปรามนศ. เต้นอ้างภาพคอนกรีตร้าว
"บิ๊กตู่" ย้อนถาม 11 นักศึกษาทำความผิดหรือไม่ ลั่นถ้าผิดต้องว่าไปตามขั้นตอน จะเอาประเทศปลอดภัยแต่ให้คนฝ่าฝืนกฎหมาย ให้สองฝ่ายมาตีกันถือว่าสื่อยุยงปลุกปั่นด้วย ตร.นัด "จ่านิว" พร้อมพวกมารับทราบข้อกล่าวหา 22 ธ.ค.นี้ ขู่หากไม่มาจะออกหมายจับ "ณัฐวุฒิ" โพสต์ภาพระบุรอยแตกร้าวบนพื้นคอนกรีตอุทยานราชภักดิ์พร้อมมอบให้ ศอตช. "จตุพร" โวย 2 มาตรฐานคนต่อต้านนักศึกษา-พุทธะอิสระบุกสถานทูตสหรัฐอเมริกาทำไมไม่จับ
เมื่อวันจันทร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์กรณีตำรวจออกหมายเรียก 11 นักศึกษาในกลุ่มประชาธิปไตยศึกษากรณีฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ว่า "อ้าว ก็ผิดหรือเปล่า ผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าผิดก็ว่าไปตามขั้นตอน"
เมื่อถามว่าจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของ คสช.หรือไม่ ที่มีการจับกุมกลุ่มนักศึกษาที่ต้องการออกมาแสดงความคิดเห็น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "แล้วสื่อไม่ดูภาพเวลาที่พวกเขาทำความผิดล่ะ คุณจะมองข้างเดียวไม่ได้ คุณจะเอาประเทศปลอดภัย แต่คุณก็ให้คนฝืนกฎหมาย แล้วคุณก็เอาสองฝ่ายมาตีกัน ผมก็ถือว่าคุณยุยงปลุกปั่นด้วย"
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อกระทรวงยุติธรรม ในเรื่องการตรวจสอบรอยร้าวบนพื้นคอนกรีตอุทยานราชภักดิ์ว่า ก็เป็นเรื่องของนายณัฐวุฒิ แต่การตรวจสอบในเรื่องนี้เรามีเจ้าหน้าที่ดำเนินการอยู่ ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์นั้น ตนยังไม่ได้รับรายงานใดๆ หากการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้วจะให้คณะกรรมการชุดดังกล่าวเร่งชี้แจงทันที
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีการออกหมายเรียกนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว แกนนำกลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตยศึกษา พร้อมพวกรวม 11 คน ที่ร่วมกิจกรรมนั่งรถไฟไปตรวจสอบการทุจริตโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า คดีนี้ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน หากการขยายผลพาดพิงไปถึงบุคคลใดก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายแน่นอน โดยกรณีการออกหมายเรียกกลุ่มนักศึกษาและพวกทั้ง 11 คนนี้ เป็นเพียงการเรียกตัวมาเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเท่านั้น เพราะพบว่ามีความผิดขัดกับประกาศ คสช.ฉบับที่ 3 จึงมีการออกหมายเรียกตามปกติ
"โดยหมายเรียกครั้งแรกได้นัดให้มาพบวันที่ 22 ธ.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ที่สถานีตำรวจรถไฟธนบุรี หากผู้ที่ถูกหมายเรียกเข้ามาพบในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ ก็จะมีการแจ้งข้อหาเข้าสู่กระบวนการสอบสวนต่อไป โดยสามารถยื่นขอประกันตัวได้ ส่วนถ้าไม่ขอประกันก็จะถูกควบคุมตัวตามกฎหมาย หากออกหมายเรียกแล้วยังไม่มาพบก็จะออกหมายเรียกเป็นครั้งที่สอง และหากยังไม่มาพบอีกก็จะขอศาลทหารออกหมายจับตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป กระบวนการยุติธรรมจะเป็นตัวชี้ให้ความยุติธรรมทั้ง 2 ฝ่ายอยู่แล้วว่าผิดหรือไม่อย่างไร" พล.ต.ต.ปิยะพันธ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ตำรวจจริงจังกับการดำเนินคดีผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์การทุจริตโครงการสร้างอุทยานราชภักดิ์ แล้วจะมีการดำเนินคดีเรื่องความไม่ชอบมาพากลของโครงการนี้บ้างหรือไม่ รอง โฆษก สตช.กล่าวว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่ที่การร้องทุกข์กล่าวหา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นลักษณะของต้นน้ำลำธารของกระบวนการยุติธรรม ทำหน้าที่หลังจากที่มีผู้ร้องทุกข์กล่าวหาตามกระบวนการยุติธรรม ถ้ามีการร้องทุกข์ตำรวจก็ต้องจะดำเนินการไปตามขั้นตอน อย่างกรณีกลุ่มนักศึกษาที่นั่งรถไฟไปตรวจสอบข้างต้นนั้น ก็เนื่องมาจากตำรวจขยายผลพาดพิงไปถึง จึงต้องออกหมายเรียกมาให้ข้อมูลตามขั้นตอน
"ไม่ต้องห่วง อะไรที่เกี่ยวพันเราจะดำเนินการทั้งหมด ส่วนการประสานงานไปทางกองทัพเพื่อตรวจสอบกรณีนี้ ยังไม่ถึงขั้นนั้น ส่วนกรณีการสร้างอุทยานฯ ตอนนี้ยังไม่มีการกล่าวโทษ เป็นเพียงการร้องทุกข์เท่านั้น ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ไม่ได้ต้องการประวิงเวลา แต่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้โครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ยังไม่มีการดำเนินคดี มีเพียงการตรวจสอบของกองทัพเท่านั้น" พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ระบุ
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพถ่ายและคลิปวิดีโอลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีรอยร้าวบนพื้นคอนกรีตภายในอุทยานราชภักดิ์ว่า เดิมทีตั้งใจส่งภาพถ่ายและคลิปวิดีโอเหล่านี้ให้ ศอตช. เพราะไม่ต้องการให้ใครเบี่ยงเบนเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอธิบายผ่านสื่อว่าสิ่งที่ตนพูดไม่เป็นความจริง จึงจำเป็นต้องแสดงข้อมูลทั้งหมดต่อสื่อมวลชน เจตนาเดียวของตนคือ ต้องการความกระจ่างเรื่องการทุจริตอุทยานราชภักดิ์ หากปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีผู้กระทำความผิดก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือถ้าจะยืนยันว่าทุกขั้นตอนโปร่งใสก็ต้องมีคำอธิบายที่สังคมยอมรับได้
เขาบอกว่า ภาพที่นำมาแสดงเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ทั้งภาพนิ่งชี้ตัวอย่างรอยแตกร้าวบนพื้นคอนกรีตและภาพเคลื่อนไหวในบางจุด อยากให้ ศอตช.พิจารณาสัญญาจัดจ้างและการใช้วัสดุในการก่อสร้างว่าถูกต้องตามระเบียบราชการหรือไม่ เหตุใดจึงเกิดชำรุดทั้งที่เพิ่งสร้างเสร็จและเปิดใช้ได้เพียง 3 เดือน ส่วนภาพต้นปาล์มก็แสดงให้เห็นว่ามีทั้งที่ปักป้ายรายนามผู้บริจาค และที่ปลูกโดยไม่มีป้ายชื่อ กรณีแบบนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร บัญชีรายรับในส่วนนี้สอดคล้องกับจำนวนต้นปาล์มที่ปลูกจริงในโครงการหรือไม่
"ผมเข้าใจว่า ศอตช.คงแสวงหาข้อมูลในการตรวจสอบทุกช่องทาง จึงเชื่อว่าภาพเหล่านี้จะถูกนำไปประกอบการดำเนินงานได้ทันที แต่หากต้องการให้ส่งมอบโดยตรงก็ขอให้ประสานงานมายินดีจะให้ความร่วมมือ ทั้งนี้เมื่อแสดงข้อมูลแล้วก็ขอให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายตรวจสอบดำเนินการ ไม่มีแนวทางจะเคลื่อนไหวรูปแบบอื่น ยกเว้นมีหลักฐานเพิ่มเติมก็จะส่งมอบ ศอตช.ต่อไป" นายณัฐวุฒิระบุ
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกกลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตยใหม่ รวม 11 คน ที่ร่วมกิจกรรมนั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ว่า การตั้งข้อหามีหลากหลายข้อกล่าวหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการชุมนุมเกิน 5 คน ซึ่งถามว่าคนที่ออกมาต่อต้านนักศึกษาที่บ้านโป่งเกิน 5 คนหรือเปล่า การจะดำเนินคดีกับนักศึกษาที่ไปชุมนุมนั้น เหตุการณ์ก็ไม่ได้แตกต่างจากกรณีพระพุทธะอิสระที่ไปชุมนุมหน้าสถานทูต 200 คน สำคัญที่สุดควรจะมีมาตรฐาน เห็นอยู่แล้วว่าบ้านเมืองนั้นมี 2 มาตรฐาน แต่ที่ คสช.ทำเวลานี้คือหลายมาตรฐาน จึงควรที่จะมีวุฒิภาวะเป็นผู้ใหญ่ หลักการเป็นผู้นำที่ดีนั้นควรจะทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก ไม่ใช่สร้างเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ควรจะมีจิตใจที่กว้าง
นายจตุพรกล่าวว่า นายกฯ เพิ่งพูดว่าจะไม่จับใครแล้ว อยากจะไปไหนก็ไป พอผ่านไป 2-3 วัน ลูกน้องก็ออกมาตามจับ เวลาไปพูดที่ต่างประเทศก็บอกว่าเป็นประชาธิปไตย 99.99% บางวันก็พูดมีความเป็นประชาธิปไตยมากกว่าสหรัฐอเมริกา เผลอแป๊บเดียวลูกน้องก็ไประรานคนอื่นเขา พล.อ.ประยุทธ์ควรต้องคิดให้มาก เมื่อพูดแล้วลูกน้องท่านไม่ปฏิบัติตาม คนที่เสียคือนายกฯ และที่เสียมากกว่าคือประเทศไทย ผู้บังคับบัญชาทำไปอีกทางหนึ่ง ผมถือว่าเป็นการทำลายเกียรติคุณตัวนายกฯ เอง อย่าให้มันเละไปมากกว่านี้ ทำอะไรควรระมัดระวังความรู้สึก รัฐบาลเผด็จการที่พังๆ กันไป ไม่ได้พังเพราะเรื่องใหญ่ รัฐบาลจอมพลถนอม จอมพลประภาส พังด้วยสิงสาราสัตว์แท้ๆ ที่ไปล่าสัตว์ที่ทุ่งใหญ่นเรศวรจนกลายเป็นเรื่อง
ขอบคุณข่าวจาก

