- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- จำคุกตลอดชีวิต4จำเลย ยิงถล่ม'กปปส.'ตาย3ปี57
จำคุกตลอดชีวิต4จำเลย ยิงถล่ม'กปปส.'ตาย3ปี57
ศาลฎีกาพิพากษายืนประหารชีวิต 4 จำเลยในคดียิง M79 ใส่ผู้ชุมนุม กปปส.เมื่อกุมภาพันธ์ปี 57 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย แต่จำเลยให้การสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี จึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต
วันที่ 22 ส.ค. 2560 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ 3734/2557 ที่อัยการศาลอาญากรุงเทพใต้พิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายชัชวาล หรือชัช ปราบบำรุง, สมศรี หรือเยอะ มาฤทธิ์, นายสุนทร หรือทร ผิผ่วนนอก และนายทวีชัย หรือวี วิชาคำ เป็นจำเลยที่ 1-4 กรณีร่วมกันยิงกระสุนระเบิดขนาด 40 มม. ด้วยเครื่องยิง M79 ไปตกลงบริเวณที่ชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ราชดำริ เมื่อวันที่ 23 ก.พ.2557 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บสาหัส 9 ราย และได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจอีก 12 ราย และทำให้แผงร้านค้าและรถตุ๊กๆ ที่จอดอยู่ในบริเวณจุดเกิดเหตุได้รับความเสียหาย
โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2558 ให้ตัดสินประหารชีวิตในข้อหาร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพกพาอาวุธไปที่สาธารณะลง 2 ปี แต่การสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา จึงลดโทษ 1 ใน 3 ในข้อหาร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ลงโทษคงเหลือจำคุกตลอดชีวิต และพกพาอาวุธคงเหลือจำคุก 1 ปี 4 เดือน เมื่อรวมโทษแล้วศาลให้ลงโทษเพียงสถานเดียวคือจำคุกตลอดชีวิตเท่านั้น และศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2559 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ต่อมาจำเลยทั้ง 4 ยื่นฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า ตามที่จำเลยอุทธรณ์ประเด็นที่โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เนื่องจากคดีนี้อยู่ในอำนาจสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยอ้างประกาศดีเอสไอเรื่อง มติคณะกรรมการคดีพิเศษให้คดีความผิดทางอาญาอื่นเป็นคดีพิเศษ กรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวก ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดอาญาสืบเนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองในพื้นที่กรุงเทพฯ และบางจังหวัด รวมถึงบุคคลอื่นที่มีส่วนในการกระทำความผิดด้วยและความผิดที่ต่อเนื่องหรือเกี่ยวพันกันนั้น การกระทำความผิดของจำเลยทั้ง 4 เป็นการกระทำต่อผู้ชุมนุม กปปส. ไม่ได้เป็นการกระทำความผิดร่วมกับนายสุเทพหรือพวกในการก่อเหตุ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องคดี ประเด็นที่จำเลยฎีกาจึงฟังไม่ขึ้น
ส่วนประเด็นที่จำเลยกล่าวอ้างว่าระหว่างที่อยู่ในการควบคุมตัวของทหารตามกฎอัยการศึกเป็นเวลา 7 วัน มีการทำร้ายร่างกายเพื่อให้สารภาพ ศาลเห็นว่าเป็นเพียงการกล่าวอ้างลอยๆ เท่านั้น ในตอนที่ถูกส่งต่อให้ตำรวจก็ไม่มีการแจ้งพนักงานสอบสวนในเรื่องนี้ อีกทั้งจำเลยที่ 1 ที่เข้าร่วมชุมนุมเรียกร้องกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) น่าจะเข้าใจเรื่องสิทธิเสรีภาพเป็นอย่างดี แต่เมื่อมีการนำตัวมาแถลงข่าวและทำแผนก็ไม่มีการพูดถึงเรื่องดังกล่าว โดยในวันดังกล่าวจำเลยทั้ง 4 ก็ยังไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพและขอขมาต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วยหากมีการทำร้ายร่างกายจำเลยทั้ง 4 จริง ในวันแถลงข่าวและทำแผนก็น่าจะปรากฏร่องรอยอยู่บ้าง นอกจากนั้นในคำให้การของ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ที่เข้าตรวจจำเลยทั้ง 4 ในเรือนจำ ไม่ตรวจพบบาดแผล และตามที่จำเลยอ้างถึงเอกสารการประชุม กสม. ก็ไม่ปรากฏว่ามีการพูดถึงกรณีของจำเลยทั้ง 4 คน
ส่วนที่จำเลยอ้างว่า เมื่อถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวนแล้ว ในระหว่างการสอบปากคำไม่มีผู้ที่ไว้วางใจและทนายความ ในเอกสารสอบปากคำจำเลยได้ปรากฏลายมือชื่อของทนายความและยังมีเอกสารรับรองของทนายความที่เข้าร่วมการฟังสอบปากคำมาด้วย อีกทั้งพนักงานสอบสวนที่ทำการสอบปากคำพยานจำเลยยังมาเบิกความยืนยันอีกด้วยว่า มีการให้ทนายความเข้าร่วมฟังการสอบปากคำด้วย ศาลจึงเห็นว่าพนักงานสอบสวนคงไม่นำผู้ที่ไม่ได้เป็นทนายความมาเข้าร่วมฟังการสอบสวน
ศาลฎีกาจึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้ตัดสินประหารชีวิตในข้อหาร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพกพาอาวุธไปที่สาธารณะลง 2 ปี แต่การสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา จึงลดโทษ 1 ใน 3 ในข้อหาร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ลดโทษคงเหลือจำคุกตลอดชีวิต และพกพาอาวุธคงเหลือจำคุก 1 ปี 4 เดือน เมื่อรวมโทษแล้วศาลให้ลงโทษเพียงสถานเดียว คือจำคุกตลอดชีวิตเท่านั้น และศาลสั่งให้ริบเครื่องยิงกระสุนระเบิด M79 และเครื่องกระสุนไว้ เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุ ส่วนรถยนต์ทั้ง 3 คันเป็นเพียงพาหนะที่ใช้อำนวยความสะดวกในการกระทำความผิด จึงไม่สามารถริบได้ ให้คืนเจ้าของ
น.ส.ภาวิณี ชุมศรี ทนายความของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ดูแลคดีให้จำเลย เปิดเผยว่า คำพิพากษาของศาลฎีกาเห็นว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดตามที่ศาลอุทธรณ์ พิพากษามา จึงพิพากษายืนให้จำคุกไว้ตลอดชีวิต ซึ่งจำเลยทั้งหมดต้องรับโทษตามคำพิพากษาที่ให้จำคุกตลอดชีวิต ขณะที่ตลอดเวลาการพิจารณา ตั้งแต่ศาลชั้นต้นจำเลยทั้งสี่ไม่ได้รับการประกันตัวแต่อย่างใด