- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- แพทย์จ่อศึกษา4ตำรายาไทยมีกัญชาเป็นส่วนประกอบ
แพทย์จ่อศึกษา4ตำรายาไทยมีกัญชาเป็นส่วนประกอบ
กรมแพทย์แผนไทย จ่อ ขอศึกษา 4 ตำรายาไทยมีกัญชาเป็นส่วนประกอบ พร้อมเดินปลูกสายพันธุ์ไทยแถบลุ่มน้ำภูพาน เผย 29 ต.ค.นี จัดใหญ่ “วันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ” 25-29 ต.ค.นี้ พร้อมเปิดตัว 9 ตำรายาของชาติ
เมื่อวันที่ 22 ต.ค. นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวในการแถลงข่าวการจัดงานสัปดาห์วันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ ประจำปี 2561 ว่า ทุกวันที่ 29 ต.ค. ของทุกปีเป็นวันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ ทางกรมฯ พร้อมเครือข่าย จึงได้จัดงานสัปดาห์วันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ ปีที่ 3 ขึ้นที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ระหว่างวันที่ 25 - 29 ต.ค. นี้ ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น.โดยจะมีพิธีถวายราชสดุดีพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า รัชกาลที่ 3 พระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย มีการเปิดตัวตำรับยาของชาติจากจารึกวัดโพธิ์ 9 ตำรับ คือยาอินทร์ประสิทธิ์ แก้ลมบำรุงหัวใจ ยาแผ้วฟ้า แก้ละอองไอในปากและคอ ยากำลังราชสีห์ บำรุงโลหิต ยาประสะน้ำมะนาว แก้หอบหืด แก้ไอ ยาฆ้องไชย แก้เสียงแหบแห้ง เสมหะเหนียว ยาประคบแก้ปวดเมื่อย คลายเส้น ฟกบวมเคล็ดขัดยอก ยาพรหมพักตร์ ขับเลือดเสีย ยาสนั่นไตรภพ แก้กษัยขับลม และยาหทัยวาตาธิคุณ แก้โรคลม
นพ.มารุต กล่าวว่า ในตำรายาที่จะเปิดตัวมี 1 ตำรับที่มีกัญชาเป็นส่วนประกอบด้วย ตำรับสนั่นไตรภพ แต่ปัจจุบันเนื่องจากยังไม่ปลดล็อกทางกฎหมาย จึงมีการยกเลิกการใช้ส่วนผสมแบบดั้งเดิมไป อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกำลังมองว่า กัญชาที่จะมาใช้ในปัจจุบันจะดำเนินการอย่างไร โดยเจ้าของเรื่องหลัก คือสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ขณะเดียวกัน นพ.โสภณ เมฆธน ที่ปรึกษารมว.สาธารณสุข ก็ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ที่ดำเนินการเรื่องนี้ โดยบูรณาการจากทุกส่วน ทุกกรมที่เกี่ยวข้อง ส่วนกรมการแพทย์แผนไทยฯ จะเสนอ 4 ตำรับยาอื่นๆ ที่มีกัญชาผสม คือ 1.ตำรับศุขไสยาศน์ 2.ตำรับทำลายพระสุเมรุ 3.ตำรับน้ำมันสนั่นไตรภพ และ 4.ตำรับทัพยาธิคุณ ขอให้คลายล็อกกัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์ เพื่อศึกษาและดูผลจากการรักษาดีอย่างไร
ด้าน นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ ผอ.สถาบันการแพทย์แผนไทย กล่าวว่า ตำรับศุขไสยาศน์ มีสรรพคุณช่วยให้นอนหลับสบาย แก้ปวด เจริญอาหาร ซึ่งนำมาใช้ทดแทนหรือเสริมกับยาแผนปัจจุบันในกลุ่มยานอนหลับ ยาคลายเครียด 2.สูตรตำรับทำลายพระสุเมรุ มีฤทธิ์ช่วยแก้อาการแข็งเกร็งจากอัมพฤกษ์อัมพาตได้ 3.ตำรับน้ำมันสนั่นไตรภพ ช่วยเรื่องท้องมานท้องบวม คลายลมในท้อง ท้องอืดจากโรคมะเร็งตับ และ 4.ตำรับทัพยาธิคุณ ช่วยเรื่องโรคเบาหวาน ลดน้ำตาล เนื่องจากทางแพทย์แผนไทยจะมองว่า โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เป็นกลุ่มที่เรียกว่ากษัย ซึ่งตัวนี้จะช่วยได้ ทั้งนี้ 3 ตำรับเป็นสูตรยารับประทาน ลักษณะแคปซูล หรือยาลูกกลอน ยกเว้นตำรับสนั่นไตรภพ เป็นน้ำมันสำหรับทาบริเวณท้อง
เมื่อถามว่าถึงแนวคิดปลดล็อกกัญชาด้วยการให้อย.พิจารณาปรับจากยาเสพติดประเภท 5 เป็นประเภท 2 จะมีผลต่อสูตรตำรับแพทย์แผนไทยหรือไม่ ที่ใช้ดอก ใช้ใบ นพ.ขวัญชัย กล่าวว่า กำลังพิจารณา แต่ของเดิมแม้จะใช้ดอก ยอด ใบ แต่เอามาต้มก็เป็นสารสกัดน้ำ เป็นยาต้มบรรจุขวด หรือสกัดจากแอลกอฮอล์ หรืออาจสกัดในรูปผงและนำมาบรรจุเป็นแคปซูล แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบไหนก็จะถูกควบคุมหมดโดย อย. อย่างไรก็ตามระหว่างนี้ทางกรมฯ ก็มีแผนปลูกกัญชาสายพันธุ์ไทยบริเวณเชิงเขาภูพาน บริเวณลุ่มน้ำสงคราม ซึ่งอยู่ในจ.นครพนม สกลนคร และมุกดาหาร เบื้องต้นได้ประสานมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร ในการขอใช้พื้นที่ 2 ไร่ เพื่อทำการปลูกในระบบควบคุม เพื่อนำมานำเป็นสูตรตำรับยาแพทย์แผนไทยในอนาคต
“สิ่งหนึ่งที่กังวลคือหากมีการเข้มงวดมากจะกลายเป็นว่าสารสกัดยาเสพติดประเภท 2 จะเป็นสารสกัดที่นำเข้าหรือผลิตโดยต่างประเทศทั้งหมดเพราะประเทศไทยยังไม่มีอุตสาหกรรมหรือโรงงานที่ทำได้ ซึ่งจะทำให้เราเสียเปรียบ ซึ่งจากนี้เราจะมีการเก็บข้อมูลเรื่องกัญชาเป็นสารเสพติดโดยจะมีการติดตามผลเมื่อจ่ายผู้ป่วยไปแล้วมีการติดหรือไม่ ซึ่งจะศึกษาในผู้ป่วย 100 ราย และหากมีผลที่ดีคือมีสรรพคุณที่ดีปลอดภัยไม่ทำให้เสพติดก็จะขยายโดยการเก็บข้อมูล1,000 ราย หากผลดีก็จะต่อยอดไปขึ้นในทะเบียนบัญชียาหลักแห่งชาติ ของแพทย์แผนไทย เพื่อให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวาง ซึ่งต้องรอปลดล็อกก่อน” นพ.ขวัญชัย กล่าว
ภญ.คลิชา ชั่งสิริพร เภสัชกรประจำรพ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า ในสูตรตำรับมีหลายชนิด กัญชาเป็นหนึ่งในนั้น แต่ปัจจุบันต้องตัดออกเพราะกฎหมายไม่อนุญาต แต่ก็ไม่มีการศึกษาเปรียบเทียบว่าพอตัดกัญชาออกไปแล้วทพให้ประสิทธิภาพของยาลดลงหรือไม่ จึงไม่มีการเปรียบเทียบว่าหากมีหรือไม่มี แบบไหนมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน ส่วนที่ยังติดล็อกทางกฎหมายอยู่นั้น ก็เป็นเรื่องของนโยบาย ซึ่งต้องรอลุ้นว่าผู้ใหญ่จะปลดล็อกได้หรือไม่ ก็ต้องรอดูว่าจะเป็นข่าวดีของวงการแพทย์หรือไม่.