สภาผู้แทนสหรัฐฯ ผ่านกม.หนุนสิทธิมนุษยชนฮ่องกง จีนคำราม ‘หยุดแทรกแซง’
รอยเตอร์ - สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติเอกฉันท์ผ่านร่างกฎหมาย 4 ฉบับซึ่งเป็นการประกาศจุดยืนแข็งกร้าวต่อจีนเมื่อวานนี้ (15 ต.ค.) โดย 3 ฉบับเกี่ยวข้องกับการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง และอีกฉบับมีเนื้อหาชื่นชมรัฐบาลแคนาดาที่ช่วยจับกุมผู้บริหาร หัวเว่ย เทคโนโลยีส์
มาตรการกดดันจีนครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อยุติสงครามการค้า
ร่างกฎหมายฉบับแรกได้แก่ กฎหมายว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกง (Hong Kong Human Rights and Democracy Act) ซึ่งกำหนดให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ต้องส่งรายงานยืนยันสถานะการปกครองตนเองของฮ่องกงเป็นประจำทุกปี เพื่อให้เกาะศูนย์กลางการเงินแห่งนี้ยังคงได้รับสิทธิพิเศษทางการค้าจากสหรัฐฯ ต่อไป
ร่างกฎหมายฉบับที่ 2 คือ กฎหมายปกป้องฮ่องกง (Protect Hong Kong Act) ซึ่งห้ามมิให้สหรัฐฯ ส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์หรืออุปกรณ์ควบคุมฝูงชนที่ตำรวจฮ่องกงอาจจะนำไปใช้ปราบปรามผู้ชุมนุมได้
ทั้งนี้ วุฒิสภาสหรัฐฯ ยังไม่มีกำหนดลงมติเพื่อรับรองร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้ ซึ่งหากผ่านการรับรองก็จะถูกส่งไปให้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามประกาศใช้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ยืนยันว่าวุฒิสภาจะโหวตร่างกฎหมายว่าด้วยฮ่องกงภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
สำหรับร่างกฎหมายฉบับที่ 3 นั้นเป็นการยอมรับความสัมพันธ์สหรัฐฯ-ฮ่องกง, ประณามพฤติกรรมแทรกแซงของปักกิ่ง และสนับสนุนสิทธิของพลเมืองฮ่องกงในการออกมาชุมนุมประท้วง ทว่าไม่ได้มีผลผูกพันทางกฎหมาย
คณะผู้บริหารฮ่องกงได้แสดงความผิดหวังต่อการผ่านกฎหมายฉบับนี้ และย้ำว่าสภานิติบัญญัติต่างชาติไม่ควรที่จะก้าวก่ายกิจการภายในของฮ่องกง
ร่างกฎหมายฉบับที่ 4 ซึ่งไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายเช่นกันเป็นการชื่นชมรัฐบาลแคนาดาที่ปฏิบัติตามคำขอของสหรัฐฯ ในการจับกุมและเนรเทศ เมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและบุตรสาวผู้ก่อตั้งหัวเว่ย ซึ่งถูกจับกุมที่เมืองแวนคูเวอร์เมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว
เมิ่ง ถูกทางการสหรัฐฯ ตั้งข้อหาฉ้อโกงและหลอกลวงธนาคาร เอชเอสบีซี โฮลดิงส์ พีแอลซี เกี่ยวกับธุรกิจของหัวเว่ยในอิหร่าน ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎหมายคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ในขณะที่ เมิ่ง ยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนและคัดค้านการถูกส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปอเมริกา
สหรัฐฯ กล่าวหาหัวเว่ยว่าขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของอเมริกันและละเมิดมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ในขณะที่สมาชิกสภาคองเกรสหลายคนทั้งฝั่งเดโมแครตและรีพับลิกันเห็นตรงกันว่า บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีนรายนี้เป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ
ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศจีนได้ออกมาแถลงตอบโต้วันนี้ (16) โดยระบุว่าปักกิ่งคัดค้านร่างกฎหมายฮ่องกงที่เพิ่งผ่านสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และเรียกร้องให้นักการเมืองอเมริกันหยุดแทรกแซงกิจการภายในฮ่องกง
เกิ่ง ส่วง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ยังเตือนด้วยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อาจถูกทำลายลง หากมาตรการเหล่านี้ถูกประกาศเป็นกฎหมาย
การชุมนุมประท้วงในฮ่องกงมีสาเหตุมาจากการที่เยาวชนคนรุ่นใหม่รู้สึกว่าเสรีภาพและระบอบประชาธิปไตยในดินแดนซึ่งเป็นอดีตอาณานิคมอังกฤษแห่งนี้กำลังถูกจีนลิดรอน
ปักกิ่งปฏิเสธข้อครหาดังกล่าว และโทษรัฐบาลตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐฯ และอังกฤษว่าพยายามยุยงปลุกปั่นคนฮ่องกงให้ต่อต้านจีน
สถานการณ์ในฮ่องกงนับเป็นวิกฤตท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ซึ่งเข้ารับตำแหน่งผู้นำแดนมังกรในปี 2012 และล่าสุด สี ก็ได้เอ่ยเตือนในสัปดาห์นี้ว่า ผู้ใดก็ตามที่คิดแบ่งแยกดินแดนจีนจะต้องถูก “บดขยี้” เป็นจุณ
