- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- เด้งด่วน'ร.ต.อ.'ทะเลาะชาวบ้าน!'จักรทิพย์'สั่งเข้มอย่าลุแก่อำนาจ
เด้งด่วน'ร.ต.อ.'ทะเลาะชาวบ้าน!'จักรทิพย์'สั่งเข้มอย่าลุแก่อำนาจ
เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2562 - พ.ต.อ.กฤษณะพัฒนเจริญรองโฆษกตร. เปิดเผยถึงกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปในสื่อสังคมออนไลน์เหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายประชาชนที่มาสอบถามความคืบหน้าคดีในพื้นที่สภ.ย่อยโนนสูงจ.อุดรธานี ว่าได้รับรายงานจากภ.จว.อุดรธานีว่าจากการตรวจสอบในคลิปดังกล่าวพบว่าชายในคลิปดังกล่าวเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัดตนจริงคือร.ต.อ.เรืองเดชศรีนวลจันทร์รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานีซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าขณะเกิดเหตุนั้นร.ต.อ.เรืองเดช ไม่อยู่ในขณะปฏิบัติหน้าที่ คู่กรณีในคลิปอ้างว่าเป็นตัวแทนผู้เสียหายมาติดตามความคืบหน้าคดีแต่เกิดมีปากเสียงกระทบกระทั่งกันในเบื้องต้นผู้ที่ถูกกล่าวอ้างว่าถูกทำร้ายยังไม่ได้มาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน
ขณะนี้ภ.จว.อุดรธานีได้มีคำสั่งให้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตามระเบียบและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคู่กรณีดังกล่าวมาประจำที่ศปก.ภ.จว.อุดรธานีหากการตรวจสอบพบว่ามีความผิดจริงจะมีการเอาผิดทั้งวินัยและถูกดำเนินคดีอาญาตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป
รองโฆษกตร. กล่าวต่อว่าในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตร.คนดังกล่าวรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคู่กรณีตามคลิปโดยในส่วนของคดีรถเฉี่ยวชนนั้นได้นัดหมายคู่กรณีให้มาไกล่เกลี่ยกันในวันที่ 19 ต.ค. 62 และได้ทำการสอบสวนในคดีนี้มาอย่างต่อเนื่องเป็นธรรมกับทุกฝ่ายมาโดยตลอดตามขั้นตอนของกฎหมาย
ทั้งนี้พล.ต.อ.จักรทิพย์ชัยจินดาผบ.ตร. ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายปฎิบัติหน้าที่ด้วยกิริยาวาจาที่สุภาพมีวินัยการเป็นตำรวจต้องเป็นตลอด 24 ชม. พร้อมทั้งสั่งการไปยังกองบัญชาการทุกภาคส่วนผู้บังคับการผู้กำกับหน.หน้าหน่วยในทุกต้นสังกัดทุกพื้นที่ให้มีการควบคุมดูแลความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจทั้งเวลาราชการและนอกเวลาราชการตามคำสั่งที่1212/2537 ในการกวดขันกำกับดูแลสอดส่องความประพฤติและพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจภายใต้การปกครองบังคับบัญชาอย่างใกล้ชิดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายระมัดระวังกิริยามารยาทในการแสดงออกและขอเตือนเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายอย่าลุแก่อำนาจที่ตนมี หากพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความพฤตินอกรีตไปเรียกรับเงินทองเรียกรับผลประโยชน์อื่นใดหรือแม้กระทั่งใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบโดยให้ดำเนินการตรวจสอบกระทำด้วยความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายซึ่งหากผลการตรวจสอบพบว่าได้กระทำผิดจริงให้ดำเนินทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด
รองโฆษกกล่าวต่อว่าที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการลงทัณฑ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำในลักษณะนี้ทั้งไล่ออกปลดออกให้ออกหากความผิดปรากฎชัดเจนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศมาโดยตลอดไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่างเสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์กรและเสียกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดี